สามวันมานี้ (8-10 เมษ.09) ขณะที่บรรยากาศการเมืองในกอทอมอร้อนระอุด้วยสีแดงเดือด ป้าเจี๊ยบพาเพื่อนๆ ร่วมงานประมาณ 30 ชีวิต ไปชะอำกันค่ะ
ไม่ไปเที่ยวหรอกนะคะ ไปทำงานกัน และทำกันอย่างจริงจังซะด้วย เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องประชุม
เป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จคือปรับหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตที่ใช้เวลาเรียน 5 ปี ฉบับบุกเบิกฉบับแรกของประเทศไทย ซึ่งมีชื่อเรียกกันในหมู่นักพัฒนาหลักสูตรว่า "หลักสูตรพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน" เพราะเป็นหลักสูตรแรกและหลักสูตรเดียวที่เป็นหลักสูตร "อิงผลลัพธ์การเรียนรู้" บวกกับ "ชุดวิชา" ที่ไม่เหมือนใคร ปี้นี้ใช้มาครบ 5 ปีแล้วก็ได้เวลาปรับปรุงค่ะ
หลักสูตรนี้คลอดเมื่อปี 2547 แต่กว่าจะออกมาได้ก็ใช้เวลาทำนานตั้ง 4 ปีค่ะ เริ่มตั้งแต่สมัยปฏิรูปการฝึกหัดครูปี 2544 ด้วยความตั้งใจยกระดับวิชาชีพครูให้มีความเข้มข้น ได้ครูมืออาชีพ และเป็นอาชีพที่ได้รับความคุ้มครอง แบบว่าใครจะเป็นครูต้องมีใบอนุญาตสอน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นแล้ว
สมัยโน้น กระทรวงศึกษาฯ มอบหมายให้สวนสุนันทาไปคิดหลักสูตรกู้ชาติ..เอ้ย กู้อาชีพครูขึ้นมา ในฐานะที่อยู่ในวงการมาเก่าแก่ เป็นหนึ่งในพี่เบิ้มของการผลิตครู
ป้าเจี๊ยบก็เกะกะๆอยู่ในสวนสุนันทา ตอนที่ท่านอธิการบดีในยุคนั้นมาบอกกับชาวครุศาสตร์ว่า “ช่วยคิดทำหลักสูตรใหม่กันหน่อย เอาแบบว่าพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเลยนะ” โห..พูดจริงรึเปล่า? แน่นะ เพราะถ้าไม่จริง ป้าเจี๊ยบขี้เกียจเสียเวลาทำ เพราะเท่าทีผ่านมา ยังไม่เห็นว่าในวงราชการนี่จะทำอะไรที่ภาษาสมัยใหม่เรียกว่า “นวัตกรรม” ได้จริงสักที
แต่ด้วยความที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง และมีคำสั่งให้เป็นคณะกรรมการวางกรอบแนวคิดของหลักสูตร น่าจะถูกเลือกให้เป็นด้วยความที่ติดกลุ่มพวกคิดและทำอะไรนอกกรอบจนเข้าตากรรมการ ก็เลยลุยดูซักตั้งด้วยการประชุมแบบทุบโต๊ะกับเพื่อนๆ จนได้ข้อสรุปออกมาเป็นหลักสูตรแบบชุดวิชา แต่ไม่ใช่ชุดวิชาแบบมสธ.นะคะ เป็นแบบที่ทีมงานคิดว่าน่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีได้จริง แต่หลักการใหญ่ๆ คือ อิงผลลัพธ์การเรียนรู้ (outcomes-based) และอิงปรีชาสามารถ (competency-based)
การพัฒนาหลักสูตรนี้เป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสจริงๆค่ะ สำหรับป้าเจี๊ยบเพราะ in มาก ขนาดที่ว่าคณะกรรมการชุดอื่นๆ ที่แต่งตั้งมากมายหลายคณะมีประชุมอะไร ป้าเจี๊ยบก็แจ๋เข้าไปร่วมทั้งนั้น แบบว่าเกาะติดสถานการณ์ด้วยใจรักจริง เพราะไม่มีคำสั่งให้ทำ กล้าพูดได้เต็มปากเลยค่ะว่า ป้าเจี๊ยบมีข้อมูลการทำงานเรื่องนี้สมบูรณ์กว่าทุกคน เพราะส่วนใหญ่จะทำเฉพาะส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ
สมัยนี้ หลายคนอาจลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า ตอนแรกกระทรวงศึกษาฯ สั่งให้ทำเป็นหลักสูตร 6 ปีค่ะ (ป้าเจี๊ยบเขียนบทความเรื่องการพัฒนาหลักสูตรครู 6 ปี ลงหนังสืออะไรสักเล่มของจุฬาฯไปเมื่อปี 2546 ถ้าสนใจอยากรู้อ่านต้นฉบับที่นี่ก็ได้ค่ะ)
การปรับหลักสูตรครั้งนี้ก็เริ่มแบบเครียดหน่อยๆ เพราะสมาชิกที่พากันมาส่วนใหญ่เป็นอาจารย์รุ่นเด็กๆ ทั้งนั้น แบบว่ามีช่องว่างระหว่างวัยราวๆยี่สิบปี คนที่ทำหลักสูตรนี้มาด้วยกันกับป้าเจี๊ยบก็เกษียณไปเกือบหมดแล้ว เหลือที่มาคราวนี้ 4-5 คนเท่านั้น
ทุกคนตั้งใจและเอาจริงเอาจังมากค่ะ จนคาราโอเกะที่ป้าเจี๊ยบติดไปงั้นๆ ก็ได้ใช้ทำหน้าที่คลายเครียดให้เพื่อนๆได้...
หนูเคยร่วมทำSWOT กับคณะผู้บริหาร เป็นแผนปฏิบัติงาน ของโรงเรียน บรรยากาศเครียด แต่ภาพรวมออกมาดี เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่น่าจดจำค่ะ