๑๔. @..ชีวิต คือ การเดินทาง..@


การเดินทาง เป็นของคู่กันกับชีวิต

วันนี้ตื่นนอนเวลา ๔.๓๐ น. (วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๒) อาบน้ำแต่งตัว แล้ว แม่บ้านขับรถยนต์ไปส่งที่สถานีขนส่งเก่าเพื่อเดินทางไปที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าปฎิบัติธรรมตามโครงการ รสพระธรรม นำชีวิตพ้นทุกข์ ของอัยยธรรมบรรณสถาน สำนักงานอัยการสูงสุด ในระหว่างวันที่ ๒๐ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๒ ณ วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี

โครงการนี้ตั้งใจจะไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็พลาดทุกครั้ง เพราะติดธุรด้านอื่น ครั้งนี้เป็นการจัดครั้งที่ ๑๔ ทราบข่าวว่ามีข้าราชการฝ่ายอัยการเข้าร่วมโครงการประมาณ ๒๐๐ คน

 

เมื่อเดินทางไปถึงสถานีขนส่งเก่า ตั้งใจจะเดืนทางเที่ยว ๐๕.๐๐ น. ปรากฏว่ารถเที่ยวดังกล่าวกำลังจะออกจากสถานีพอดี ต้องรีบซื้อตั๋วและวิ่งตามไปขึ้นด้านหน้าสถานี บนรถมีผู้โดยสารประมาณ ๒๐ กว่าคน

 

เดิมสถานีแห่งนี้จะมีรถโดยสารเส้นทางนครราชสีมา กรุงเทพมหานคร จะออกทุก ๓๐ นาที แต่หลังจากน้ำมันมีราคาแพงได้ข่าวว่าออกทุก ๑ ชั่วโมง  นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารของหลายบริษัทที่เปิดการเดินรถ ทำให้มีผู้โดยสารน้อย จึงมีการแข่งขันการให้บริการหลายรูปแบบ ทั้งแจก ทั้งแถม บางบริษัทให้นำเลขตั๋วโดยสารไปออกรางวัลตามงวดของสลากกินแบ่งก็มี  หากถูกรางวัลจะได้รางวัลอีกต่างหาก ก็เกิดผลดีต่อประชาชนทั่วไปไม่น้อย ทำให้ประชาชนมีโอกาสเลือกใช้บริการได้

 

พอขึ้นรถก็นอนหลับไปตลอดทาง เนื่องจากวันนี้อากาศเย็นและตอนกลางคืนก็มีฝนตกพร่ำ ๆ  นั่งรถไปได้สักระยะหนึ่ง รถก็หยุดลุกขึ้นดู  อ้าว !  ข้าง ๆ ถนน มีรถสิบล้อประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้าอยู่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ถัดไปประมาณ ๑๐ เมตร เห็นสิ่งของตกกระจายไปตามถนน  และมีรถบัสโดยสารจอดอยู่ น่าจะเกิดชนกัน ขึ้น เนื่องจากฝนตกถนนลื่น ( มาทราบจากข่าวทีหลังจึงรู้ว่ารถบรรทุกหกล้อ ประสานงากับรถบัสโดยสาร มีผู้บาดเจ็บ ๓๘ คน)

 

หลังจากนั้นได้นอนหลับยาวมาสะดุ้งอีกที่ รถได้มาถึงฟิวเจอร์รังสิตแล้ว มองดูท้องฟ้ากรุงเทพมหานคร ก็ยังมืดครึ้มอยู่ มองดูนาฬิกาเวลา ๐๗.๓๐ น. รถเริ่มติดเคลื่อนไปช้า ๆ บางครั้งจากรังสิต ถึง สถานีขนส่งหมอชิตใช้เวลา ๒ ชั่วโมงก็มี แต่วันนี้ค่อยยังชั่ว ไปถึงสถานีขนส่งหมอชิต เวลาประมาณ ๐๘.๓๐ น.

 

หลังจากนั้นได้นั่งรถแท็กซี่ไปยังอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด  ถนนรัชดา มีรถบัสจำนวน ๒ คัน จอดรออยู่แล้วซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งไว้ให้ขึ้นรถคันที่ ๒ จะออกเวลา ๑๐.๓๐ น.

 

ชีวิตกับการเดินทางเป็นของคู่กัน ไม่มีชีวิตของใคร ผู้ใด จะอยู่กับที่โดยไม่มีการเดินทาง  ต้องมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไป  เช่นเดี่ยวกับสรรพสิ่งในโลก ย่อมมีการเกิดขึ้น   ตั้งอยู่  แล้วดำเนินต่อไป สักระยะหนึ่ง ก็มีการแตกดับสลายไปตามกาลเวลา  อยู่ที่ว่าจะช้า หรือเร็ว ไม่มีใครจะบอกได้

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 250393เขียนเมื่อ 23 มีนาคม 2009 22:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

     ชีวิต คือ  การเดินทาง

    เบื่อเหมือนกันนะครับ   แต่ถ้าไม่เดินทาง   ก็ไม่ใช่ชีวิตของเรา

 

  • สวัสดีท่านรองฯ
  • ไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะต้องมาจัดอบรมและทำโครงการเอง
  • ขอบคุณ

สวัสดีค่ะ

  • ครูคิมจะเรียกชีวิตว่าอะไรดีคะ..
  • อย่างน้อย ๆเดินทางโดยเฉลี่ยวันละ ๑๕๐ ก.ม.
  • ขออนุโมทนาบุญด้วยนะเจ้าคะ
  • สวัสดีครูคิม
  • บางคนต้องเดินทางทุกวัน เพื่อความอยู่รอดและทำหน้าที่
  • ขอบคุณ

การเดินทางเป็นสัญญาณว่าเรายังมีความสามารถ

แต่การเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ เป็นความรู้สึกที่ดีที่ต้องทำสมาธิเป็นพิเศษ เพราะถ้าพลาดอาจพิการหรือตายได้ พร้อมทั้งได้รับรู้สึกถึงความร้อน หนาว หรือเย็นสบาย

เป็นการศึกษาธรรมได้ด้วย(ปลอบใจตัวเอง) เพราะต้องอยู่กับเขาตลอด

ขอบพระคุณมากครับ ได้อ่านเรื่องดีๆ และสบายๆ ได้แนวคิด

  • สวัสดีคุณchudchainat
  • ขอบคุณ

สวัสดีค่ะ

ชีวิตคือการเดินทาง

เทียนน้อยชอบเดินทางค่ะ

ถึงจะเหนื่อยนั่งรถ แต่ก็ได้รับรสชีวิตที่แปลกใหม่อยู่เสมอ

จากการเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์

ขอบคุณค่ะ  สำหรับการเดินทาง  ^_^

  • สวัสดีคุณเทียนน้อย
  • การเดินทางทำให้ผู้เดินทางเก็บเกี่ยวกำไรชีวิตหลายอย่าง ได้ความรู้ ความอดทน ได้เพื่อน ความรับรู้สิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ ให้กับชีวิต เหนือสิ่งอื่นใด ยังได้พลังให้กับชีวิตอีกด้วย
  • ขอให้มีความสุข
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท