สวัสดีครับทุกท่าน
สบายดีกันนะครับ ได้มีโอกาสสอนวิชาคณิตศาสตร์มาระยะหนึ่ง ทำให้ทราบว่าก่อนที่เราจะสอนวิชาใดๆ เราจำเป็นจะต้องซ่อมส่วนที่สึกหรอในใจของผู้เรียนก่อนเสมอ เพื่อปรับสภาพส่วนที่สึกหรอนั้นให้พร้อมที่จะยึดเกาะกับสิ่งใหม่ๆที่จะต่อยอดเพิ่มเติมเข้าไป ด้วยเหตุนี้ผมจึงเขียนหนังสือขึ้นมาหนึ่งเล่มชื่อว่า
เรียนคณิตศาสตร์อย่างไรไม่เป็นมะเร็ง
เพื่อเป็นเพื่อนให้กับผู้อ่านในการค้นหาตัวเอง แล้วดึงศักยภาพของตัวเองทางคณิตศาสตร์มาใช้ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ในปัจจุบันและอนาคต เพราะผมเชื่อในส่วนตัวว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่อยากจะเป็นเพื่อนกับวิชาคณิตศาสตร์ไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อม
ผมคาดว่าหนังสือเล่มนี้คงจะเป็นการปูทางให้นักศึกษาของผมและผู้อ่านปรับใจและเห็นคุณค่าของคณิตศาสตร์ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่...... สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำนำ ซึ่งเขียนตามความรู้สึกส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ครับ
ใครจะไปรู้ว่าคนที่รู้สึกว่าคณิตศาสตร์เป็นเรื่องที่ยากในขณะนี้ อาจจะกลายเป็นเพชรเม็ดงามในการสร้างสรรค์ผลงานทางคณิตศาสตร์เพื่อชาติไทยในอนาคต..... ร่วมแสดงความเห็นได้ด้วยความยินดีครับ หากท่านผู้อ่านรู้สึกว่าตัวเองผูกพันหรืออยากระบายกับความรู้สึกที่มีต่อวิชาคณิตศาสตร์และอยากจะถ่ายทอดเพื่อเป็นบทเรียนให้กับอนาคตของประเทศเรา ก็ขอให้ท่านระบายเพื่อเป็นข้อมูลต่อนักเรียนของชาติไทยสืบไปได้นะครับ ผมกะว่าหนังสือเล่มนี้อาจจะแล้วเสร็จก่อนเทอมหน้าที่จะถึงนี้ การที่จะให้นักศึกษาของเราเห็นคุณค่าแล้วสนุกกับวิชาคณิตศาสตร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป อยู่ที่ว่าเราผู้ให้จะเนรมิตรให้ผู้้เรียนเห็นความงามของคณิตศาสตร์และสัมผัสได้อย่างไรเป็นสำคัญ.....
ตัวอย่างหนังสือ.... บทแรกและบทสุดท้ายและโครงร่างคร่าวๆ ครับ (มีอยู่ 2 บทครับ เพราะบทกลางๆ ยังไม่เสร็จครับ)
ขอบพระคุณสำหรับทุกๆ ความเห็นครับ
เม้งครับ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย เม้ง สมพร ช่วยอารีย์ ใน มิสเตอร์ช่วย
น่าสนใจมากเลย เชื่อว่ามีนักเรียนน้องนุ่งลูกหลาน อีกหลายคนที่จะได้ประโยชน์จากการปรับความคิดในเชิงบวกทางนี้ แล้วจะคอยติดตามผลงาน ^^