หนึ่งในงาน ชาติ กอบจิตติ
เพราะสังคมปัจจุบัน มันมีความหลอกลวงมากเกินความจิง
คนเราถึงต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน
แต่ก้ออย่างว่ามีมุมมืด ก้อยังต้องมีมุมสว่างอยู่
ถึงแม้จะเป็นแสงสว่างเพียงน้อยนิด
แต่ก้อยังพอสร้างสิ่งที่มีค่าที่สุดกับสิ่งมีชีวิตเล้กๆอีกหลายชีวิต
จิงมะคะ
^^
ใช้ครับชีวิตเล็ก ๆ ที่ไร้แสงสว่างก็ยังมีอีกมากมาย
วันนี้เราเรียนรู้เพื่ออยู่ให้ได้ในมุมเล็ก ๆ ของเราถึงมันจะมืดจากผู้คน
แต่มันจะส่องสว่างจากข้างในของหัวใจ
แค่นี้ก็สุขเกินพอแล้วครับ
"ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาทดลองให้ ความเป็นเพื่อน กับคนที่คิดว่าจะเป็นเพื่อนได้
แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง เพราะสิ่งที่เขายื่นให้นั้น มักจะถูกเปลี่ยนแปลงเป็นอาวุธ
ยามเมื่อเขาเผลอหันหลังให้เขาก็จะถูกแทง"
นั้นคือเรื่องจริงที่โดนมากับตัว "ทำไมน้ำมิตรบริสุทธ์ถึงถูกตีค่าโหดร้ายนัก"
v
v
นั่นมันก็ไม่ใช่เสมอไปกับทุกคนหรอกนะคะ เพื่อนแท้ยังมีอีกเยอะ แม้ในยามเผลอเค้าก็ช่วยเตือนเราให้เราได้ แต่หากโชคร้ายเจอคนไม่ดีก็ช่วยไม่ได้ คนเราก็ใช่ว่าจะดีหรือเลวโดยตลอดทั้งหมดนิคะ
นักเขียนซีไรต์สองสมัยท่านนี้ เป็นนักเขียนในดวงใจผมเลยครับ เรื่องของไอ้ฟัก ยังติดตาตรึงใจอยู่ไม่รู้หาย-
การอ่านหนังสือ เสมือนการได้เดินเล่นในสวนดอกไม้ที่ละลานตาด้วยแมกไม้นานาชนิด...
ผมเชื่อเช่นนั้นครับ
สวัสดีครับกนกวรรณ
ใช่ครับ..
แต่สังคมคนปัจจุบันน้ำมิตรแท้ช่างหายากเข็ญ
มีเพียงสมนึกแง่ดีเท่านั้นที่จะช่วยเราดำรงตนได้อย่างบริสุทธิ์ใจ
ครับคุณพนัส
คำพิพากษา เรื่องเศร้าสะเทือนใจ
กับเรื่องเส้นแบ่งกั้นบาง ๆของสังคมมนุษย์ ในเรื่อง ชั่ว-ดี และ ถูก-ผิด
เมื่อนึกถึง ชาติ กอบจิตติ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเพื่อนคนนึงที่จากไปแล้ว เพราะเขาก็มีบุคลิก และนิสัย คล้ายๆอย่างนี้และ
และวันหนึ่ง เมื่อเราได้อ่านหนังสือนอกเวลา (ในตอนนั้น) พวกเราก็ตั้งชื่อให้มันใหม่ว่า "ไอ้โค พันธุ์หมาบ้า "