ฝึกอ่านงานวิจัยสรุปให้ได้ในสาระสำคัญ
งานหนึ่งซึ่งมอบหมายให้นิสิตฝึกปฏิบัติโดยจัดหาประสบการณ์จากการอ่านงานวิจัยในสาขาบริหารการศึกษา แล้วสรุปมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในเว็บบล็อก เมื่อนิสิตอ่านงานวิจัยแต่ละเล่มแล้วให้สรุปให้ได้ในสาระดัง Mindmapดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้มีความเข้าใจในการเรียนรู้การวิจัยได้มากขึ้นและเป็นการเพาะบ่มประสบการณ์ในการพัฒนาเค้าโครงงานวิจัยของตนเองต่อไป
ความเห็น (61)
สวัสดีค่ะ... 
* มาเยี่ยมชม Mindmap เค้าโครงงานวิจัย ค่ะ
* ให้กำลังใจผู้เรียนค่ะ... ทำตามรูปแบบแล้วดีแน่
รับทราบค่ะ งั้นพรุ่งนี้หนูจะเข้าห้องสมุด ค้นงานวิจัยเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาใช่มั้ยคะอาจารย์ ทีแรกว่าจะค้นแล้วล่ะ แต่ยังไม่แน่ใจ ทีนี้พอทราบแนวทางปฏิบัติแล้ว จะลงมือทำค่ะ สู้ๆ สู้ตาย
สวัสดีครับ สาวสวยมวยไทย
ขอบคุณครับ ที่มาคอยให้กำลังใจรุ่นน้องอยุ่เสมอ
ใช่แล้วครับคุณเกศินี ลงมือก่อนได้เปรียบครับ
อาจารย์ช่วยเขียนชื่อโปรมแกรมที่อาจารย์ทำ Mindmap ให้รู้ได้ไหมคะ
คือว่านิสิตจะได้นำมาใช้ควบคู่กับการเรียนการสอนด้วยน่ะคะ
ขอบคุณค่ะ
ใช้ Mindjet ครับ คราวหน้าจะเอาไปให้ครับ
อ.ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์
"สรุปสาระสำคัญของการวิจัย" ให้สรุปของวิทยานิพนธ์ หรือ งานนิพนธ์ ของคนใดคนหนึ่งใช่หรือเปล่าครับ หรือว่าใช้ในงานที่คิดจะทำครับ พอดีผมกำลังสับสนน่ะครับ เดี๋ยวผมตอบแล้วจะไม่ใช่กับที่ อ. มอบหมายให้น่ะครับ อีกอย่างหนึ่ง วันเสาร์-อาทิตย์ (21-22) หอสมุดปิดทำการน่ะครับ ทำให้ผมยังไม่สามารถร่างคำตอบได้น่ะครับ
อ.ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์
"สรุปสาระสำคัญของการวิจัย" ให้สรุปของวิทยานิพนธ์ หรือ งานนิพนธ์ ของคนใดคนหนึ่งใช่หรือเปล่าครับ หรือว่าใช้ในงานที่คิดจะทำครับ พอดีผมกำลังสับสนน่ะครับ เดี๋ยวผมตอบแล้วจะไม่ใช่กับที่ อ. มอบหมายให้น่ะครับ อีกอย่างหนึ่ง วันเสาร์-อาทิตย์ (21-22) หอสมุดปิดทำการน่ะครับ ทำให้ผมยังไม่สามารถร่างคำตอบได้น่ะครับ
อ.ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์
"สรุปสาระสำคัญของการวิจัย" ให้สรุปของวิทยานิพนธ์ หรือ งานนิพนธ์ ของคนใดคนหนึ่งใช่หรือเปล่าครับ หรือว่าใช้ในงานที่คิดจะทำครับ พอดีผมกำลังสับสนน่ะครับ เดี๋ยวผมตอบแล้วจะไม่ใช่กับที่ อ. มอบหมายให้น่ะครับ อีกอย่างหนึ่ง วันเสาร์-อาทิตย์ (21-22) หอสมุดปิดทำการน่ะครับ ทำให้ผมยังไม่สามารถร่างคำตอบได้น่ะครับ
การส่งงาน ต้องบันทึกที่เครื่องของตัวเอง หรือว่าเครื่องของ อ. ครับ
IT7/2 ส่งงานสรุปงานวิจัยเรื่องที่ 1
คุณศุภฤกษ์ครับ สรุปงานวิจัยของคนอื่น เล่มที่เราไปอ่านครับแล้วสรุป ลงเว็บบล็อกของตนเอง วันที่ห้องสมุดเปิดค่อยไปค้นหาครับ
คุณปานฯ ครับ ผมเข้าไปดูแล้วครับ คุณปานฯบันทึกไปในช่องอื่น แต่สามารถย้ายมาไว้ในบล็อกได้ จะต้องสร้างบล็อกก่อนครับ
สวัสดีคะอาจารย์ หนูสรุปงานวิจัยส่ง 1 แล้ว อาจารย์ช่วยตรวจให้ทีนะคะ ว่าถูกต้องหรือเปล่า ขอบคุณค่ะ
อาจารย์คะ แล้วงานนี่ต้อง บันทึกลงใน blog ไหนล่ะคะ blog ของอาจารย์ หรือว่า blog ของตัวเองคะ
สร้าง blog แล้วไปเพิ่มบันทึก ใช่มั๊ยคะ ไปลองทำมาเมื่อกี้นี้ ไม่ทราบว่าถูกหรือเปล่า อาจารย์ช่วยดูให้หน่อยนะคะ
งานยังไม่สมบูรณ์นะคะ เดี๋ยวจะเข้าไปปรับปรุงแก้ไขค่ะ
อาจารย์คะ หนูเข้าไปแก้ไขแล้ว อาจารย์ช่วยตรวจสอบให้หน่อยว่าถูกต้องแล้วหรือยัง
อาจารย์คะ หนูทดลองทำแล้วค่ะ
แต่ยังไม่ได้ใส่สรุปจริง ๆ นะคะ
แค่ทดลองก่อนคะ
ไม่ทราบว่าถูกหรือเปล่าคะ
ถ้าถูกหนูจะไดลงสรุปวิจัยเลยค่ะ
ขอบคุณมากครับ
ผมส่งงานในบล็อกของผมเรียบร้อยแล้วครับ อาจารย์ตรวจเช็คได้เลยครับ ผมยินดีแก้ไขได้ครับ
คุณสุชาดาครับ ผมเข้าไปตรวจดูแล้ว OK ครับ
คุณปานจิตร์ ครับ ผมเข้าไปตรวจแล้ว ok ครับ
คุณขวัญตาครับ เขียนในบล็อกของคุณขวัญตา ถูกต้องแล้วครับผมเข้าไปดูแล้ว
อ.ตรวจงานของหนูหรือยังคะ
คุณศุภฤกษ์ครับ เข้าไปตรวจดูแล้วครับ ok ครับ
คุณกาหลงครับ เข้าไปตรวจดูในบล็อกแล้ว คุณกาหลงบันทึกแบบที่ทดลองได้เลยครับ เพราะในบล็อกยังไม่ได้ใส่เนื้อหาใส่แต่หัวข้อ ครับ
คุณสถาพรครับ เข้าไปตรวจในบล็อกของคุณสถาพรแล้ว ok ครับ
หนูลองสร้างบล็อกแต่ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า
ตอนนี้อยู่เกาะล้าน รบกวน อ.ช่วยตรวจสอบให้ด้วยนะคะ
ขอบคุณคะ อ.ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็จะพยายามคะ
อ.คะรบกวนถามอีกเรื่องค่ะ
หนูเข้าไปแก้ไขรูปในบล็อกแต่ทำไมรปหนูยังนอนตะแคงอยู่เลยค่ะ
คุณสถาพร ทำได้ดีแล้วครับ สร้างบล็อก บันทีกลงบล็อก และสร้างแพลนเน็ตและนำบล็อกของผมเข้าแพลนเน็ตของคุณสถาพรด้วยแล้ว ต่อไปก็นำบล็อกของเพื่อนที่เรียนด้วยกันเข้าแพลนเน็ตก็จะจัดหมวดหมู่รวมกลุ่มเรียนรู้กันได้สะดวกขึ้น ครับ
อาจารย์หนูสรุปงานวิจัยแล้ว รบกวนอาจารย์เข้าไปตรวจให้หนูด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
อาจารย์ขา แพลนเน็ตคืออะไรคะ ใช้ยังไงคะ อาจารย์
ok แล้วครับคุณเกศินี
รายงานตัวค่ะหนูสุดาพรรณ กาละพงษ์นะคะ หนูมีเรื่องจะเรียนถามอาจารย์ว่า ถ้าเราจะสรุปวิจัยจำเป็นไหมว่าจะต้องสรุปในรูปแบบ Mimdmap
คุณสุดาพรรณครับ
ไม่จำเป็นต้องสรุปแบบ mindmap ครับ เป็น Word ทั่วไปก็ได้ครับ
ขอบคุณคะ อ.วันนี้หนูง่วนอยู่ทั้งวัน
ต่อไปก็จะนำบล็อกของเพื่อนๆเข้าแพลนเน็ตค่ะ
สู้ๆๆ สู้ตายค่ะ
คุณสุดาพรรณครับ
คุณสุดาพรรณเข้าระบบได้แล้ว ต่อไปก็สร้างบล็อกครับ แล้วบันทึกลงในบล็อก
ครับ แล้วเขียนเรื่องวิจัยเรื่องที่สองในบล็อกเดิมเพิ่มเติมได้เลยครับ โดยเข้าบล็อกที่ทำไว้แล้วไปที่เพิ่มบันทึก แล้วก็บันทึกลงไปก็จะเป็นสองเรื่องและต่อ ๆ ไปครับ
อ.คะถ้าสนใจเรื่องเดียวกับพี่ปานจิตร์จะต่อยอดยังไงคะ
เป็นการฝึกสรุปครับ ฉะนั้นหากทราบว่าเรื่องนี้มีคุณปานจิตร์สรุปแล้วก็หาเรื่องใหม่ จะได้มีเรื่องเรียนรู้ร่วมกันเพิ่มครับ
กว่าจะรู้เรื่อง ก็ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งนะคะอาจารย์ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น ใช่มั้ยคะอาจารย์ สู้ๆ สู้ตายค่ะ
อาจารย์คะ จำเป็นต้องนำบล็อคเข้าแพลนเน็ตมั้ยค่ะ
อาจารย์ขา หนูส่งงานอาจารย์ชิ้นแรกแล้ว กรุณาตรวจให้ด้วยนะคะว่าถูกต้องหรือเปล่า
อาจารย์คะ งานชิ้นที่ 2 ทำเหมือนชิ้นแรกเลยหรือคะ ตอบให้หนูกระจ่างด้วยนะคะ
คุณเกศินี ครับทำแพลนเน็ต แล้วเอาบล็อกของผมและเพื่อน ๆ IT 7เข้าแพลนเน็ตต่อไปครับ
คุณสุดาพรรณครับ ผมเข้าไปดูในบล็อกแล้ว ok ครับ เตรียมทำเรื่องที่สองต่อไปได้เลยครับ
ชื่อเรื่อง ศึกษาความต้องการนิเทศงานวิชาการของครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ผู้วิจัย นางอุษณีย์ ลามิตร
ปีที่วิจัย พฤษภาคม 2544
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาความต้องการนิเทศงานวิชาการของครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดตราด ในด้านหลักสูตร และการนำหลักสูตรไปใช้ด้านการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านการวัดและประเมินผล
2. เพื่อเปรียบเทียบความต้องการนิเทศวิชาการของครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดตราด จำแนกตามขนาดโรงเรียนและประสบการณ์การสอน
วิธีวิจัย
วิธีการ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ
กลุ่มตัวอย่าง ครูระดับชั้นมัธยมศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา จังหวัดตราด จำนวน 110 คน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามขนาดโรงเรียน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างเอง โดยแบ่งเป็น 2 ตอน คือ
ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับขนาดโรงเรียนและประสบการณ์การสอนระดับมัธยมศึกษา มีลักษณะเป็นปลายเปิดและแบบสำรวจรายการ
ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับความต้องการได้รับการนิเทศของครูผู้สอนระดับชั้นมัธยมศึกษาใน โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดตราด ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนการสอน
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
1.ขอหนังสือแนะนำตัว เพื่อขออนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากโรงเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง
2.นำหนังสือเพื่อขอความร่วมมือดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง
3.ตรวจความสมบูรณ์ของแบบสอบถามแต่ละฉบับเพื่อนำไปดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป
วิธีวิเคราะห์ผล
ใช้วิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for windows
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ
คะแนนเฉลี่ย ( x )
ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( SD )
สถิติอ้างอิง คือ t – test
ผลการวิจัยพบว่า
1.ความต้องการนิเทศงานวิชาการของครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงาน การประถมศึกษาจังหวัดตราด ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
2.ความต้องการนิเทศงานวิชาการของครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงาน การประถมศึกษาจังหวัดตราด พบว่าครูโรงเรียนขนาดใหญ่มีความต้องการนิเทศงานวิชาการด้านหลักสูตร และการนำหลักสูตรไปใช้มากกว่าครูโรงเรียนขนาดกลาง
3.ความต้องการนิเทศงานวิชาการครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงาน การประถมศึกษาจังหวัดตราด พบว่าครูที่มีประสบการณ์การสอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมีความต้องการนิเทศด้านการวัดและประเมินผลมากกว่าครูที่มีประสบการณ์การสอนมาก ส่วนด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านสื่อการเรียนการสอน แตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติ
ส่งงานแล้วแต่คงไม่ถูกที่แน่ ๆ
ชื่อเรื่อง การศึกษาปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา ผู้วิจัย นางทิพวรรณ ยิ้มพงษ์ ปีที่วิจัย พฤศจิกายน 2550 วัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 2.เพื่อเปรียบเทียบปัญหาการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จำแนกตามช่วงชั้นที่สอนและประเภทแบบสอบถามที่ใช้ วิธีวิจัย เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1. ประชากรที่ใช้วิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานครูกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จำนวน 150 คน 2. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานครูกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ เครจซี่และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม แบ่งเป็น 2 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับปัญหาการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริงใน 3 ด้าน ได้แก่ กระบวนการดำเนินงานการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง วิธีการและเครื่องมือในการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอนดังนี้ 1.การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการดังขั้นตอนดังต่อไปนี้ 21.1 นำหนังสือขอความร่วมมือในการเก็บข้อมูลจากภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ถึงผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนสังกัดสำนักการศึกษาเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิจัย 1.2 เก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัย จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 108 คน โดยผู้วิจัยนำแบบสอบถามไปให้ด้วยตนเอง คิดเป็นร้อยละ100 2. การจัดกระทำข้อมูลดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ 2.1 ผู้วิจัยนำแบบสอบถามมาลงรหัสให้คะแนนและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS 2.2 ตีความหมายค่าเฉลี่ยเกี่ยวกับปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง 3 ด้าน โดยใช้เกณฑ์ประเมินของ บุญชม ศรีสะอาด และบุญส่ง นิลแก้ว วิธีวิเคราะห์ผล ใช้วิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for windows สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ 1.แจกแจงความถี่ 2.หาค่าร้อยละ 3.ค่าเฉลี่ยเลขคณิต 4.หาค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน 5.ทดสอบสมมติฐานด้วย t – test 6.การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1.ปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลางเรียงลำดับจากค่าเฉลี่นมากไปน้อย 2.ปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาจำแนกตามช่วงชั้นที่สอน โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ 3.ปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาจำแนกตามแบบทดสอบที่ใช้ โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ชื่อเรื่อง การศึกษาปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา
ผู้วิจัย นางทิพวรรณ ยิ้มพงษ์
ปีที่วิจัย พฤศจิกายน 2550
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
2.เพื่อเปรียบเทียบปัญหาการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จำแนกตามช่วงชั้นที่สอนและประเภทแบบสอบถามที่ใช้ วิธีวิจัย เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1. ประชากรที่ใช้วิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานครูกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จำนวน 150 คน
2. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานครูกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ เครจซี่และมอร์แกน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม แบ่งเป็น 2 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา
ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับปัญหาการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริงใน 3 ด้าน ได้แก่ กระบวนการดำเนินงานการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง วิธีการและเครื่องมือในการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอนดังนี้
1.การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการดังขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.1 นำหนังสือขอความร่วมมือในการเก็บข้อมูลจากภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ถึงผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนสังกัดสำนักการศึกษาเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิจัย
1.2 เก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัย จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 108 คน โดยผู้วิจัยนำแบบสอบถามไปให้ด้วยตนเอง คิดเป็นร้อยละ100
2. การจัดกระทำข้อมูลดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
2.1 ผู้วิจัยนำแบบสอบถามมาลงรหัสให้คะแนนและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS
2.2 ตีความหมายค่าเฉลี่ยเกี่ยวกับปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง 3 ด้าน โดยใช้เกณฑ์ประเมินของ บุญชม ศรีสะอาด และบุญส่ง นิลแก้ว
วิธีวิเคราะห์ผล
ใช้วิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for windows
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ
1.แจกแจงความถี่
2.หาค่าร้อยละ
3.ค่าเฉลี่ยเลขคณิต
4.หาค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
5.ทดสอบสมมติฐานด้วย t – test
6.การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า
1.ปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลางเรียงลำดับจากค่าเฉลี่นมากไปน้อย
2.ปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาจำแนกตามช่วงชั้นที่สอน โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
3.ปัญหาการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงของพนักงานครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาจำแนกตามแบบทดสอบที่ใช้ โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
คุณจิระนันท์ และคุณพนารัตน์ครับ
เอาข้อมูลไปใส่ในบล็อกของตนเองครับ ทดลองเพิ่มบันทึกในบล็อกแล้ว copy ไปวางได้เลยครับ
ok คุณจิระนันท์ เข้าไปเขียนในบล็อกแล้วครับ เข้าไปเยี่ยมแล้ว
ok คุณพนารัตน์ เขียนลงบล็อกแล้วครับ
อาจารย์คะหนูดาด้า(สุดาพรรณ ) ทำงานชิ้นที่ 2 เสร็จแล้ว ส่งแล้วด้วย กรุณาตรวจให้หน่อยนะคะ
ok ครับ คุณสุดาพรรณ แต่สงสัยว่าใข่การวิจัยเชิงทดลองหรือเปล่าหนอ เดี๋ยวไปพบแล้วตรวจยืนยันอีกทีครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์ หนูส่งสรุปวิจัยเรื่องที่ 2 แล้ว ตรวให้หนูด้วยนะคะ
แอบเรียน แอบลุ้นงานอาจารย์มานาน อยากเห็นเป็นตัวอย่างให้แก่มหาวิทยาลัยอื่นๆ
i'm sending home work to Arjan so that not true project research that job only present to Arjan to trial sending home work
Best regards
ขอบคุณ คุณพ่อครูบาสุทธินันท์ครับที่มาให้กำลังใจ ผมตั้งใจสอนนิสิตด้วยใจ หวังให้มีความสุขในการเรียนและได้ความรู้สู่การปฏิบัติได้และพยายามให้การเรียนรู้รายบุคคลให้บรรลุเป้าหมายตามหลักสูตรทุกคนครับ นิสิตสามารถเข้าถึงแลกเปลี่ยนความรู้กันกับอาจารย์และนิสิตด้วยกันเองได้ตลอดเวลา ครับ
อาจารย์หนูสุดาพรรณ กาละพงษ์เจ้าข้า ส่งสรุปวิจัยครบทุกเรื่องแล้วนะคะ ตรวจเรื่องสุดท้ายให้ดวยนะคะ
ok ครับคุณสุดาพรรณ