ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องไม่ยอมให้ “อัตตาตัวตน (ego)” ใหญ่จน “คับแก้ว”
แต่ลึกๆ ภายในใจ กลับยังอยากได้การ recognise ยังอยากได้รับ “การยอมรับ”
ไม่ต้องการรู้สึกว่าตัวเอง “โปร่งใส” ไม่ต้องการเป็นอะไรที่ “ไม่มีใครมองเห็น”
ภายในใจยังต้องการเป็น somebody ต้องการเป็นที่รัก เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
โอ้ เจ้า ego เจ้าช่างใหญ่โตเสียยิ่งกระไร เมื่อใดที่เจ้าหายไป ชีวิตคงจะเรียบง่ายยิ่งนัก!!
- ประพนธ์ ผาสุขยืด
17 มีนาคม 2552
นั่นนะซิคะ ego นี่ใหญ่โต แล้วก็แรงสำหรับบางคนอีกต่างหาก
เห็นด้วยคะ
เจ้า ego มันใหญ่โตจริงๆ ครับ
จะพยายามไม่ให้มันออกมาใหญ่จนคับแก้ว
ขอให้มันใหญ่แบบเท่าที่จะใหญ่ได้ แบบพอตัว ครับ
แต่เผลอเมื่อไร มันก็จะโตคับแก้วอยู่ร่ำไป
ที่วุ่นวาย ก็เพราะเจ้า ego นี่แหละครับ
ถ้าจะคิดว่า ego ทำให้โลกพัฒนา ได้ไหมครับ คิดนอกกรอบครับ
สวัสดีค่ะ
ชอบคำอุทานของอาจารย์มากค่ะ....
โอ้ เจ้า ego เจ้าช่างใหญ่โตเสียยิ่งกระไร เมื่อใดที่เจ้าหายไป ชีวิตคงจะเรียบง่ายยิ่งนัก!!
ท่านผู้รู้เคยสอนคนไม่มีรากว่า ถ้า เห็น Ego แล้ว มันจะไม่ค่อยเติบโตค่ะ เว้นเสียแต่ว่า ดูแล้ว เห็นแล้ว ก็ยังไม่รดน้ำ พรวดดินให้อาหารมันอีก ... ก็แย่เลยค่ะ
เพราะบางคนยิ่งมองยิ่งเห็น แต่ไม่ตระหนักรู้ทันมัน ... ก็เท่านั้นเอง
ขอบคุณข้อคิดดี ๆ จากอาจารย์ค่ะ
(^___^)
ขอโทษค่ะ ไม่ตรวจทานรีบบันทึก...
ก็ยังไม่รดน้ำ พรวดดินให้อาหารมันอีก
แก้เป็น ...ไปรดน้ำ พรวนดิน ... ค่ะ
ดีที่รู้เท่าทัน บางครั้งเราก็เผลอ เมื่อรู้ว่าเผลอก็ยังดี ได้ช่วยฉุดกลับมาได้เหมือนกันนะคะ
ดูแล้ว...เห็นแล้ว... จ๊ะเอ๋มันบ่อยๆ...
มันจะค่อยๆ หลบหน้า...แต่จะไปซ่อนอยู่ในซอกหลืบที่บางครั้งเราแทบจะมองหามันไม่เจอ... แต่เมื่อไรที่เราขยันหน่อย..เราก็จะเจอและพออ่านทางมันได้ว่ามันจะไปหลบซ่อนอยู่ ณ ที่ใดบ้าง...
(^___^)
ขอบพระคุณค่ะ..
ที่ให้โอกาสได้มาร่วม ลปรร. ด้วยค่ะ
เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เราต้องเรียนรู้
ซึ่งการเรียนรู้จริงๆนั้น ไม่ใช่ยิ่งรู้ยิ่ง"ติด"
แต่ยิ่งรู้ ยิ่งต้อง "ละ"
ผมคิดว่า การที่เรารู้ตัว ก็เป็นการเรียนรู้ที่สำคัญครับ
และการเปิดเผย ได้อย่างบริสุทธิ์ใจ ก็เป็นเริ่มต้น "ละ" ที่ดีครับผม
:)
อนุโมทนาครับ อาจารย์รู้มันอีกแล้วครับ ดีใจด้วย
ขอให้อาจารย์เห็นมันเป็นสักแต่ว่าได้ในเวลาอันใกล้ครับ
* คนบางคนมี ego มากเกินไป
จนกระทั่งบดบังตัวตนที่แท้จริงค่ะ
แต่บางครั้งจะมีอีโก้บ้างนิดๆ ก็เป็นส่วนดีนะคะ มองโลกในแง่ดีคะ
หากว่าเราหลุดพ้นจากกิเลส
ความกลัวที่จะไม่รู้
กลัวว่าผู้อื่นจะไม่รู้ว่าเรารู้
เราก็จะรู้ตัวอัตตาว่าไม่มีความยิ่งใหญ่อะไรเลย
เพิ่มความเมตตาแก่
ผู้ที่ไม่รู้และอยากรู้
ผู้ที่ไม่รู้ว่าตนไม่รู้
แม้กระทั่งผู้ที่ไม่รู้แต่อวดรู้
และผู้ที่รู้บ้างไม่รู้บ้างแต่อยากแลกเปลี่ยน
ก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้ความรู้เป็นทานอย่างมีเมตตา
ลดอัตตาที่มีลงได้
ขอบคุณทุกๆท่านมาก สำหรับการ "ต่อยอด" ที่เยี่ยมมาก อ่านแล้วทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจในการเขียนบันทึกที่ต่อเนื่องจากบันทึกนี้ . . . ขอขอบคุณอีกทีครับ
เรียนท่านอาจารย์ค่ะ
ไม่ต้องการรู้สึกว่าตัวเอง “โปร่งใส” ไม่ต้องการเป็นอะไรที่ “ไม่มีใครมองเห็น”
ภายในใจยังต้องการเป็น somebody ต้องการเป็นที่รัก เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
โอ้ เจ้า ego เจ้าช่างใหญ่โตเสียยิ่งกระไร เมื่อใดที่เจ้าหายไป ชีวิตคงจะเรียบง่ายยิ่งนัก!!
บันทึกนี้แทงหัวใจเวลานี้ค่ะ แต่การได้เป็นผู้ไม่มีตัวตนเพราะซัมบอดี้ที่แบบอัตตาไว้ ทำให้คนหนึ่งคนได้โอกาสที่อยู่ในส่วนลึกๆ ของข้างใน ขอบพระคุณที่ได้รับความรู้เพิ่มจากอาจารย์ ทำให้มีแรงกำลังในงานอีกหลายชิ้นที่รออยู่ค่ะ
เรียน ท่าน อ.ดร.ประพนธ์ ที่เคารพ
อาจารย์สบายดีนะคะ
ตอนนี้อยากมีชีวิตที่เรียบง่าย สบายๆ แต่ก็ยังอยากเป็น somebody , อยากมี someone อยู่อะค่ะ
ขอบคุณค่ะ