อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆค่ะ


เพียง37นาที เปลี่ยนความคิดท่านตลอดกาล

เรื่องราวที่ให้ทุกท่านไดอ่านนี้ช่างงดงาม ต้องอ่านให้จบนะค่ะ

 

ขอให้ใช้แค่37วินาที เพื่อนคุณจะได้อ่านเรื่องนี้ แล้วความคิดของคุณจะเปลี่ยนไปชั่วกาล

 ชายป่วยหนัก2คน นอนอยู่ที่โรงพยาบาลในห้องเดียวกัน

-          ชายคนแรกได้รับอนุญาตให้ลุกนั่งได้วันละ1ชม.ในช่วงบ่าย เพื่อระบายของเหลวในปอด เตียงของเค้าอยู่ริมหน้าต่างซึ่งมีเพียงบานเดียวในห้องนั้น

-          ชายอีกคนหนึ่ง  หมอให้นอนราบตลอดเวลาอยู่บนเตียง

-          ชาย2คน ที่ร่วมห้องกัน ก็ได้คุยกันถึงเรื่องราวชีวิตของตน พวกเขา เล่าให้กันฟังถึงเรื่องภรรยา เรื่องครอบครัว เรื่องบ้าน เรื่องงาน เรื่องสมัยถูกเกณฑ์ทหาร เรื่องที่ๆไปเที่ยวที่ต่างๆในวันพักร้อน

-          ทุกวันในช่วงบ่าย ชายที่นอนริมหน้าต่าง จะบรรยายให้เพื่อนร่วมห้องฟังว่า มีอะไรเกิดขึ้นภายนอกบ้าง

-          ชายคนที่ต้องนอนราบอยู่ ก็รู้สึกดีขึ้น จากเวลาแค่1ชม. ที่เพื่อนคนที่นอนริมหน้าต่างบรรยายให้ฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มันทำให้เค้ารู้สึกเหมือนว่า เขาได้ดำเนินชีวิตตามปกติ โลกของเขาดูกว้างขวางขึ้น และมีชีวิตชีวาขึ้น จากกิจกรรมหลากสีสันของชีวิตที่ดำเนินไปในโลกภายนอก

-          ชายที่ได้รับโอกาสให้ลุกนั่ง บรรยายให้ชายที่ต้องนอนราบตลอดเวลาเห็นภาพว่า หน้าต่างที่มองออกไป เห็นทะเลสาบที่สวยงาม ฝูงเป็ด และหงส์ลอยล่องอยู่บนน้ำ ในขณะที่เด็กๆแล่นเรือใบจำลอง คู่รักวัยเยาว์เดินจูงมือกัน มีดอกไม้สีสันสวยงามเบ่งบานอยู่รอบๆ และเห็นตึกรามทันสมัยของตัวเมืองอยาไกลๆ

-          ในขณะที่ชายที่นอนริมหน้าต่างบรรยายให้เพื่อนฟังถึงรายละเอียดต่างๆด้านนอก ชายที่นอนราบอยู่ก็หลับตาลงจินตนาการให้เห็นภาพตามไป

-          ยามบ่ายของวันที่อบอุ่นวันหนึ่ง ชายที่นอนอยู่ริมหน้าต่างได้เล่าว่า มีขบวนพาเหรดขบวนหนึ่งกำลังเดินผ่านไป แม้ว่าชายอีกคนไม่ได้ยินเสียงของวงดนตรีนั้นเลย แต่เสมือนเขาสามารถได้รับฟังและแลเห็นได้จากคำบรรยายที่พรรณนาได้อย่างละเอียดลออของเพื่อนที่อยุ่ริมหน้าต่าง

 

วันเวลา เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน ผ่านไปเช่นนั้น

           

-          เช้าวันหนึ่ง เมื่อจะเข้าไปดูแลคนไข้ พยาบาลเวรเช้าได้พบร่างที่สงบนิ่งไร้ชีวิตของชายที่นอนริมหน้าต่าง เขาได้จากไปอย่างสงบขณะนอนหลับ เธอเศร้าใจมาก และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายฌาปนกิจมารับศพของเขาไป

-          เมื่อการจัดการศพผ่านไปเรียบร้อย ชายที่เป็นเพื่อนร่วมห้องได้แต่เอยปาก ขอย้ายเตียงไปนอนที่ริมหน้าต่างแทนเพื่อนผู้จากไปของเขา พยาบาลรู้สึกดีที่ได้มีการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ และเมื่อจัดที่จัดทางให้คนไข้เรียบร้อย เธอก็ออกไปจากห้อง ทิ้งให้เขานอนที่เตียงใหม่คนเดียว

-          ชายผู้ซึ่งต้องนอนราบบนเตียงเป็นเวลานาน ได้พยายามยันร่างกายของเขาขึ้นด้วยข้อศอก แม้มันจะเจ็บปวดและยากลำบาก ด้วยความกระหายที่จะมองเห็นโลกภายนอกด้วยตาของตนเอง

-          และเมื่อเขายันกายขึ้นมองผ่านหน้าต่างไปได้

เขากลับเห็นเพียงแค่ผนังตึกว่างๆ

-          ด้วยความข้องใจ เขาได้ถามพยาบาลผู้ดูแลเกี่ยวกับเพื่อนร่วมห้องผู้เพิ่งจากไป ผู้ซึ่งได้พรรณนาถึงความงามของโลกภายนอกที่อยู่นอกหน้าต่างนั้นให้เขาฟัง

-          นางพยาบาลเล่าว่า ชายผู้เพิ่งจากไปนั้น ที่แท้เป็นคนตาบอด  ไม่สามารถแม้แต่จะมองเห็นว่ามีผนังว่างเปล่านอกหน้าต่างบานนี้ เธอบอกว่า ที่เขาเล่าให้คุณฟังถึงโลกภายนอกที่สวยงามนอกหน้าต่าง อาจเพราะแค่อยากให้กำลังใจคุณ

 

เรื่องนี้บอกเราว่า

            ยังมีเรื่องราวอีกมากมายในโลก ที่เราสามารถทำให้คนอื่นมีความสุข ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม  การแบ่งปันเรื่องทุกข์ใจให้คนอื่นรับรู้ อย่างมากก็ลดความทุกข์ของเราไปครึ่งหนึ่ง

แต่ถ้าแบ่งปันความสุขที่เรามีให้คนอื่น เราก็สุข..เขาก็สุข ความสุขก็จะเป็น2เท่า

 

"ถ้าอยากรู้สึกว่ารวย จงอย่านับแต่เงินและทรัพย์สินที่มี จงนับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข ที่เงินไม่สามารถซื้อหาได้ เข้าไปรวมด้วย"

 

เป็นบทความจากเมลล์ฟอเวิร์ดค่ะ ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกซึ้งมากๆ จึงนำมาให้เพื่อนชาวgotoknowได้อ่านด้วย  ไม่คิดว่าเรื่องจะหักมุมได้ขนาดนี้ ทำให้ได้แง่คิดอะไรหลายๆอย่าง ทำให้คิดได้ว่าเพียงแค่เราสร้างความสุขให้กับคนอื่น เราก้ส่งใจด้วย หากเพื่อนมนุษย์ทุกคนมีจิตใจเช่นนี้ โลกคงจะสงบสุขนะคะ

อยากฝากให้ทุกคนที่อ่านเป้นเช่นผู้ป่วยในเรื่องที่ได้เสียชีวิตไปพร้อมกับความสุขใจค่ะ

หมายเลขบันทึก: 248290เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2009 00:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 03:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

อ่า อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆด้วยนะ

แบ่งปันความสุขได้จริงๆด้วย ^^

อ่านแล้วก็อย่าลืม....กลับไปนับดูนะคะ

ว่าสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขในโลกใบนี้มีอะไรบ้างที่คุณไม่ได้ใช้เงินทองแลกมันมา

เราก็จะกลับไปดูบ้างเหมือนกันค่ะ

รู้สึกดีครับ ได้แง่คิดดี

คุ้นๆนะครับ...

แต่ก็ได้รับรับความสุขจิงๆ

ไม่เหมือนหน้าเจ้าของ blog เลย

ดูแล้วขนลุก.....ล้อเล่นน้า

น่ารักซะเหมือนกบเลย

เกิน 37 วิอะ

หุหุ

แบบว่าเศร้าอะ

เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากๆ

และมีข้อคิดดีๆ

ขี้เกียจอ่นอะ วันหลังมาเล่าให้ฟังหน่อยดิ

อืม

เหมือนคอมเมนข้างบนล่ะกัน

อิอิ

อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ แอบเศร้าอ่ะ วันหลังหามาให้อ่านอีกน้า...

ไม่ทันอ่าน เเต่โดนเพื่อนบังคับให้มาเม้น ห้าๆๆๆ

อ่านแล้วรู้สึกดีนะ

หามาอีกนะจ๊ะ

แอบเศร้าน่ะ แต่มันก็เราให้ชีวิตเรามีคุณค่ามากขึ้นเยอะเลย....สู้ต่อไปเพื่อวันข้างหน้า

อ่านแล้วรู้สึกดีจัง

ใจหวิวๆ เศร้าๆ

จะพยายามทำให้คนอื่นมีความสุข

คนอื่นสุขเราก็สุขด้วย

อ่อก็รู้สึกดีนะ

เอามาจากไหนอะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท