ปลูกมันสำปะหลังอย่างไรจึงจะได้ผลผลิตสูง


มันสำปะหลัง

ปลูกมันสำปะหลังอย่างไรจึงจะได้ผลผลิตสูง

            นายคนอง ศรีสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ต.มหาโพธิ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ได้เล่าถึงหลักในการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง  ซึ่งน่าจะมีประโยชน์ต่อเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลัง ดังนี้

1.      การปรับปรุงบำรุงดิน  ด้วยการเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้กับดิน เพื่อปรับโครงสร้างของดินให้

สามารถอุ้มน้ำได้ดี และการเพิ่มธาตุอาหารหลักให้กับดิน ได้แก่  ปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์ หรือเปลือกมันจากโรงงานแป้ง หรือปุ๋ยพืชสดจากปอเทือง และถั่วพร้าปลูกแล้วไถกลบ  ในกรณีที่ดินถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน  ทำให้เกิดชั้นดินดานใต้ดิน  ทำให้ระบายน้ำลงใต้ดินเกิดปัญหาหัวเน่าจากน้ำท่วมขัง  ในช่วงฤดูแล้งมันสำปะหลังไม่สามารถใช้น้ำใต้ดินได้  ทำให้เกิดการชะงักการเจริญเติบโต  ดังนั้น  ควรไถระเบิดดินดานหรือใช้หญ้าแฝกปลูก 12 ปี หญ้าแฝกมีระบบรากลึกถึง  3 เมตร  สามารถทำลายชั้นดินดานได้  อีกทั้งเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุให้กับดินด้วย

2.      การเลือกฤดูปลูก  ควรให้มันที่ปลูกช่วงอายุ  3 12  เดือนหรือเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม

ได้รับน้ำฝนมากที่สุด  เพราะผลผลิตขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนในช่วงอายุดังกล่าว  ช่วงนี้มันต้องการน้ำเพื่อการเจริญเติบโต  ดังนั้น  รองลงมาคือ ต้นฤดูฝนเดือนเมษายนพฤษภาคม และปลายฤดูฝนเดือนตุลาคมพฤศจิกายน แต่การปลูกในช่วงฤดูร้อนและปลายฤดูฝนมีข้อจำกัดของปริมาณน้ำฝนค่อนข้างน้อย  มีผลต่อการงอกของท่อนพันธุ์ด้วย

3.      การเลือกพันธุ์  ดินที่ใช้ปลูกมันโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น  2  ชนิดคือ  ดินร่วนเหนียวถือได้ว่า

เป็นดินดี  สามารถนำไปปั้นเป็นลูกกระสุนได้  และดินร่วนทรายถือได้ว่าเป็นดินปานกลางถึงเลว  ดินชนิดนี้ไม่สามารถนำไปปั้นเป็นลูกกระสุนได้  เนื่องจากดินแตกง่ายไม่เกาะติดกัน  ดินร่วนเหนียวควรปลูกพันธุ์ระยอง  5 หรือระยอง 72  ส่วนดินร่วนทรายควรปลูกพันธุ์เกษตรศาสตร์  50  ระยอง  90  ห้วยบง  60  และระยอง  9  เนื่องจากทั้ง  4  พันธุ์  เมื่อนำไปปลูกในดินร่วงเหนียวจะเจริญเติบโตในส่วนของลำต้นที่อยู่เหนือดินมากกว่าลงหัว  หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าขึ้นต้นหรือบ้าต้นเกินไป  ส่วนพันธุ์ระยอง  7  นั้นเหมาะทั้งดินร่วนเหนียว และดินร่วนทรายที่มีความชื้นของดินดีตลอด ช่วงของการเจริญเติบโตแต่ไม่เหมาะกับสภาพดินที่แห้งแล้ง

 4.      การเตรียมดินให้ลึก  ต้องไถดะครั้งแรกให้ลึกที่สุดด้วยผาน  3  หรือผาน 4  ควรไถดะในขณะ

ที่ดินมีความชื้นพอเหมาะ  ห้ามไถดะด้วยผาน 7  เพราะจะไถได้ไม่ลึกการไถดะให้ลึกจะเพิ่มความสามารถในการเก็บความชื้นของดินได้มากขึ้นและมันลงหัวได้ง่าย  ตากดินเพื่อให้วัชพืชตาย  ถ้าเป็นดินร่วนเหนียวควรไถแปรครั้งที่สองเพื่อย่อยดินด้วยผาน 7 ตามด้วยการยกร่องพร้อมปลูก  ส่วนดินร่วนทรายไม่จำเป็นต้องไถแปรครั้งที่สองด้วยผาน 7 สามารถยกร่องพร้อมปลูก ในกรณีที่สามารถหาปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมักได้ควรหว่านก่อนไถดะ  ปุ๋ยหมักที่ใช้ได้ผลดี  คือ  ปุ๋ยหมักมูลไก่ 500 1,000  กก.ต่อไร่  หรือวัสดุอินทรีย์จากกากมันที่เหลือจากโรงงานแป้ง  2  ตันต่อไร่

5.      การปลูกที่ถูกต้อง  พันธุ์ที่ใช้ปลูกควรมีอายุ  10 12  เดือน  จะมีความงอกดีที่สุด โดยเลือก

ต้นพันธุ์ที่แข็งแรงมีตาถี่ขนาดโตพอสมควร  ต้องตัดท่อนปลูกด้วยมีดที่คม  เพื่อไม่ท่อนปลูกช้ำ  ยาวไม่ต่ำกว่า  20 ซ.ม. โดยปักตรงให้ลึก  2  ใน  3  ของความยาวท่อนปลูกในดินร่วนเหนียว  ระยะแถวกว้าง  1.20  เมตร  ระยะต้น  0.50 1.00  เมตร  และในดินร่วนทรายควรใช้ระยะแถวแคบ  0.80  เมตร  ระยะปลูกตั้งแต่  0.50 0.80  เมตร

6.      การกำจัดวัชพืช   มันสำปะหลังใช้เวลา 3  เดือนหลังจากปลูก เพื่อสร้างพุ่มใบให้คลุมพื้นที่

ระหว่างร่องทั้งหมด  ดังนั้น  ภายในช่วง  3  เดือนแรกถือว่าเป็นช่วงวิกฤติของมัน  ต้องดูแลรักษาให้มันปลอดวัชพืช  ถ้าปล่อยให้วัชพืชแข่งขันกับมัน  มันจะแคระแกร็น  ให้ผลผลิตลดลงมาก  การกำจัดวัชพืชสามารถเลือกทำแบบผสมผสาน  โดยใช้จอบถาง  รถไถเดินตามแถกระหว่างร่อง  ใช้สารเคมีประเภทคลุมก่อนวัชพืชงอกหรือสารเคมีฆ่าหลังวัชพืชงอก  สารเคมีประเภทคลุมใช้ได้ผลเฉพาะการปลูกต้นฤดูฝนเท่านั้น  ห้ามใช้ไกลโฟเสทในขณะที่มันสำปะหลังต้นเล็กอยู่  เพราะมีผลทำให้ชะงักการเจริญเติบโต

7.      การใส่ปุ๋ยเคมี   ควรเลือกใช้ปุ๋ยเคมีอัตราส่วน  2 : 1 : 2  ปุ๋ยเคมีที่แนะนำ คือ  15 7 18 

หรือ  15 15 15  อัตรา  50  กก.ต่อไร่  โดยใส่ปุ๋ย  2  ข้างลำต้นรัศมีพุ่มใบแล้วกลบ  ใส่ปุ๋ยครั้งเดียวเมื่ออายุ  1  เดือนหลังจากปลูก  และต้องใส่ปุ๋ยเคมีในขณะที่ดินมีความชื้นและต้องกลบปุ๋ยด้วย  ถ้าไม่กลบปุ๋ยอาจสูญเสียปุ๋ยมากเกิน  50 % การเก็บเกี่ยวควรเลือกเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังในช่วงที่เหมาะสมตั้งแต่อายุ  10 - 18  เดือน  ควรงดเว้นการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังในช่วงฝนแรก  คือ เดือนเมษายน-มิถุนายน  เนื่องจากมันแตกใบอ่อนจะให้เปอร์เซ็นต์แป้งต่ำ

 8.  การให้น้ำมันสำปะหลัง  ควรให้น้ำในช่วงฤดูแล้งเพื่อจะช่วยให้มันมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องหรือทำให้ใบร่วงน้อยที่สุด  มีผลทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นแต่ละเดือนอย่างก้าวกระโดด  ดังนั้น  การปลูกมันสำปะหลังเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด  ต้องปลูกในช่วงฤดูฝน  คือ  ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน  มีการให้น้ำในช่วงสองเดือนแรกของการเจริญเติบโตตามความจำเป็น  และให้น้ำเต็มที่ในช่วงฤดูแล้ง  5  เดือน  คือ พฤศจิกายน-มีนาคม  เก็บเกี่ยวที่อายุ  12  เดือน  ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 056-299038

คำสำคัญ (Tags): #มันสำปะหลัง
หมายเลขบันทึก: 248798เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2009 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 09:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • ขอบคุณครับ
  • ที่บันทึกมาแบ่งปัน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท