สถาบันการศึกษาเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการพัฒนาและจัดการศึกษาให้กับเยาวชนของชาติ ควรเป็นสถานที่ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด รวมทั้งปลอดจากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเสพสิ่งเสพติดต่าง ๆ อีกด้วย
แต่ในสภาพความเป็นจริง ตามสถาบันต่าง ๆ รอบเขตพื้นที่โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ส่วนมากจะเต็มไปด้วยสถานบันเทิง ร้านอาหาร คาราโอเกะ และร้านเกมส์ ล้วนแต่เป็นสิ่งยั่วยวนใจ และมอมเมาให้เยาวชนเกิดความหลงใหล มีจิตคิดอยากเสพ อยากลอง อยากเป็น และอยากรู้ เมื่อพบเห็นสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ซึ่งอยู่นอกเขตการควบคุมของสถานศึกษา
รัฐเองก็ได้ออกพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.๒๕๕๑ ได้วางมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่สถานศึกษา หรือบริเวณสถานศึกษาดังกล่าว (มาตรา ๒๗ ) เพื่อให้สถานศึกษาปลอดจากเครื่องดิ่มแอลกอฮอล์
การห้ามขายอย่างเดียวยังไม่สามารถที่จะควบคุมได้อย่างเข็มงวดอีก จึงเพิ่มมาตรการทางกฎหมายอีกอย่างหนึ่งคือ ห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษาอีกด้วย ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี หรือสถานศึกษาที่สอนการผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และได้รับอนุญาตตามกฎหมาย(มาตรา ๓๐)
คำว่า "สถานศึกษา" หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชนทีมีอำนาจหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือความหมายของคำว่า"เครื่องดื่มแอลกอฮอล์" หมายถึงสุราตามกฎหมายว่าด้วยสุรา แต่ไม่รวมถึงยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ยาเสพติดให้โทษ
ส่วนสุราในปัจจุบัน จะมีทั้งสุราแช่ สุราแช่ผลไม้ สุราแช่พื้นเมือง สุรากลั่น สุราขาว สุรากลั่นชุมชน สุราผสม สุราปรุงพิเศษสุรากลั่นยาอื่น และสุราสามทับ
สุราพิเศษ ได้แก่วิสกี้ คือสุราที่กลั่นจากธัญพืช เช่นข้าวมอลท์ ข้าว ข้าวโพด มีการเก็บป่มสุราอย่างน้อย ๒ ปี ก่อนปรุงแต่งออกจกหน่าย ส่วนบรั่นดี คือสุราที่กลั่นจากไวน์องุ่น
นอกจากนี้ เพื่อมิให้เยาวชนตกเป็นทาสของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าว ยังได้วามาตรการห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์อีกด้วย
แม้จะมีกฎหมายออกมาบังคับรัดกุมเพียงใด หากประชาชน ผู้มีอำนาจในสถานศึกษา และผู้มีอำนาจในการบังคับตามกฎหมายไม่ร่วมมือกัน ไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย ยังปล่อยละเลยเฉกเช่นทุกวันนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับไม่มีกฎหมายเหมือนเก่าก่อนเช่นกัน
ปัญหามีว่า... ตามสถานศึกษาต่าง ๆ มักจะอนุญาตให้ประชาชนเข้ามาจัดงานรื่นเริงต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานผ้าป่าสามัคคี งานชุมนุมศิษย์เก่า งานเลี้ยงอำลาบุคลากรเนื่องในโอกาสเกษียณอายุ โยกย้าย ซึ่งล้วนแต่มีการเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น งานดังกล่าวจะถือว่าเป็นการจัดเลี้ยงตามประเพณี ตามข้อยกเว้นของกฎหมายหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ผู้บริหารจะต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบด้วยเช่นกัน เพราะตามความหมายดังกล่าว เป็นความหมายตามธรรมดาที่คนทั่วไปเข้าใจกัน
แม้จะมีกฎหมายออกมาบังคับรัดกุมเพียงใด หากประชาชน ผู้มีอำนาจในสถานศึกษา และผู้มีอำนาจในการบังคับตามกฎหมายไม่ร่วมมือกัน ไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย ยังปล่อยละเลยเฉกเช่นทุกวันนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับไม่มีกฎหมายเหมือนเก่าก่อนเช่นกัน
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ ท่านศรีกมล
แป๋มว่ามันเป็นเรื่อง "ปากว่าตาขยิบ"น่ะท่าน
เห็นกันเกร่อโดยเฉพาะสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง
ไม่ต้องมีงานอะไรหรอกค่ะ แค่วันธรรมดาๆที่แหละ
เห็นมีแต่นักเรียนนักศึกษา อนาคตของชาติทั้งนั้น
เป็นลูกค้าชั้นดีของสถานที่จำหน่ายสิ่งเหล่านี้..
ได้แต่ถอนหายใจดังๆ..ไม่รู้จะดังถึงผู้หลักผู้ใหญ่
ที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องรึเปล่า..ได้แต่ภาวนาค่ะ