แนวทางปฏิบัติธรรมของหลวงปู่ชา ตอนจบ


ใช้ปัญญาในการฝึกปฏิบัติ จงมีสติรู้ว่าอะไรเป็นอยู่ ท่านจะมองเห็นทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ และความดับไปแห่งทุกข์ แต่ท่านต้องมีความอดทน และต้องทนได้ ท่านจะค่อยๆได้เรียนรู้ อย่าปฏิบัติเคร่งเครียดจนเกินไป อย่ายึดติดอยู่กับรูปแบบภายนอก จงเป็นปกติตามธรรมชาติ

แนวทางการปฏิบัติธรรมของพระโพธิญาณเถร โพ   ( หลวงปู่ชา สุภัทโท )                  (ต่อ)

  ที่มาของภาพ

http://inlinethumb40.webshots.com/20647/2333109670053655619S200x200Q85.jpg

๑๗. ทำไมเราต้องปฏิบัติตามธุดงควัตรเช่น ฉันอาหารเฉพาะแต่ในบาตรเท่านั้นเล่าครับ

ธดงควัตรทั้งหลาย ล้วนเป็นเครื่องช่วยเราทำให้ลายกิเลสเครื่องเศร้าหมองการปฏิบัติตามข้อที่ว่าให้ฉันอาหารแต่ ในบาตรทำให้เรามีสติมากขึ้น ระลึกว่าอาหารนั้นเหมือนยารักษาโรค ถ้าเราไม่มีกิเลสเครื่องเศร้าหมองแล้วมันก็ไม่สำคัญ ว่าเราจะฉันอาย่างไรแต่เราอาศัยธุดงควัตรทำให้การปฏิบัติของเราเป็นไปอย่างง่ายๆ พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงบัญญัติธุดงควัตร ไว้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพระภิกษุทุกองค์แต่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติธุดงควัตรสำหรับพระภิกษุผู้ประสงค์จะปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด ธุดงควัตรเป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาในศีลเพราะฉะนั้นช่วยเพิ่มความมั่นคงและความเข้มแข็งของจิตใจเรา ข้อวัตรทั้งหลายเหล่านี้มีไวให้ท่านปฏิบัติ อย่าคอยจับตาดูว่าผู้อื่นปฏิบัติอย่างไร จงเฝ้าดูจิตของตัวท่านเองและดูว่าอะไรจะเป็น ประโยชน์สำหรับท่าน กฏข้อที่ว่าเราต้องไปอยู่กุฏิ จะกุฏิใดก็ตามที่กำหนดไว้ให้เรา เป็นกฏที่เป็นประโยชน์เช่นเดียวกัน มันกันช่วยไม่ให้พระติดที่อยู่ถ้าผู้ใดจากไปแล้วกลับมาใหม่ก็จะ ต้องไปอยู่กุฏิใหม่ การปฏิบัติของพวกเราเช่นนี้ คือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใด

 

 ๑๘. ถ้าหากการใส่อาหารทุกอย่างรวมลงในบาตรเป็นสิ่งจำเป็นแล้ว ทำไมท่านอาจารย์จึงม่ปฏิบัติด้วยเช่นเดียวกันครับ ท่านคิดว่าไม่สำคัญหรือครับ ที่ท่านอาจารย์ต้องทำเป็นตัวอย่างแก่ศิษย์

ถูกแล้ว อาจารย์ควรทำเป็นตัวอย่างแก่ศิษย์ของตน ผมไม่ถือว่าท่านติผม ท่านซักถามได้ทุกอย่างที่อยากทราบ แต่ว่ามันก็สำคัญที่ท่านต้องไม่ยึดอยู่กับอาจารย์ ถ้าดูจากภายนอกผมปฏิบัติดีพร้อมหมดก็คงจะแย่มาก พวกท่านทุกคน ก็จะพากันยึดในตัวผมยิ่งขึ้น แม้พระพุทธเจ้าเอง บางครั้งก็ตรัสให้สาวกปฏิบัติอย่างหนึ่งและพระองค์ก็ปฏิบัติอย่างหนึ่ง ความไม่แน่ใจในอาจารย์ ของท่านก็ช่วยท่านได้ ท่านควรเฝ้าดูเกี่ยวกับปฏิกิริยาของตัวเอง ท่านไม่คิดบางหรือว่า อาจจะเป็นไปได้ที่ผมแบ่งอาหารจากบาตรใส่จานเพื่อไว้เลี้ยงดูชาวบ้านที่มาช่วยทำงานวัด ปัญญา คือ สิ่งที่ท่านต้องเฝ้าดูและทำให้เจริญขึ้น รับเอาแต่สิ่งที่ดีจากอาจารย์ จงรู้เท่าทันการฝึกปฏิบัติของท่านเอง ถ้าผมพักผ่อนในขณะที่ทุกคนทำความเพียรแล้ว ท่านจะโกรธหรือไม่ ถ้าผมเรียกสีน้ำเงินว่าแดง หรือเรียกผู้ชายว่าผู้หญิง ก็อย่าเรียกตามผมอย่างหลับหูหลับตา อาจารย์องค์หนึ่งของผมฉันอาหารเร็วมากแต่ฉันเสียงดังท่านสอนให้พวกเราฉันช้า และฉันอย่างมีสติผมเคยเฝ้าดูท่าน รู้สึกขัดเคืองใจมาก ผมเป็นทุกข์ แต่ท่านไม่ทุกข์เลยผมเพ่งเล็ง แต่ลักษณะภายนอกอย่ายึดมั่นถือมั่นในกฎระเบียบและรูปแบบภายนอก การมองออกไปนอกตัวเป็นการเปรียบเทียบแบ่งเขาแบ่งเรา ท่านจะไม่พบความสุขโดยวิธีนี้ และท่านจะไม่พบความสงบเลย ถ้าท่านมัวเสียเวลาแสวงหาคนที่ดีพร้อมหรือครูที่ดีพร้อม พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราดูที่ธรรมะ ที่สัจจธรรม ไม่ใช่คอยจับตาดูผู้อื่น

 เราจะเอาชนะกามราคะที่เกิดขึ้นได้อย่างไร

 ๑๙. เราจะเอาชนะกามราคะที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกปฏิบัติได้อย่างไรครับ บางครั้งผมรู้สึกเป็นทาสของความต้องการทางเพศ

กามราคะจะบรรเทาลงได้ด้วยการเพ่งพิจารณาถึงความน่าเกลียดโสโครก(อสุภะ) การยึดติดอยู่กับรูปร่างกายเป็นสุดโต่งข้างหนึ่งจงพิจารณาร่างกายเหมือนซากศพ และเห็นการเปลี่ยนแปลง เน่าเปื่อย จำอันนี้ไว้และพิจารณาให้เห็นถึงความน่าเกลียดโสโครกของร่างกาย เมื่อมีกามราคะเกิดขึ้น ก็จะช่วยให้ท่านเอาชนะกามราคะได้

 

 ๒๐. เช่นเมื่อผมโกรธผมควรทำอย่างไรครับ

ท่านต้องแผ่เมตตา ถ้าท่านมีโทสะในขณะภาวนา ให้แก้ด้วยเมตตาจิต ถ้าใครทำให้โกรธอย่าโกรธตอบถ้าท่านโกรธตอบท่านจะยิ่งโง่กว่าเขา จงเป็นคนฉลาดสงสารเห็นใจเขาเพราะว่าเขากำลังได้ทุกข์ เพ่งอารมณ์เมตตาเป็นอารมณ์ภาวนาแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก เมตตาเท่านั้นที่จะเอาชนะโทสะและความเกลียดได้

ความง่วงเหงาหาวนอน ทำให้ภาวนาลำบาก

๒๑. ผมง่วงเหงาหาวนอนอยู่มากครับทำให้ภาวนาลำบาก

มีวิธีเอาชนะความง่วงได้หลายวิธี ถ้าท่านอยู่ในที่มืดให้ย้ายไปอยู่ที่สว่าง ลืมตาขึ้น ลุกไปล้างหน้า ตบหน้าตัวเอง หรือไปอาบน้ำ ถ้าท่านยังง่วงอยู่อีกให้เปลี่ยนอิริยาบถ เดินจงกรมให้มาก หรือเดินถอยหลังความกลัวว่าจะเป็นชนอะไรเข้าจะทำให้ท่านหายง่วงถ้ายังง่วงอยุ่อีก ก็จงยืนนิ่งๆทำใจให้สดชื่น สมมติว่าขณะนั้นสว่างหรือนั่งริมหน้าผาสูงหรือบ่อลึก ท่านจะไม่กล้าหลับ ถ้าทำ อย่างไรก็ไม่หายง่วงก็จงนอนเสียเอนกายลงอย่างสำรวมและรู้ตัวอยู่จนกระทั่งท่านหลับไป เมื่อท่านรู้สึกตัวจงลุกขึ้นทันทีอย่ามองดูนาฬิกาหรือหลับต่ออีก เริ่มต้นมีสติระลึกรู้ทันเมื่อท่านตื่น ถ้าท่านง่วงอยู่ทุกวัน ลองฉันอาหารให้น้อยลงสำรวมตัวเองแล้วกลับไปนั่งดูใหม่อีกเฝ้าดูความง่วงและความหิว ท่านต้องกะฉันอาหารให้พอดี เมื่อปฏิบัติต่อไปอีกท่านจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น และฉันน้อยลง

 

 ๒๒. ทำไมเราจึงต้องกราบกันบ่อยๆครับ ที่นี่

การกราบนี้เป็นสิ่งสำคัญมากเป็นรูปแบบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติ การกราบนี้ต้องทำให้ถูกต้อง ก้มลงจนหน้าผากจรดพื้นวางศอกให้ชิดกับเข่าฝ่ามือทั้งสองราบอยู่ที่พื้นห่างกประมาณสามนิ้ว กราบลงช้าๆมีสติรู้อาการของกาย การกราบช่วยแก้การถือตัวของเราได้เป็นอย่างดี เราควรกราบบ่อยๆเมื่อท่านกราบสามหนท่านควรตั้งจิตระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ นั่นคือคุณลักษณะแห่งจิตอันสะอาด สว่างและสงบดังนั้นเราจึงอาศัยรูปแบบนี้ฝึกฝนตนเอง กายและจิตจะประสานกลมกลืนกันอย่าได้หลงผิดไปจับตาดูว่าผู้อื่นกราบอย่างไร ถ้าสามเณรน้อยดูไม่ใส่ใจ และพระผู้เฒ่าดูขาดสติก็ไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะตัดสินใจบางคยอาจจะสอนยาก บางคนเรียนได้เร็ว บางคนเรียนได้ช้าการพิจารณาตัดสินผู้อื่นมีแต่จะเพิ่มความหยิ่งทนงตน จงเฝ้าดูตัวเองกราบบ่อยๆ ขจัดความหยิ่งทนงตนออกไป ผู้ที่เข้าถึงธรรมะได้อย่างแท้จริงแล้ว ท่านจะอยู่เหนือรูปแบบทุกๆอย่างที่ท่านทำ ก็มีแต่กายอ่อนน้อมถ่อมตน เดินก็ถ่อม ฉันก็ถ่อม ขับถ่ายก็ถ่อม ทั้งนี้ก็เพราะว่าท่านพ้นจากความเห็นแก่ตัวเสียแล้ว

อุปสรรคใหญ่ของลูกศิษย์ใหม่คืออะไร

 ๒๓. อุปสรรคใหญ่ของลูกศิษย์ใหม่ของท่านอาหารคืออะไรครับ

ทิฐิ ความเห็นและความนึกคิดเกี่ยวกับสิ่งทั้งปวงเกี่ยวกับตัวเขาเอง เกี่ยวกับการปฏิบัติภาวนา เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้า หลายๆท่านที่มาที่นี่ มีตำแหน่งการงานสูงในสังคมบางคนเป็นพ่อค้าสที่มั่งคั่ง หรือได้ปริญญาต่างๆครูและข้าราชการ สมองของเขาเต็มไปด้วยความคิดเห็นต่อสิ่งต่างๆ เขาฉลาดเกินกว่าที่จะฟังผู้อื่น เปรียบเหมือนน้ำในห้วย ถ้าถ้วยมีน้ำสกปรกอยู่เต็ยถ้วยน้ำก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เมื่อได้เทน้ำเก่านั้นทิ้งไปแล้วเท่านั้น ถ้วยนั้นก็จะใช้ประโยชน์ไม่ได้ ท่านต้องทำจิตให้ว่างจากทิฐิ แล้วท่านจึงจะได้เรียนรู้การปฏิบัติ ของเรานั้นอยุ่เหนือความฉลาดหรือความโง่ ถ้าท่านคิดว่าฉันเก่ง ฉันรวย ฉันเป็นคนใหญ่คนโตฉันเข้าใจพระพุทธศาสนาแจ่มแจ้งทั้งหมด เช่นนี้แล้ว ท่านจะไม่เห็นความจริงในเรื่องอนัตตาหรือความไม่ใช่ตัวตน ท่านจะมีแต่ตัวตน ตัวอันของฉันแต่พระพุทธศาสนาคือการละ ตัวตน เป็นความว่าง เป็นความไม่มีทุกข์ เป็นนิพพาน

กิเลสเครื่องเศร้าหมองเป็นเพียงมายาหรือว่าของจริง

 ๒๔.กิเลสเครื่องเศร้าหมอง เช่นความโลภหรือความโกรธ เป็นเพียงมายาหรือว่าเป็นของจริงครับ

เป็นทั้งสองอย่าง กิเลสที่เราเรียกว่าราคะหรือความโลภ ความโกรธและความหลง นั้นเป็นเพียงแต่ชื่อ เป็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นมา เช่นเดียวกับที่เราเรียกชามใหญ่ ชามเล็ก สวยหรืออะไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สภาพที่เป็นจริงแต่เป็นความคิดปรุงแต่งที่เราคิดปรุงขึ้นจากตัณหา ถ้าเราต้องการชามใหญ่ เราก็ว่าอันนี้เล็กไป ตัณหาทำให้เราแบ่งแยกความจริงก็คือ มันเป็นของมันอยู่อย่างนั้น ลองมามองแง่นี้บ้าง ท่านเป็นผู้ชายหรือเปล่า ถ้าตอบว่าเป็น นี่เป็นเพียงรูปร่างของสิ่งต่างๆ แท้จริงแล้วท่านเป็นส่วนประกอบของธาตุและขันธ์ ถ้าจิตเป็นอิสระแล้ว จิตจะไม่แบ่งแยก ไม่มีใหญ่ไม่มีเล็ก ไม่มีเขาไม่มีเรา ไม่มีอะไรจะเป็นอนัตตาหรือความไม่ใช่ตัวตน แท้จริงแล้วในบั้นปลาย ก็ไม่มีทั้งอัตตาและอนัตตา(เป็นแต่เพียงชื่อเรียก)

 

๒๕. ขอความกรูณาท่านอาจารย์อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรรมด้วยครับ

กรรมคือ การกระทำ กรรม คือ การยึดมั่นถือมั่นกาย วาจาและใจ ล้วนสร้างกรรมเมื่อมีการยึดมั่นถือมั่น เราทำการจนเกิดความเคยชินเป็นนิสัยซึ่งจะทำให้เราเป็นทุกข์ได้ในการข้างหน้า นี้เป็นผลของการยึดมั่นถือมั่น ของกิเลส เครื่องเศร้าหมองของเราที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ความยึดมั่นถือมั่นทั้งหลายจะทำให้เราสร้างกรรม สมมติว่าท่านเคยเป็นขโมยก่อนที่จะบวชเป็นพระ ท่านขโมยเขาทำให้เขาไม่เป็นสุข เมื่อท่านเป็นพระเวลาท่านนึกถึง เรื่องที่ท่านทำให้ผู้อื่นหมดสุขแล้ว ท่านก็ไม่สบายใจ จงจำไว้ว่า ทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดผลในอนาคตได้ ถ้าท่านเคยนสร้างกรรมดี ไว้ในอดีต และวันนี้ก็ยังจำได้ ท่านก็เป็นสุข

 

 ๒๖. บางครั้งดูเหมือนว่าตั้งแต่ผมบวชเป็นพระมานี้ผมประสบความยากลำบากและความทุกข์มากขึ้น

ผมรู้ว่าพวกท่านบางคนมีภูมิหลังที่สะดวกสบายทางวัตถุมาก่อนและมีเสรีภาพ เมื่อเปรียบกันแล้ว ขณะนี้ท่านต้องเป็นผู้อยู่ อย่างสำรวมตนเอง และมักน้อยยิ่งนัก ซ้ำในการฝึกปฏิบัตินี้ ผมยังให้ท่านนั่งนานและคอยหลายชั่งโมง อาหารและดินฟ้าอากาศ ก็จะต่างกันไปกับบ้านเมืองของท่าน แต่ทุกคนต้องผ่านความทุกข์ยากกันบ้าง นี่คือความทุกข์ที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์อย่างนี้แหละ ที่จะทำให้ท่านได้เรียนรู้ เมื่อท่านนึกโกรธ นึกสงสารตัวเอง นั่นแหละเป็น โอกาสเหมาะที่จะเข้าใจเรื่องของจิต พระพุทธเจ้าตรัสว่ากิเลสทั้งหลายเป็นครูของเรา ลูกศิษย์ทุกดคนก็เหมือนลูกของผมผมมีความเมตตาปราถนาดีต่อทุกคน ถ้าผมทำให้ทุกข์ยากก็เพื่อประโยชน์ของท่านเอง ผู้ที่มีการศึกษาน้อยมีความรู้ทางโลกน้อยจะฝึกปฏิบัติได้ง่าย

 

 ๒๗. ผมเจริญสมาธิอภวานาจนจิตสงบผมควรทำอย่างไรต่อไป

นี่ก็ดีแล้ว ทำจิตให้เป็นสมาธิ ใช้พิจารนาจิตและกาย ท่านจะรู้ถึงควาามสงบที่แท้จริง ถ้าท่านยึดติดอยู่กับภาวะจิตที่สงบ แล้วท่านจะเป็นทุกข์ เมื่อจิตไม่สงบฉะนั้นจึงปล่อยวางหมดทุกสิ่งแม้แต่ความสงบ

 

 ๒๘. ผมได้ยินท่านอาจารย์พูดว่าท่านเป็นห่วงลูกศิษย์ที่พากเพียรมากใช่ไหมครับ

ถูกแล้วผมเป็นห่วง ผมเป็นห่วงว่าเขาเอาจริงเอาจังจนเกินไป เขาพายายามจนเกินไปแต่ขาดปัญญา เขาเคี่ยวเข็ญตนเองไปสู่ความทุกข์โดยไม่จำเป็น อย่างนี้เป็นความพยายามมากเกินไปคนทั่วไปก็เช่นกัน พวกเขาไม่รู้ถึงสภาพเป็นจริงของสิ่งทั้งปวง สังขารทั้งปวง จิตและร่างกายล้วเป็นของไม่เที่ยง บางคนคิดว่าเขารู้ เขาวิพากษ์วิจารณ์จับตามองและลงความเห็นเอาเอง อย่างงี้ก็ตามใจเขา ทิฐิของใครก็ปล่อยให้เป็นของคนนั้น ถ้าเราคิดว่าคนอื่นด้อยกว่ากดรือดีกว่ากรือเสมอกันกับเราเราก็ตกทางโค้ง ถ้าเราแบ่งเขาแบ่งเราเราก็จะเป็นทุกข์

 

 ๒๙. ผมได้เจริญสมาธิภาวนามาหลายปีแล้ว ใจผมเปิดกว้างและสงบระงับเกือบจะในทุกสภาพการเวลานี้ผมอยากจะย้อนหลัง และฝึกทำสมาธิชั้นสูงหรือฝึกฌานครับ

จะทำอย่างนั้นก็ได้เป็นการฝึกจิตที่มีประโยชน์ ก็เหมือนกับอยากนั่งภาวนานานๆท่านจะไม่ยึดติดอยู่ในสมาธิจิต แต่จริงๆแล้วการฝึกนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่วงท่าอิริยาบถต่างๆ แต่นี่เป็นการมองตรงเข้าไปในจิต นี่คือปัญญาเมื่อท่านพิจารณาในเรื่องของจิต แล้วท่านก็จะเกิดปัญญารู้ถึงของเขตของสมาธิเมื่อท่านได้ฝึกปฏิบัติและเข้าใจจริงเรื่องการไม่ยึดมั่นถือมั่นจะช่วยท่านในการสอนผู้อื่น หรือท่านจะหวนกลับไปฝึกฌานก็ได้ถ้าท่านมีปัญญารู้แล้วที่จะไม่ยึดถือในสิ่งใด

 

 ๓๐. ขอความกรุณาท่านอาจารย์ทบทวนใจความสำคัญของการสนทนานี้ด้วยครับ

ท่านต้องสำรวจตัวเองรู้ว่าท่านเป็นใครรู้ทันกายและจิตใจของท่าน จงรู้ความพอดีพอเหมาะสำหรับตัวท่าน ใช้ปัญญาในการฝึกปฏิบัติจงมีสติรู้ว่าอะไรเป็นอยู่ท่านจะมองเห็นทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ และความดับไปแห่งทุกข์ แต่ท่านต้องมีความอดทน และต้องทนได้ ท่านจะค่อยๆได้เรียนรู้ อย่าปฏิบัติเคร่งเครียดจนเกินไป อย่ายึดติดอยู่กับรูปแบบภายนอก จงเป็นปกติตามธรรมชาติ พระวินัยของพระสงฆ์และกฎระเบียบของวัดสำคัญมาก ทำให้เกิดบรรยากาศที่เรียบง่ายและประสานกลมกลืน แต่จำไว้ว่าความสำคัญของพระวินัยของพระสงฆ์คือการเฝ้าดูเจตตนาและสำรวมจิต ท่านต้องใช้ปัญญาอย่าแบ่งเขาแบ่งเรา ดังนั้นจงอดทนและฝึกให้มีคุณธรรมมีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ เป็นปกติตามธรรมชาติ เฝ้าดู้จิต นี่แหละคือการปฏิบัติของเรา ซึ่งจะนำไปสู่ความไม่เห็นแก่ตัว และความสงบสันติ

----------------------------------------------------

ที่มาเดียวกับบันทึกที่แล้ว http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_cha/lp-cha_04.htm

หมายเลขบันทึก: 251071เขียนเมื่อ 26 มีนาคม 2009 17:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

เจริญพร โยมsila

การที่พระป่าหรือพระบ้าน เอาอาหารที่บิณฑบาตมาใส่รวมในบาตร

แล้วฉันนั้น เป็นการตัดปัญหาได้หลายอย่าง เช่นไม่ต้องล้างภาชนะ

ที่ใส่กับข้าว ซึ่งมักเป็นภาระและเสียเวลาไม่น้อย

เจริญพร

สวัสดีครับอาจารย์ ได้รับวิทยาทานครบทั้งสองตอนแล้ว ขออนุโมทนา ด้วยครับ

  • หลวงพ่อชา
  • เป็นองค์หนึ่ง
  • ในพระอาจารย์
  • ทางวิปัสนา
  • ของพี่ครับ....

พี่ชาย ชยพร แอคะรัจน์

ศรัทธาการปฏิบัติของหลวงปู้ชามากเลยค่ะ..เคยอ่านประวัติของท่าน..

พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างนี้..เป็นแบบอย่างที่ดีในการประพฤติตนของพุทธศาสนิกชนค่ะ..

พี่ศิลาสบายดีนะคะ..^^

  • ทำให้เข้าใจในการปฎิบัติธรรมดีขึ้น
  • ขอบคุณ

 

  • สวัสดีครับ Sila Phu-Chaya
  • แวะมาอ่านธรรมหลวงพ่อชา
  • การทำบุญก็เหมือนยางอหลั่ยรถยนต์
  • เป็นการไม่ประมาทชีวิต

มาเข้ารับการศึกษาธรรม

เพื่อค้นหาตัวเองด้วยคนค่ะ

  • กราบนมัสการพระคุณเจ้าพระปลัด P  อีกครั้งค่ะ
  • เป็นการเรียนรู้ตัวตนที่เข้าถึงธรรมชาติแห่งความเรียบง่ายที่งดงามมากค่ะ
  • ขอบพระคุณคุณหนุ่มกร P ที่ตามอ่านทั้งสองตอนค่ะ
  • ขอให้สุขกายสบายใจที่ได้รับธรรมหลวงปู้ชานะคะ
  • สวัสดีค่ะคุณพี่ชยพร P
  • ดีใจอย่างมากที่ได้เจอศิษย์หลวงปู่ชาค่ะ
  • ศิลามีหนังสือ "อุบลมณี" ที่เขียนเกี่ยวกับหลวงปู่ชาค่ะ
  • หลายปีมาแล้วเคยไปอยู่อุบลฯ ...เวลาศิลาอ่านเล่มนี้ จะรู้สึกซาบซึ้งมากค่ะ ...ละไว้ฐานที่เข้าใจแล้วกันนะคะ

ตามมาอ่านตอนสอง อนุโมธนาด้วยครับ

สวัสดีค่ะ พี่ศิลา แสนสวย

ธรรมะคือคุณากรค่ะ ช่วงนี้..เวลานี้
แป๋มพอจะมีเวลาจากการทำวิจัยบ้าง
จึงเลือกทางการศึกษาธรรมะที่มีผู้ใจดี
มอบหนังสือธรรมะส่งมาให้ถึงที่บ้าน
ทำให้จิตใจที่เคยวุ่นวายคลายความกังวล
ในการเรียนลงบ้าง..ขอขอบคุณค่ะ
สำหรับพี่ศิลา กับเรื่องราวดีๆมาส่งมอบหน้าจอ
และคุณคนดี  กับหนังสือทั้ง 3 เล่มส่งมอบทางไปรษณีย์ EMS

ขอผลบุญนำพาให้ทั้งสองท่านมีความสุขตลอดไปนะคะ

สวัสดีค่ะ

แวะมาน้อมรับธรรมะดีดี..เป็นเครื่องข่มใจค่ะขอบคุณนะคะ

  • ขอบพระคุณท่านศรีกมล P ที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • ปฏฺบัติธรรมนำมาใช้กับการปฏิบัติงานเสมือนเป็นเรื่องเดียวกันได้ค่ะ

 

  • ขอบพระคุณท่านมหาเหรียญชัย P ค่ะ อ่านธรรมหลวงปู่ชาแล้วเห็นความเป็นธรรมชาติ ธรรมดา เรียบง่ายมาก 
  • สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ
  • มาสมัครเป็นนักเรียน
  • ตามอ่านตามเรียนรู้ด้วยคนนะค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีค่ะพี่เขี้ยว P รู้สึกดีจังที่ได้ธรรมะมาปลอบประโลมใจในช่วงนี้พอดี และยิ่งเห็นพี่เขี้ยวแวะมาทักทายก็สบายใจที่เห็นกัลยาณมิตรมากมายในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย ...ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครเดินทางออกจากบ้าน
  • บ้านของเราอบอุ่นเสมอค่ะ
  • ขอบพระคุณคุณAj Kae  P ค่ะที่แวะมาทักทายบ่อย ๆ
  • เป็นกัลยาณมิตรทางธรรมที่น่านับถือจริง ๆ ...หากมีข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม กรุณาแลกเปลี่ยนได้เลยนะคะ ยินดีน้อมรับค่ะ กำลังเป็นนักเรียนชั้นอนุบาลอยู่ค่ะ

เข้ามารับธรรมะดีๆด้วยค่ะ

  • สวัสดีค่ะคุณครูแป๋ม P เม้นท์นี้พี่อ่านนานแล้วนะคะ แต่ยอมรับว่าบางบันทึกพี่อาจจะตอบได้ไม่ทันใจตัวเอง เพราะเวลาจะตอบอะไร เน้นความทุ่มเทของตนเองที่อยากจะตอบด้วยความตั้งใจ
  • เม้นท์ของคุณครูแป๋มทำให้พี่ศิลาเดาเอาเองว่าคงอยู่ในสภาวะที่หนักอึ้งมิใช่น้อย
  • เวลาเราต้องผ่านอุปสรรคอะไรที่ หนักทั้งสมองและหัวใจ พี่ศิลาจะถือว่าเป็นยาขมที่ทานลงไปแล้วจะมีผลดีต่อสุขภาพภายหลัง
  • ผลผลิตแห่งความสำเร็จซึ่งเป็นผลไม้ที่งดงามรออยู่นะคะ
  • สักวันจะได้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ เพราะคุณครูแป๋มโชคดีอยู่ใกล้ปราชญ์หลายคนที่ทำให้เกิดกุศลจิตเสมอ...สิ่งดี ๆ มักจะมาพบเจอกันโดยไม่ได้นัดหมายค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท