ได้ฟังเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เล่าความหลังในการทำงานกับเกษตรกร ซึ่งเป็นยุคสมัยของการเข้าพื้นที่โดยเดินเข้าหมู่บ้าน ขี่มอเตอร์ไซต์เข้าพื้นที่ และขับรถอีเขียวไปตำบล เพื่อมุ่งหวังให้ความรู้ด้านการเกษตรกับเกษตรกรแต่ละอาชีพตามพื้นที่/ตำบลที่ตนเองรับผิดชอบ
ซึ่งในสมัยนั้นความเอาใจใส่ของเกษตรตำบลที่ปกป้องปัจจัยการผลิตที่จะเอาไปให้ชาวบ้านปลูกนั้นได้ใส่ความเอื้ออาทรต่อเกษตรกรลงไปด้วย เช่น ขี่มอเตอร์ไซต์เข้าหมู่บ้านเพื่อเอาเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวไปให้ชาวบ้านปลูก แล้วถุงไปเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซต์ "ถุงถั่วเขียวรั่ว" เจ้าหน้าที่ก็จอดรถและลงไปเก็บเมล็ดถั่วเขียวจนหมด เพราะกลัวชาวบ้านจะได้เมล็ดพันธุ์ไม่ครบ เป็นต้น
เจ้าหน้าที่เกษตร ส่วนใหญ่มักจะปรับตัวเข้าหา/ปรับตัวเข้ากับเกษตรกรได้ง่าย เป็นที่รู้จักกันทั้งตำบล เป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน และถ้าไปขอความช่วยเหลือก็มักจะได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเกือบจะทุกครั้ง ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า "เกษตรตำบล เป็นขวัญใจของชาวบ้าน" ก็ได้ โดยเฉพาะ เคหกิจเกษตรที่ถือเสมือนว่า เป็นเจ้าหน้าที่คนแรกก็ว่าได้ ที่เข้าบ้านเกษตรกรได้ถึงในครัว ไปสอนให้แม่บ้านเกษตรกรได้รู้จักบ้านของตนเอง หารายได้เสริมเพื่อช่วยเหลือพ่อบ้าน และสอนให้แม่บ้านได้รู้จักงานครัว จนเกิดผลงานของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจำนวนมากมายและเป็นที่ยอมรับของสังคม
นอกจากนี้ เกษตรตำบล ยังปรับเปลี่ยนวิธีการทำอาชีพการเกษตรของพ่อบ้าน โดยหาเทคนิควิธีการเพื่อให้เกษตรกรยอมทดลองใช้เทคโนโลยี เช่น เรื่องนาหว่านน้ำตม เรื่องลดต้นทุนการผลิตพืช และอื่น ๆ จนเกษตรกรเกิดการยอมรับว่า เกษตรตำบล เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง และเป็นลูกหลานของคนตำบลนั้น ผลงานที่เจ้าหน้าที่ได้สร้างขึ้นไว้ในสมัยก่อนนั้นมีจำนวนมากมาย เป็นความภาคภูมิใจที่ได้รำลึกถึงและนำมาเล่าสู่กันฟัง
ปัจจุบันถ้าย้อนสู่ความสำเร็จของงานที่เจ้าหน้าที่ได้ทำไว้ แล้วนำมาพัฒนาต่อยอด ก็จะเป็นบทเรียนในงานส่งเสริมการเกษตร เป็นบทเรียนแห่งความสำเร็จที่มีต่อเกษตรกร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ยุวชนรุ่นหลังกำลังห่างหายไปจากความคิดกับความจำเป็นที่ต้องลงไปรู้จักกับครอบครัวเกษตรกร การเรียนรู้บทเรียนในการทำงานกับรุ่นพี่ที่ทำงานกับเกษตรกรแล้วได้ผล และความเอาใจใส่ต่อเกษตรกรอย่างเอื้ออาทร ฉะนั้น ถ้าสภาพแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำงานส่งเสริมการเกษตรติดยึดกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือ และจ่ายเงินผ่านระบบเอทีเอ็ม การทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ใส่ใจลงไปปฏิบัติ ก็ย่อมจะเบาบางลง เกษตรกรก็เริ่มลดลง และหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะเป็นเพียงตำนานของเกษตรตำบล...ที่เคยเป็นขวัญใจของเกษตรกร และความสุขที่มีระหว่างเจ้าหน้าที่กับเกษตรกรก็จะมีเฉพาะบางคนที่ยังลงไปคลุกคลีกับอาชีพของเกษตรกรเท่านั้นเอง.
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
ดอกศรีตรังค่ะ
ความทรงจำดี ๆ นำมาเป็นตัวอย่างของการทำงานให้กับรุ่นน้องได้ค่ะ อยู่ที่พี่ ๆ จะมีวิธีการสอนน้องอย่างไร? ให้รักอาชีพของตนเองค่ะ