17. บทอาขยาน : ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3


ห่วงเอ๋ยห่วงอะไร ไม่ยิ่งใหญ่เท่าห่วงดวงชีวิต แม้คนลืมสิ่งใดได้สนิท ก็ยังคิดขึ้นได้เมื่อใกล้ตาย

       ผมเคยดู "รำพลายชุมพล" หลังจากรำได้ถามผู้รำซึ่งเป็นเด็กชั้น ม.๓ ว่า รู้จักพลายชุมพลไหม เด็กไม่รู้จัก

       มีโอกาสก็เลยถามครู (ไม่ให้เด็กได้ยิน) ครูตอบรู้จัก พอถามต่อว่า เขาเป็นลูกใคร ครูตอบไม่มั่นใจว่า เป็นลูกของขุนแผน หรือพลายงาม

       ผมเฉลยว่า ลูกขุนแผน แล้วถามครูอีกว่า แม่ชื่ออะไร ครูตอบไม่ได้ ผมเลยไม่ถามต่อ เพราะหากถามต่อว่า "ปลอมตัวเป็นมอญทำไม" ก็คงไม่รู้แน่ 

         แต่....บทอาขยานข้างล่างนี้ เป็นพลายงามนะครับ

                                               

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓


๏ ๏ เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ๏ ๏
-พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒-๓ -


๏ ยกออกนอกเมืองสวรรคโลก
ข้ามโคกเข้าป่าพนาศรี
เจ้าพลายกระสันพันทวี
รำลึกถึงนารีศรีมาลา
ถ้าแม้นแก้วแววตามาด้วยพี่
จะชวนชี้ชมไม้ไพรพฤกษา
คิดพลางเดินพลางตามทางมา
ข้ามท่าเขินเขาลำเนาธาร
แลเห็นเขาเงาเงื้อมชะง่อนชะโงก
เป็นกรวยโกรกน้ำสาดกระเซ็นซ่าน
ดูโครมครึกกึกก้องท้องพนานต์
พลุ่งพล่านมาแต่ยอดศิขรินทร์
เป็นชะวากวุ้งเวิ้งตะเพิงพัก
แง่ชะงักเงื้อมชะง่อนล้วนก้อนหิน
บ้างใสสดหยดย้อยเหมือนพลอยนิล
บ้างเหมือนกลิ่นภู่ร้อยห้อยเรียงราย
ตรงตระพักเพิงผาศิลาเผิน
ชะงักเงิ่นเงื้อมงอกชะแง้หงาย
ที่หุบห้วยเหวหินบิ่นทลาย
เป็นวุ้งโว้งเพรงพรายดูลายพร้อย
บ้างเป็นยอดกอดก่ายตะเกะตะกะ
ตะขรุตะขระเหี้ยนหักเป็นหินห้อย
ขยุกขยิกหยดหยอดเป็นยอดย้อย
บ้างแหลมลอยเลื่อมสลับระยับยิบ
บ้างงอกเง้าเป็นเงี่ยงบ้างเกลี้ยงกลม
บ้างโปปมเป็นปุ่มกะปุบกะปิบ
บ้างปอดแป้วเป็นพูดูลับลิบ
โล่งตะลิบแลตลอดยอดศิขรินทร์
เหล่ามิ่งไม้ไทรโศกอยู่ริมห้วย
ลมช่วยหล่นลอยกระแสสินธุ์
น้ำใสแลซึ้งถึงพื้นดิน
ฟุ้งกลิ่นสุมามาลย์บานระย้า
สัตตบุษย์บัวแดงขึ้นแฝงฝัก
พรรณผักพาดผ่านก้านบุบผา
แพงพวยพุ่งพาดพันสันตะวา
ลอยคงคาทอดยอดไปตามธาร....

 
๏ ๏ กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า ๏ ๏
ของ -พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ)

๏ วังเอ๋ยวังเวง
หง่างเหง่งย่ำค่ำระฆังขาน
ฝูงวัวควายผ้ายลาทิวากาล
ค่อยค่อยผ่านท้องทุ่งมุ่งถิ่นตน
ชาวนาเหนื่อยอ่อนต่างจรกลับ
ตะวันลับอับแสงทุกแห่งหน
ทิ้งทุ่งให้มืดมัวทั่วมณฑล
แลทิ้งตนตูเปลี่ยวอยู่เดียวเอย.....

๏ ความเอ๋ย ความรู้
เป็นเครื่องชูชี้ทางสว่างไสว
หมดโอกาสที่จะชี้ต่อนี้ไป
ละห่วงใยอยากรู้ลงสู่ดิน
อันความยากหากให้ไร้ศึกษา
ย่นปัญญาความรู้อยู่แค่ถิ่น
หมดทุกข์ขลุกแต่กิจคิดหากิน
กระแสวิญญาณงันเพียงนั้นเอย.......

๏ ห่วงเอ๋ยห่วงอะไร
ไม่ยิ่งใหญ่เท่าห่วงดวงชีวิต
แม้คนลืมสิ่งใดได้สนิท
ก็ยังคิดขึ้นได้เมื่อใกล้ตาย
ใครจะยอมละทิ้งซึ่งสิ่งสุข
เคยเป็นทุกข์ห่วงใยเสียได้ง่าย
ใครจะยอมละแดนแสนสบาย
โดยไม่ชายตาใฝ่อาลัย เอย.

๏ โลกนิติคำโคลง ๏ ๏
ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศร (มั่ง)

๏ พึงอวยโอวาทไว้        ในตน ก่อนนา
จึงสั่งสอนสาธุชน          ทั่วหล้า
แต่แรกเร่งผจญ            จิตอาต-มาแฮ
สัตว์อื่นหมื่นแสนอ้า       อาจแท้ทรมาน

๏ คุณแม่หนาหนักเพี้ยง       พสุธา
คุณบิดรดุจอา                     กาศกว้าง
คุณพี่พ่างศิขรา                  เมรุมาศ
คุณพระอาจารย์อ้าง            อาจสู้สาคร

๏ เย็นเงาพฤกษ์มิ่งไม้          สุขสบาย
เย็นญาติทุกข์สำราย           กว่าไม้
เย็นครูยิ่งพันฉาย                กษัตริย์ยิ่ง ครูนา
เย็นร่มพระเจ้าให้                ร่มฟ้าดินบน

๏ วิชาควรรักรู้                   ฤๅขาด
อย่าหมิ่นศิลปศาสตร์          ว่าน้อย
รู้จริงสิ่งเดียวอาจ               มีมั่ง
เลี้ยงชีพช้าอยู่ร้อย             ชั่วลื้อเหลนหลาน


จบบทท่องจำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ครับ


หมายเลขบันทึก: 248510เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2009 00:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

 

ห่วงเอ๋ยห่วงอะไร       ไม่ยิ่งใหญ่เท่าห่วงดวงชีวิต
แม้คนลืมสิ่งใดได้สนิท    ก็ยังคิดขึ้นได้เมื่อใกล้ตาย
ใครจะยอมละทิ้งซึ่งสิ่งสุข   เคยเป็นทุกข์ห่วงใยเสียได้ง่าย
ใครจะยอมละแดนแสนสบาย โดยไม่ชายตาใฝ่อาลัย เอย.

 

 

๏ คุณแม่หนาหนักเพี้ยง.....พสุธา
คุณบิดรดุจอา.................กาศกว้าง
คุณพี่พ่างศิขรา................เมรุมาศ
คุณพระอาจารย์อ้าง..........อาจสู้สาคร

 

 

๏ เย็นเงาพฤกษ์มิ่งไม้......สุขสบาย
เย็นญาติทุกข์สำราย........กว่าไม้
เย็นครูยิ่งพันฉาย............กษัตริย์ยิ่ง ครูนา
เย็นร่มพระเจ้าให้............ร่มฟ้าดินบน

 

 
อย่าหมิ่นศิลปศาสตร์.......ว่าน้อย
รู้จริงสิ่งเดียวอาจ............มีมั่ง
เลี้ยงชีพช้าอยู่ร้อย..........ชั่วลื้อเหลนหลาน

 

 

 

ฝากกับลม  ฝากกับฟ้า

ฝากด้วยนะ  ว่าฉันนั้นคิดถึง

คนอยู่ไกลเขาเฝ้าแต่คะนึง

คอยคิดถึงแต่เธออยู่ทุกวัน

 

ป่านนี้เป็น อย่างไรบ้างนะ

แล้วเธอจะคิดถึง คนทางนี้หรือไม่

อยากให้รู้  คนทางนี้ เขาทั้งรักและห่วงใย

แม้จะอยู่ ห่างไกล  ฉันใกล้เธอ

 

ตะแนว แปววววววววคริ  คริ  ทำไมวันนี้ผู้หญิงร้องเพลง ไม่ได้ยินเลย

รักกันอยู่ขอบฟ้า เขาเขียว
เสมออยู่หอแห่งเดียว ร่วมห้อง
ชังกันบ่แลเหลียว ตาต่อ กันนา
เหมือนขอบฟ้ามาป้อง ป่าไม้มาบัง๚ะ๛

นี่ก็โลกนิติ ครับ


ไม่ใช่ครับ

ผมมีคาถากันผี

ไม่มีผีที่ไหนเข้าสิงผมได้ นอกจากผมจะสิงผี โอ๊ะ... ไม่ใช่

แหะ แหะ พูดไปเรื่อย โน่น ผีมาโน้นแล้ว

ตัวใครตัวมัน เผ่นเถอะโยม....ฮ่า ฮ่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท