วันนี้เราไปอ่านกระทู้ๆ หนึ่งซึ่งมีความหมาย คติสอนใจดีมาก ซึ่งอยากจะนำมาแบ่งปันให้ทุกๆคนได้อ่านกัน เรื่องมีอยู่ว่า
" กาลครั้งหนึ่ง ยังมีคุณลุงอยู่ท่านหนึ่ง ในช่วงวัยหนุ่ม ทำงานเป็นหัวหน้าคนงานอยู่ในเหมืองทองคำแห่งหนึ่ง มีรายได้ดีมาก แต่ไม่เคยเก็บเงินเลย เนื่องจากมีเท่าไรก็ใช้หมด เละคุณลุงเป็นคนที่จิตใจดีมาก ใครมาหยิบยืมก็ให้ เลี้ยงเพื่อนฝูงตลอด ป็นคนมีเพื่อนเยอะมาก จนกระทั่งคุณลุงท่านนี้เกษียณอายุจากการทำงาน ปรากฎว่า ไม่มีเงินเหลือเลย จากชีวิตการทำงานอันยาวนาน คุณลุงมีลูกอยู่ 5 คน เมื่อคุณลุงไม่มีเงินก็จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่บ้านลูกๆ ทั้ง 5 คน
วันจันทร์ ก็ไปอยู่บ้านลูกสาว ก็ถูกลูกเขยพูดจากระทบกระเทียบ เช่น "ทำไมคุณพ่อคุณไม่ไปบ้านลูกคนอื่นบ้างนะ ผมจะทำอะไรก็อึดอัดจริงๆ"
วันอังคาร ก็ไปอยู่บ้านลูกชาย ก็ถูกหลานและลูกสะใภ้กระทบกระเทียบ เช่น "รำคาญคุณปู่จังเลย กับข้าวที่หนูชอบดูสิคุณปู่ทานหมดเลย ทำไมคุณปู่ไม่ไปอยู่บ้านอื่นบ้าง" เป็นเช่นนี้ตลอด คุณลุงก็เปลี่ยนไปอยู่บ้านลูกคนนั้นที คนนี้ที ก็ถูกลูกบ้าง ลูกเขยบ้าง ลูกสะใภ้บ้าง หลานบ้างพูดจาถากถางอยู่ตลอด แต่คุณลุงก็ต้องทน เพราะคุณลุงไม่มีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว
อยู่มาวันหนึ่ง คุณลุงตัดสินใจเรียกลูกๆ ทุกคนมาแล้วบอกว่า "พ่อจะไม่อยู่สัก 2 ปีนะลูก เพราะเพื่อนพ่อที่เป็นเจ้าของเหมืองทองคำมันเขียนจดหมายมาขอร้องให้พ่อไปช่วยงานที่เหมืองทองคำของมัน พ่อจำเป็นต้องไปช่วยเขาจริงๆ " ลูกๆ ได้ฟังดังนั้นก็ดีใจสนับสนุนเพื่อให้คุณลุงท่านนี้ไปให้พ้นๆ จะได้ไม่เป็นภาระอีกต่อไป
เมื่อครบ 2 ปี คุณลุงท่านนี้ก็กลับมาพร้อมลังเหล็กใบใหญ่ 1 ใบ ไปไหนแกก็ลากไปด้วย ลูกๆ ก็พากันแปลกใจและถามว่า "ลังอะไร" คุณลุงตอบว่า "เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ได้มาจากเหมืองทองคำของเพื่อน ถ้าใครดูแลพ่อจนถึงวาระสุดท้ายก็จะมอบสมบัติในลังเหล็กให้ทั้งหมด" ปรากฏว่าลูกๆ พากันตื่นเต้น ต่างอาสามาดูแลคุณพ่อกันยกใหญ่..."
คุณคิดว่าของที่อญยู่ในลังเหล็กนี้คืออะไร ลองเดาดูสิคะ
..........n...............
..........n...............
..........n...............
ลองมาฟังเฉลยกันดูนะคะ
วันจันทร์ คุณลุงก็อยู่กับลูกสาวคนโต ลูกเขยกับหลานๆ ก็พากันเอาใจบีบนวดให้ หาของกินดีๆ มาให้ แต่ยังไม่ทันไร ลูกชายคนที่สอง ก็มาตามให้ไปอยู่ด้วย และก็เช่นกันยังไม่ทันไร ลูกสาวคนที่สามก็มาตามให้ไปอยู่ด้วยอีก ปรากฎว่าลูกๆ ทั้ง 5 คนของคุณลุงต่างแย่งกันเอาใจและปรนนิบัติคุณลุงท่านนี้อย่างดี แต่เวลาไปไหนคุณลุงก็จะลากลังเหล็กใบนี้ไปด้วยตลอด
เวลาผ่านไป 7 ปี คุณลุงท่านนี้เสียชีวิตลง หลังงานพิธีศพลูกๆ ทุกคนพากันมานั่งล้อมลังเหล็กใบนี้เพื่อแบ่งสมบัติกัน พอเปิดฝาลังเหล็กพบว่า ยังมีผ้าสีขาวปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง และมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ ลูกสาวคนโตก็เปิดอ่านให้น้องๆ ฟัง เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า
" ถึงลูกๆ ที่รักทุกๆ คน....
ก่อนอื่น พ่อต้องขอขอบคุณก้อนหินทุกๆ ก้อนในลังเหล็กใบนี้ที่ได้เลี้ยงดูชีวิตพ่อจนถึงวาระสุดท้าย พ่อขอให้ลูกๆ แบ่งก้อนหินในลังเหล็กใบนี้ไปคนละเท่าๆ กัน เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้พวกเจ้าหมั่นเก็บออมเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่เวลาพวกเจ้าแก่ตัวลงจะได้ไม่มีชีวิตที่น่าสมเพชเยี่ยงพ่อ"
รักลูก
จากพ่อ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าประมาทและอย่าคาดหวังว่าใครจะเลี้ยงดูเรา ให้เร่งเก็บออมเสียตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้มีชีวิตบั้นปลายที่สุขสบาย
พอเราอ่านแล้วก็กลับมาย้อนคิดได้ 2 ทาง
ทางแรก คือ อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน หากเราไม่อดออมวันนี้ แล้ววันข้างหน้าจะหวังพึ่งใครได้ หรือพึ่งคนอื่นจะดีเท่าที่เราพึ่งตัวเองหรอ
ทางที่ 2 คือ พ่อแม่เป็นบุคคลแรกที่เราลืมตามาก็พบท่าน ท่านให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเรา ตอนเล็กๆเราต้องพึ่งท่าน แต่พอตอนที่ท่านถึงวัยที่เหน็ดเหนื่อย หรืออ่อนล้า ทำไมเราไม่เป็นที่พึ่งให้ท่านล่ะ หากเรามีครอบครัวของเราเอง เรายังเลี้ยงได้ แล้วพ่อแม่ ทำไมเราจะเลี้ยงไม่ได้
เพื่อนๆล่ะคะ พออ่านเรื่องนี้แล้วมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
ขอขอบคุณบทความดีดีจาก http://www.pantown.com/board.php?id=12944&area=4&name=board1&topic=225&action=view
อ่านแล้วได้คติดีอ่ะ
แต่ตอนนี้ใช่เงินเยอะมาก
เศร้า
โห น่าสงสารจัง
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากเลย
ซึ้งๆๆๆ
รักพ่อ
เราคิดว่าใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น
เรื่องของบุญคุณสุดยอดของความเป็นคนแล้วล่ะ
เราชอบมาก ให้ข้อคิดมากๆๆๆ
เราจะเริ่มเก็บออมแล้วล่ะ
นิทานเรื่องนี้ดีมากๆ อ่านแล้วสนุก เดาเหตุการณ์ไม่ออกว่าจะเป็นแบบไหน พอตอนจบก็ได้บทสรุป ดีมากเลยปุ๋ย
ได้ข้อคิดดีมากๆ
ซึ้งในพระคุณพ่อ แม่
ในฐานะลูกควรตอบแทนพระคุณท่านที่เลี้ยงเรามา
หลอนหรอ