BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

สรุป : ชาติหน้า ผีสางเทวดา และผลกรรมดีชั่ว


สรุป : ชาติหน้า ผีสางเทวดา และผลกรรมดีชั่ว

นับว่ายังคงมีคนสงสัยอยู่ตราบจนปัจจุบัน จากเรื่องราวในปายาสิราชัญญสูตรที่ผู้เขียนประยุกต์นำมาเล่าตามลำดับ (คลิกที่นี้) แม้จะทำให้ผู้อ่านมีแง่คิดเพิ่มขึ้น แต่ผู้เขียนก็ยังคงเชื่อว่า พวกเราก็ยังสงสัยอยู่เหมือนเดิม ซึ่งประเด็นนี้ ถ้าเรามองว่าเป็นปัญหาก็คือปัญหา แต่ถ้าเรามองว่าไม่เป็นปัญหาก็ไม่เป็นปัญหา

ขงจื้อ ปรัชญาเมธีจีนโบราณ ก็เคยถูกถาม ซึ่งเขาก็ได้ตอบเบี่ยงเบนประเด็น แต่เป็นข้อคิดว่า เรื่องของมนุษย์โลกก็ยุ่งยากเกินแล้ว ไฉนต้องไปยุ่งกับเรื่องของเทวดาสวรรค์อีกเล่า... อะไรทำนองนี้

 เมื่อว่าตามหลักศาสนาทั่วไป จะมีคำสอนเรื่องทำนองนี้ เพียงแต่รายละเอียดแตกต่างกันไป เช่น ชาติหน้า บางศาสนาอาจถือว่ามีเพียงครั้งเดียวเป็นครั้งสุดท้าย กล่าวคือ ถ้าไม่ตกนรกอยู่กับซาตานแล้วก็จะไปอยู่ในอาณาจักรพระเจ้ารวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ส่วนพระพุทธศาสนามีคำสอนเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ชาติหน้าจึงมีสืบต่อไปสูงๆ ต่ำๆ ตามแต่ผลกรรมจะพาไป เป็นต้น

ผี สางเทวดาก็เหมือนกัน แต่ละศาสนาก็ให้ความเห็นแตกต่างกันไป เช่น ความเชื่อจีนโบราณก็มีเง็กเซียนฮ่องเต้ปกครองสวรรค์และโลกมนุษย์ ทั้งมีสัตว์ร้ายที่บำเพ็ญบารมีจนมีอิทธิฤทธิ์กลายเป็นปีศาจ ขณะที่ศาสนาโซโลเอสเตอร์ของชาวเปอร์เชียโบราณก็มีเทพเจ้าสูงสุดสององค์ ได้แก่ เทพเจ้าแห่งความดี และเทพเจ้าแห่งความชั่ว มนุษย์โลกจะถูกเทพเจ้าทั้งสองนี้บ่งการณ์หรือครอบงำตามแต่โอกาส ส่วนพุทธศาสนาเชื่อว่าผีสางเทวดานั้น ดีบ้างชั่วบ้าง ขึ้นอยู่กับกรรมเหมือนกัน มิได้สูงหรือด้อยกว่ามนุษย์อะไรนัก และยกย่องว่าความเป็นมนุษย์มีคุณค่าสูงในการบำเพ็ญบารมีกว่าผีสางเทวดาทั้งหลาย เป็นต้น

ส่วนเรื่องผลกรรมดีชั่วนั้น แต่ละศาสนาก็ต่างกัน โดยศาสนาฝ่ายเทววิทยาที่เชื่อเรื่องพระเจ้าสร้างโลกบอกว่าการทำดีก็คือการทำ ตามโองการของพระเจ้า ส่วนการทำชั่วก็คือการละเมิดโองการของพระเจ้า ส่วนพุทธศาสนาจัดเป็นฝ่ายอเทวนิยมซึ่งไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าสร้างโลกบอกว่า สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย ความบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน คนหนึ่งพึงให้อีกคนหนึ่งบริสุทธิ์นั้นหามิได้เลย นั่นคือ สอนให้เชื่อตัวเอง กระทำสิ่งต่างๆ โดยตัวเองเป็นสำคัญ เป็นต้น

และสุดท้าย มุมมองทางปรัชญาบอกว่า ความเชื่อความเห็นทำนองนี้ จะจริงหรือไม่จริงนั้น มิใช่เรื่องสำคัญ ความสำคัญขึ้นอยู่ที่ว่า หลักความเชื่อความเห็นนั้นๆ เพียงพอต่อแนวทางในการดำเนินชีวิตหรือไม่ ? และเป็นไปเพื่อความสุขสงบของปวงประชาหรือไม่ ? ถ้าว่าสนองตอบคำถามนี้ได้ดีก็ถือว่าระบบความเห็นความเชื่อนั้นๆ ก็ยังคงมีความสำคัญและคนก็ยังคงยึดถือต่อไป แต่เมื่อไหร่ที่ไม่อาจสนองตอบได้ ระบบความเชื่อความเห็นนั้นๆ ก็จะค่อยๆ เสื่อมคลายและสลายไปเองตามธรรมดา

แปลกแต่จริง แม้โลกจะเป็นมาถึงปัจจุบัน แต่เรื่องทำนองนี้ยังคงเหมือนเดิม หนังผีก็ยังคงมีการสร้างขึ้นมาเรื่อยๆ ทั่วโลก คนทำดีทำบุญลบล้างหรือเพื่อลดทอนบาปก็ยังคงมีอยู่ นั่นคือหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ความเชื่อความเห็นทำนองนี้ยังคงสนองตอบพวกเราได้อยู่แม้ปัจจุบัน...

หมายเลขบันทึก: 248287เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2009 23:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 09:48 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

นมัสการ

ขออนุญาต ขอโอกาส

ผมใช้ การตอบ เรื่อง นรก สวรรค์

(ก) จริงไม่จริง ไม่สำคัญ ขอให้เป็นเรื่องกุศล ก็เป็นเรื่องดี

(ข) ใช้ คำอธิบาย เรื่อง Schroedinger's cat แมวของชโรดิงเจอร์ เพื่อ ตอบ เหล่านักถามอินทรี คิดมาก แนว เมาวิทยาศาสตร์

(ค) สอนเรื่อง วงจรเรียนรู้ Learning by doing ทำเองเจอเอง

(ง) ไม่พูด ไม่สอน เอาเวลาไปสอนคนที่สนใจ ศรัทธาดีกว่า

ความเชื่อเรื่องชาติหน้า และผีสางเทวดา ของศาสนาเชน ต่างจากศาสนาพุทธ หรือเปล่าครับ?

P वीर

 

เท่าที่พอจำได้ ศาสนาเชนเชื่อว่าทุกสิ่งมีชีวิตทั้งนั้น โดยที่สุดแม้กระทั้งก้อนกรวดก้อนดินก็มีชีวิต ส่วนศาสนาพุทธแบ่งเป็นชนิดที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต...

จากประเด็นนี้ อาจสะท้อนไปถึงความเชื่อที่ต่างกันในเรื่องชาติหน้า และผีสางเทวดา แต่ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้...

เจริญพร

Pवीर

 

อีกอย่างหนึ่ง ประเด็นที่ถามอยู่ในแง่ของศาสนา แต่หลวงพี่เรียนปรัชญา จึงไม่ค่อยรู้เรื่องทำนองนี้ ยกเว้นของพุทธศาสนาอาจตอบได้เพราะบวชมานาน (.........)

เจริญพร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท