บัญชีกลางลุยทำโอที เร่งเบิกจ่าย


แนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณ

บัญชีกลางรับลูกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์) จัดประชุมคณะกรรมการเร่งรัดของกรมฯ  กำหนดมาตรการสนองนโยบายทันที มีทั้งให้เจ้าหน้าที่การเงิน พัสดุทำงานทั้งเสาร์ อาทิตย์และจ่ายเงินอัดฉีด

                        นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีฯ รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง  ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง  เปิดเผยว่า  ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 เกี่ยวกับมาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยมีเป้าหมายการเบิกจ่ายในภาพรวม ร้อยละ 94  และรายจ่ายลงทุน ร้อยละ 74 และกำหนดมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่าย เช่น  เร่งโอนเงินไปหน่วยเบิกจ่าย
ในส่วนภูมิภาคไม่เกิน 15 วัน   ให้เร่งก่อหนี้ผูกพัน   เร่งตรวจรับงานและเบิกจ่ายเงิน   ให้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่าย และปรับแผนการใช้จ่ายเงินให้สอดคล้องกับการใช้จ่ายเงินจริง ประกอบกับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้รับนโยบายจาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์) ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
ที่อยู่
ในการกำกับดูแล เร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน ให้เบิกจ่ายเงินให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2552   และปีงบประมาณนี้ กระทรวงการคลังมีนโยบายจะไม่อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี  เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบโดยเร็ว

              นายมนัส แจ่มเวหา  กล่าวเพิ่มเติมว่า  ภายหลังรับมอบนโยบายดังกล่าว กรมบัญชีกลางมีความกังวลเรื่องการใช้จ่ายเงินของกรมฯ เองเหมือนกัน   ซึ่งในปีนี้ กรมบัญชีกลางได้รับจัดสรรเงินงบประมาณ จำนวน 1,141.70 ล้านบาท  เป็นงบลงทุน 159.84 ล้านบาท   งบดำเนินงานจำนวน 231.07 ล้านบาท   งบรายจ่ายอื่น จำนวน 116.24 ล้านบาท  และงบบุคลากรจำนวน 634.54 ล้านบาท  ในฐานะประธานคณะกรรมการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินของกรมบัญชีกลาง จึงได้จัดประชุมเพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของกรมบัญชีกลาง ให้เป็นไปตามนโยบาย โดยในการประชุมครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552  ได้ข้อสรุปว่า ขณะนี้ ได้เบิกจ่ายงบประมาณ
ไปแล้ว จำนวน 324.38 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.41 ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับ  และการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณนั้น  จะต้องทำทั้งกระบวนการ คือเริ่มจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง  และขั้นตอนการเบิกจ่ายเงิน   ซึ่งปัญหาที่จะทำให้ล่าช้านั้น พบว่า มีขั้นตอนมาก  ตั้งแต่การจัดทำ
TOR  และประกาศทางเว็บไซด์  การขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้าง  การยกร่างสัญญา  นอกจากนี้สำหรับหน่วยงานในภูมิภาคยังมีขั้นตอนการโอนเงินงบประมาณไปยังส่วนภูมิภาคอีกด้วย  ซึ่งหน่วยงาน
ในภูมิภาคต้องรอให้โอนเงินก่อนจึงจะดำเนินการตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง  หลังจากการเบิกจ่ายเงินแล้วยังต้องทำบัญชีรวบรวมรายจ่ายเพื่อการควบคุมการใช้เงินอีกด้วย  แต่มีเจ้าหน้าที่จำกัด   ดังนั้น  จากการหารือกัน จึงได้กำหนด
มาตรการเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน คือ    1. ให้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่ต้องดำเนินการเกี่ยวกับการ



จัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายเงิน  เช่น สำนักงานเลขานุการกรม สำนักงานคลังจังหวัด  ให้ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ  รวมทั้งวันหยุดราชการด้วย เพื่อเร่งดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และมีเป้าหมายให้ทันภายในเดือนกรกฎาคม 2552   2. เฉพาะในปีงบประมาณนี้   จะให้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่คณะกรรมการต่างๆ  เช่น  คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา  คณะกรรมการตรวจรับ  ฯลฯ เพื่อตอบแทนหากสามารถปฏิบัติงานเสร็จภายในเวลา
5 วันทำการ  โดยจะจ่ายให้เป็นค่าตอบแทนรายละ 1,000 บาท  ซึ่งให้ฝ่ายเลขานุการไปศึกษาแนวทางให้ถูกต้องตามกฎระเบียบต่อไป  3. ในส่วนของค่าซ่อมแซม ปรับปรุงต่างๆ ซึ่งมีเงินบูรณะทรัพย์สินให้เร่งเบิกจ่ายให้เสร็จโดยเร็ว แต่อย่างช้าภายในเดือนกันยายนปีนี้   4. โครงการใดที่ได้มีการทำสัญญาไปแล้วและมีระยะเวลาการส่งมอบงานจนถึงสิ้นเดือนกันยายน
ให้ขอ
ความร่วมมือกับผู้รับจ้างทุกรายให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วยิ่งขึ้น  โดยไม่ต้องแก้ไขสัญญา ส่วนโครงการใด
ที่ยังไม่ได้ลงนามให้เจรจาให้ส่งมอบงานให้เร็วขึ้น ให้ส่งมอบภายในเดือนกรกฎาคม    5. โครงการฝึกอบรม สัมมนาที่กรมจะเป็นผู้จัดให้จัดให้เสร็จเรียบร้อยภายในเดือนมิถุนายน  
6. จะมีการประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินงานหรือหาทางแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นประจำทุกเดือน 

            มาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยให้กรมฯ สามารถดำเนินงานตามมาตรการของรัฐบาลได้ และอาจเป็นแนวทางให้แก่หน่วยงานอื่นๆ นำไปปฏิบัติได้ด้วย  นายมนัส แจ่มเวหา  กล่าวต่อท้าย

 

หมายเลขบันทึก: 249753เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2009 14:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 14:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท