วันนี้ (18 มีนาคม 2552) ในช่วงบ่าย ได้ไปร่วมประชุมกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี เขต 2 โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศไทย ในปีการศึกษา 2551 ที่ผ่านมา เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่ให้โอกาสเด็กในเขตพื้นที่ได้จับฉลากเข้าเรียนชั้น ม. 1 ถึงร้อยละ 50 ซึ่งถือเป็นโรงเรียนชั้นนำในประเทศเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดโอกาสในการจับฉลากมากถึงร้อยละ 50 (ในปี 2551 โรงเรียนที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ใช้วิธีสอบคัดเลือกเด็กในเขต ร้อยละ 25-50 และสอบทั่วไปร้อยละ 50)
ในการประชุมวันนี้ เป็นการเข้าร่วมประชุมครั้งแรกของผม ในฐานะกรรมการสถานศึกษาชุดใหม่(2552-2555) ประธานกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนแห่งนี้ คือ นายบรรจง พงศ์ศาสตร์ อดีตอธิบดีกรมสามัญศึกษา และ สว. สส. หลายสมัย จากการเข้าร่วมประชุม ผมเห็นจุดเด่นบางประการที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับสถานศึกษาอื่น ๆ โดยเฉพาะบทบาทของประธานกรรมการ เช่น
1) ในการพิจารณาแผนหรือให้การรับรองแผนปฏิบัติการประจำปีของโรงเรียน
-ประธานให้ความสำคัญในเรื่อง การทำแผนและปฏิทินงานตลอดปีของโรงเรียน
-ยึดมั่นในหลักการจัดสรรงบประมาณ ระหว่าง งานวิชาการ/กิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียน : งานบริหารจัดการ ในสัดส่วนร้อยละ 70 : 30 (ถือเป็นการจัดสรรงบประมาณแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ)
2) ในการทำงานในบทบาทของคณะกรรมการสถานศึกษา ให้ความสำคัญกับการประชุมที่มีปฏิทินที่แน่นอน โดยกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการที่มีวาระแน่นอน(อย่างน้อย) ปีละ 4 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 มีนาคม 2552.....สรุป ประเมินผลงานในการจัดการศึกษาปีที่ผ่านมา และ รับรองแผนปฏิบัติการในปีการศึกษาถัดไป(แผนปฏิบัติการ ปีการศึกษา 2552)
ครั้งที่ 2 พฤษภาคม...รับทราบ และสัมมนาความพร้อมของสถานศึกษา สำหรับการจัดการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552
ครั้งที่ 3 สิงหาคม 2552...สัมมนาความก้าวหน้าผลการจัดการศึกษาภาคเรียนที่ 1
ครั้งที่ 4 พฤศจิกายน 2552 ..รับทราบและสัมมนาความพร้อมของสถานศึกษา สำหรับการจัดการศึกษาภาคเรียนที่ 2
เมื่อจบภาคเรียนที่ 2 ประมาณมีนาคม 2553 ก็จะเข้าสู่วงจรอีกครั้งหนึ่ง
3) ในการจัดการศึกษาเพื่อท้องถิ่น/ชุมชน ยึดหลักสำคัญ ๆ เช่น ให้โอกาสกับเด็กในเขตพื้นที่บริการได้เข้าเรียนในโรงเรียน(ระดับชั้น ม.1) ให้มากที่สุด ทั้ง ๆ ที่โรงเรียนมีโอกาสในการคัดเลือกเด็กสูงยิ่ง( ใน 2 ปีที่ผ่านมา ให้โควต้า ร้อยละ 50 ) ส่งเสริมให้นักเรียนที่จบชั้น ม.3 ได้เรียนต่อในระดับชั้น ม.4 (หากประสงค์จะเรียนต่อที่เดิม) แม้ผลการเรียนใน ม.ต้น ไม่สูงนัก(ถือว่า “เป็นลูกของเรา ที่เราสอนมาด้วยมือเราเอง” ถ้าเด็กเรียนอ่อนหรือมีผลการเรียนในระดับ ม.ต้นไม่ดี ก็เป็นเพราะฝีมือของโรงเรียนด้วย)
ที่เล่ามาทั้งหมด ดูเหมือนจะพูดว่า เป็นบทบาทของประธานกรรมการ ที่ให้ความสำคัญกับการทำงานที่เป็นระบบ แท้จริงแล้ว ต้องยอมรับว่า การทำงานที่ประสบความสำเร็จได้อย่างดีนั้น ส่วนสำคัญยิ่งก็คือ ฝ่ายเลขานุการ(ผู้อำนวยการโรงเรียนและทีมงาน) ที่เตรียมงานอย่างยอดเยี่ยม น่าชมเชยอย่างยิ่ง เช่นกัน
ไม่มีความเห็น