กาฐมาณฑุ – โพคารา
เช้านี้นั่งรถสามล้อไปท่ารถเพื่อที่จะเดินทางไปโพคารา พวกเรานั่งกันเกือบครึ่งคันรถ ช่วงในเมืองมองดูวุ่นวายในการเดินทางรถก็มาก ออกนอกเมืองมาได้ไม่นานค่อยดูสงบลง ไปแวะกินอาหารเช้าที่ร้าน culture village restaurant (Tanahun) อาหารเช้าเป็นข้าวผัด โมโม่ทอด แป้งโรตีพันกล้วยเนื้อโรตีนุ่มดี อร่อยกินกับชาร้อนๆ นั่งพักไม่นานก็ขึ้นรถไปกันต่อ ถึงโพคาราบ่ายๆ เห็นภูเขาหิมะเบื้องหน้าเมื่อรถเคลื่อนตัวใกล้เมืองโพคารา ตื่นตาตื่นใจมาก อยู่ไม่ไกลขาวโพนทั้งเขา เทือกเขาหิมาลัยอยู่ด้านหน้าของเรา ฉันสะกิดเพื่อนให้ตื่นมาดูภูเขาหิมะด้วยกัน เพื่อนบางคนอ่อนเพลียลืมตาขึ้นมามองแล้วนอนต่อ แต่ฉันหลับตาไม่ลง เฝ้ามองภูเขาเบื้องหน้าเปลี่ยนแปลงไปตามการวิ่งของรถ นั่นไงเริ่มเห็นเด่นชัดเป็นทิวเขา ฉันพูดกับเพื่อนข้างด้วยความตื่นเต้น ไม่มีเสียงตอบรับจากเพื่อน เพื่อนหลับต่อ ไม่ตื่นเต้นกับฉันเลย
รถประจำทางมาจอดในลานโล่งๆน่าจะเป็นสนามฟุตบอลมากกว่าที่จอดรถประทำทาง เพราะไม่เห็นมีรถประจำทางคันอื่นๆ มารู้ภายหลังว่าภูวันขอให้เค้าช่วยจอดตรงนี้จะได้สะดวก ไม่นานรถตู้ก็มารับไปส่งโรงแรมพารานอม่า พวกเราจะค้างที่นี่คืนเดียว มองจากโรงแรมเห็นเทือกเขาหิมาลัยไม่ชัดเจน วันนี้ฟ้าไม่เป็นใจ มีหมอกเมฆมาบังไว้พวกเราจึงเห็นไม่ชัด
เข้าห้องพักไม่นานพวกเราพากันไปเที่ยวทะเลสาบแพวา ซึ่งสามารถเดินถึงได้ ทะเลสาบกว้างมาก คนมากมายกำลังมุงดูอะไรอยู่ฉันมุ่งตรงเข้าไปดูบ้าง ภาพและเสียงที่เห็นเบื้องหน้าทำให้ฉันต้องหยุดยืนเหมือนเช่นคนอื่น
เด็กชายวัยปฐม สองคน คนหนึ่งตีกลองแล้วร้องเพลง อีกคนหนึ่งมีผ้าคลุมกายมองดูไม่รู้ว่าจะแสดงเป็นอะไร ต้องอาศัยจินตนาการของตัวเอง กลิ้งไปกลิ้งมา ช่างเก่งจริงๆ รู้จักทำมาหากินตั้งแต่เล็กๆ แต่มองไม่เห็นว่าเค้าจะรับเงินตอนไหน ไม่เห็นมีกล่องอะไร กำลังมองหากล่องเพื่อนๆมาเรียกซะก่อนเช่าเรือแล้วจะข้ามฟากไปชมวัดฮินดู มะเหมี่ยวสาวหน้าสวยอวบท้วมของเราไม่ยอมลงเรือ ให้เหตุผลว่าไม่อยากไป ขอรออยู่บนฝั่ง (เอ...หรือว่ากลัวน้ำ)
10 สาว นั่งเรือไปลำละ 5 เป็นเรือแจว ไปช้าๆ บรรยากาศดีมากอากาศสดชื่น แนวหิมาลัยอยู่ใกล้เห็นชัดขึ้น ล่องเรือไปที่วัด ชมวัดฮินดู ไม่รู้
ชื่อวัดอะไร เป็นเกาะอยู่กลางน้ำ ด้านข้างมีปลาตัวใหญ่วนเวียนว่ายรับอาหารจากผู้คนที่มาให้ ลักษณะคล้ายปลาพวงแถวบ้านเราเหมือนกันนะ ชาวเนปาลนับถือฮินดู 80 % นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราก็เมียงมองอยู่ห่างๆ ไม่ได้เข้าไปภายในศาสนสถาน ถ่ายภาพบรรยากาศรอบๆจนพอใจแล้ว จึงพากันกลับ
ฉันปล่อยใจให้ดื่มด่ำธรรมชาติในเรือลำน้อย เรือลอยลำเป็นแถวริมทะเลสาบเป็นฉากนำสายตาสู่หิมาลัยเบื้องหน้า สีขาวสะอาดตาอวดโฉมอยู่ด้านหลังทิวเขาเขียวขจี มองจนเรือลอยเข้าหาฝั่งจำเป็นต้องละสายตา เพราะอาจตกน้ำได้ถ้าก้าวไม่ระวังตอนขึ้นฝั่ง ทุกคนมองหามะเหมี่ยวที่รอเดียวดายอยู่บนฝั่ง อดแซวไม่ได้ว่าเจอหนุ่มๆนาปาลีที่ถูกใจบ้างรึยัง
แสงอาทิตย์ทอแสงลง ความหนาวเริ่มมาเยือน หลังจากรับประทานอาหารแล้ว เดินซื้อของจำเป็นสำหรับการ Trek ครั้งนี้ นิดหาซื้อเกียร์ โบว์ลบอกว่าไม่ซื้อก็ได้ใช้ bamboo gear หลายคนตัดสินใจไม่ซื้อ เพราะว่าคงไม่มาอีก
ของใช้สำหรับ Trek มีมากมายให้เลือกราคาไม่แพง ถ้าไม่ได้เตรียมมาจากเมืองไทย ที่นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
เดินกันอยู่หลายชั่วโมง เรื่องเดินดูของ ซื้อของเป็นเรื่องถนัดของสาวๆอยู่แล้ว
อยากไปแบบนี้จังค่ะ...เป็นแผนหนึ่งในชัวิต...ต้องไปให้ได้
จะติดตาม...ตามติดไปตลอดนะคะ
รออ่านอยู่นะ เข้ามาอัพไวๆ นะ
แล้วเมื่อไร natt จะ อัพกะเค้าบ้างล่ะจ๊ะ หรือว่า รอออกหนังสือให้พวกเราเสียตังส์อ่านกันเลย
พี่ต๋อม ไฮเทคจริงๆเลย เพิ่งรู้ว่าพี่มีบล๊อกแบบนี้กับเค๊าด้วย นี่ถ้าลูกพี่ไม่เปิดให้ดูก็คงไม่รู้นะนี่ว่าพี่สาวเรา เจ๋งจริงๆ