พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญโญ ได้กล่าวเรื่อง "อกุศลกรรมบถ ๑๐" เอาไว้ในหนังสือชื่อ "กรรมใดใครก่อ"
อัน "อกุศลกรรมบถ ๑๐" ประกอบด้วย กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓
ในบันทึกนี้ ผมให้ความสนใจไปที่ วจีกรรม ข้อ ๕ คือ พูดส่อเสียด (ปิสุณาวาจา) ซึ่งเป็นพฤติกรรมของมนุษย์ที่พบได้ในสถานที่ทำงานทุก ๆ แห่ง โดยบางครั้งมนุษย์หลายคนได้หลงลืมไปว่า คำพูดลักษณะนี้เป็นการทำร้ายผู้อื่น ถือเป็น บาปกรรมที่ต้องรับผล
ดัง พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญโญ ได้นำเสนอไว้ในหน้า ๙๖ - ๙๗ ดังนี้
"...
พูดส่อเสียด หรือ ปิสุณาวาจา หมายถึง เจตนาพูดส่อเสียดเหน็บแหนม กระทบกระเทือบ ถากถาง เย้ยหยันให้ผู้อื่นได้รับความเสียใจ คับแค้นใจ ขุ่นเคือง โกรธ อับอาย มีความทุกข์
การพูดจาส่อเสียดมีอยู่ทั่วไปในทุกองค์กร และมีมากในหมู่สตรี คนพูดทำไปด้วยความเขลา หารู้ไม่ว่าการกระทำของตนเป็นการทำร้ายจิตใจของผู้อื่น และวิบากกรรมที่ได้ทำไปจะตามสนองอย่างแน่นอน
คนบางคนพูดส่อเสียดผู้อื่นจนเคยตัว กลายเป็นนิสัยไปและหลงภูมิใจว่า ตนมีคารมคมคายในการประชดประชันถากถางผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเจ็บใจ ยิ่งได้รับแรงเชียร์จากเพื่อนรอบข้างก็ยิ่งได้ใจใหญ่ ใช้วาจาสร้างความบาดหมางชิงชังให้กับผู้ที่ถูกกระทบ
คำพูดส่อเสียดที่ทิ่มตำผู้อื่นทำให้ผู้ถูกส่อเสียดบางคนถึงกับเสียคนเสียอนาคตไป เช่นบางคนมีปมด้อยด้านรูปร่างหรือด้านครอบครัว เมื่อถูกเพื่อนส่อเสียดล้อเลียนอยู่เป็นประจำยิ่งขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ตอกย้ำปมด้อยให้ฝังแน่นอยู่ในใจ ถึงกับเสียโอกาสเสียอนาคต เสียสุขภาพทั้งกายและจิต
นักเรียนบางคนไม่อยากไปโรงเรียนเพราะไปแล้วถูกเพื่อนล้อ กลายเป็นที่ขบขันของคนอื่น หรือทำให้ได้รับความอับอาย ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตนเองเสียไป บุคลิกภาพเสียไป และการเรียนตกต่ำลง กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่เข้ากับเพื่อน ขวัญและกำลังใจตกต่ำ
บางคนไม่อยากไปทำงานหรือต้องฝืนใจไปทำงาน ก่อนออกจากบ้านก็เครียด เพราะกลัวว่าตนต้องพบกับสายตาที่ดูหมิ่นดูแคลน เยาะเย้ย และจะต้องได้ยินคำพูดที่ส่อเสียด กระทบกระเทือนจากคนบางคน ทำให้มีทุกข์ใจถึงกับเป็นโรคเครียด โรคความดันโลหิต โรคท้องผูก ปวดศีรษะไมเกรน โรคกระเพาะอาหาร หรือโรคอื่น ๆ อันเนื่องมาจากความเครียด บางคนหาทางออกไม่ได้ถึงกับลาออกจากงาน บางคนคิดสั้นถึงฆ่าตัวตาย
ผู้เขียน (พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญโญ) อยากจะขอร้องใครก็ตามที่มีนิสัยพูดส่อเสียดผู้อื่นให้หยุดการกระทำนั้นเสีย เพราะการใช้วาจาเป็นอาวุธทิ่มแทง ทำร้ายผู้อื่นอย่างเหี้ยมโหด ผลของการกระทำดังกล่าว เมื่อตายไปโอกาสจะไปเกิดในอบายภูมิมีสูงมาก หากเป็นเปรตจะมีปากวิปริตเช่นปากเน่า มีหนอนชอนไชอยู่ตลอดเวลา หากได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะถูกผู้อื่นพูดส่อเสียดให้เจ็บช้ำน้ำใจ หาความสุขมิได้
..."
เคยเห็นเคยได้ยินนะครับ คนลักษณะนี้ ...
เคยเห็นพวกผู้นำม็อบการเมืองไหมครับ นั่นแหละรอลงนรกได้เลยครับ ... ผิดวจีกรรมทุกข้อ
คำเตือนจากพระ ... คงทำให้เราเข้าใจวจีกรรมข้อนี้ได้ดีขึ้นนะครับ
บุญรักษา ทุกท่าน
แหล่งอ้างอิง
พระอาจารย์ชาญชัญ อธิปญโญ. กรรมใดใครก่อ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: อมรินทร์, 2550.
สวัสดีตอนเย็น ๆ (ใจ) ค่ะท่านอาจารย์Wasawat Deemarn
สวัสดีครับคุณพี่Wasawat Deemarn
เมื่อเราได้ยินเพื่อนหรือใครที่พูดอย่างนั้นเข้าหูทีไรมันช่างระคายเคืองที่สุดครับ
ย้อนถามตัวเองว่า พูดไปแล้วมันสร้างสรรค์ตรงไหนว๊า?
เปลืองพลังงานมากครับทั้งผู้พูดและคนที่ได้ยิน
เป็นการทำร้ายกันอย่างหนึ่งเหมือนที่พระท่านว่าแหละครับ
ถ้าจะให้เค้ารู้สึกแปลกแยกที่ทำอย่างนั้นผมว่าถ้าเตือนแล้วยังพูดอีก เราลองไม่สนใจที่เค้าพูดดูมั้ย ขัดขืนที่จะคล้อยตามและเสริมคำ สักวันเค้าก็จะรู้ว่าสิ่งที่เคยคิด(หรือไม่คิด) และพูดนั้นเองที่ทำให้ตัวเองโดดเดี่ยวและไร้มิตรที่จริงใจ
หวังไว้น่ะนะครับ :)
สวัสดีตอนค่ำครับ คุณพยาบาล สีตะวัน :)
คนข้างตัว เพื่อนร่วมงาน ล้วนแต่เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นครับ
เหลือแต่ที่ไม่ใช่แบบนี้ให้เราคบสักคนสองคนก็ดีที่สุดแล้ว
พระอาจารย์แอบกระซิบผมว่า "ไม่ตอบโต้ ได้เปรียบทางการเมืองครับ" อิ อิ
ขอบคุณครับ :)
คุณน้อง adayday :) ...
คนดีพร้อมจะโดดเดี่ยว (ในความรู้สึกของคนไม่ดี) คนที่พูดจาแบบนั้น ให้ไม่มีใครจริงใจด้วยแม้แต่คนเดียว ครับ
โดดเดี่ยวผู้น่ารังเกียจ
ขอบคุณครับ :)
การพูดกับคนต้องระวังความรู้สึกของผู้รับฟัง คำพูดที่ไม่น่าฟังก็ไม่ควรพูดใช่ไหมคะ
เวลาโกรธกับใครๆจะเงียบไว้ก่อนค่ะ เพราะถ้าหากพูดในขณะที่โกรธจะทำให้ บางคำพูดแรงไป แต่ อาจารย์คะทำให้คนรักง่ายนิดเดียวแต่ทำให้คนเกลียดนี่ทำยากมากนะคะ
จริงหรือครับ "ทำให้คนรักง่ายกว่าทำให้คนเกลียด" ... ???
ผมว่า เป็นไปได้ทั้งสองทางครับ แล้วแต่ว่าทำหรือไม่ทำดี เหมือนสำนวนไทยที่ว่า "คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ"
:)
จริงค่ะอาจารย์ ถ้าเราไม่คิดร้ายกับใคร มีใจเป็นกลาง การที่เราจะทำอะไรให้คนเกลี่ยดแสดงว่าเราต้องทำสิ่งที่ไม่ดีให้กับคนครนนั้นมากๆ ยากนะคะที่เราจะทำสิ่งที่ไม่ดีให้กับใคร อาจารย์ว่าจริงมั๊ย เพราะทุกคนก็พยายามทำสิ่งดีๆให้กันและกัน จริงๆนะคะ
สวัสดีคะ อาจารย์ Wasawat
"พูดตรงๆ ไม่เจ็บ พูดเหน็บๆ เจ็บถึงใจ"
คนที่ชอบพูดจาเสียดแทงผู้อื่น คงมีพื้นฐานชอบให้คนเจ็บใจ ท้ายสุดเจ็บนั้นคงคืนสนองสักวัน
---^.^---
จริงก็จริงครับ คุณครู ทรายชล :) ... ธรรมข้อ "พูดจาส่อเสียด" เป็นธรรมที่กล่าวขานกันมานานกว่า 2,500 ปี แสดงว่า คนไม่ดีมีคู่กับโลกมานานแล้วครับ ... ถึงปัจจุบัน ... บางคนอาจหลงลืมก็ได้นะครับ
ใช่แล้วครับ น้อง พิมพ์ดีด :) ... หลายคนปฏิบัติตนเช่นนี้มาตลอด ทำให้เกิดความเคยชิน จนลืมไปว่า คนที่ได้รับการกระทำนั้น จะทุกข์ใจเพียงใด ... แต่คนที่เฝ้ารอให้คนที่พูดส่อเสียดทุกข์สิ น่าจะทุกข์กว่า เพราะทุกข์ใจไปด้วยว่า พูดแบบนี้แล้วจะทุกข์ แบบสะใจไหม
สบายดีนะครับ :)...
พูดส่อเสียด หรือ ปิสุณาวาจา หมายถึง เจตนาพูดส่อเสียดเหน็บแหนม กระทบกระเทือบ ถากถาง เย้ยหยันให้ผู้อื่นได้รับความเสียใจ คับแค้นใจ ขุ่นเคือง โกรธ อับอาย มีความทุกข์
การใช้วาจาเป็นอาวุธทิ่มแทง ทำร้ายผู้อื่นอย่างเหี้ยมโหด ผลของการกระทำดังกล่าว เมื่อตายไปโอกาสจะไปเกิดในอบายภูมิมีสูงมาก หากเป็นเปรตจะมีปากวิปริตเช่นปากเน่า มีหนอนชอนไชอยู่ตลอดเวลา หากได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะถูกผู้อื่นพูดส่อเสียดให้เจ็บช้ำน้ำใจ หาความสุขมิได้
ขอบคุณครับ ท่าน ผอ.ศรีกมล :)
คุณ ครูคิม ครับ ... อย่าไปสนใจคนสมองกลวงพวกนี้เลยครับ :) ... ชีวิตเขาคงมีความสุขแค่นั้นล่ะครับ
สู้ สู้ ครับ :)
สวัสดีครับ อาจารย์ วันนี้ได้ยินการพูดจาส่อเสียดออกอากาศทั่วประเทศครับ
ถ...ถ...ถู...ก...ถูกต้องครับ ท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า ... :)
สุดยอดคนตกนรกก็ต้องพวกนี้ล่ะครับ
เป็นเรื่องน่ากลัว ดูเหมือนว่าพยายามหลบ ก็ยังโดนเฉียดเฉี่ยว (ขออนุญาตไม่แสดงตน.. ฮิ ฮิ)
ขอบคุณครับ คุณ a little sheep :)...
ที่ทำงานมีอยู่ผู้ชายแก่ 1 คน ระดับผู้จัดการแล้ว
เขาเหมือนกับข้อความข้างบนมากที่ว่า คิดว่าคำพูดตัวเองนั้นคม
ทั้งวันส่อทั้งวัน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัวเลย
และยิ่งไม่โต้ตอบนะก็เหน็บแนมเด็กอยู่นั้นแหล่ะ
และพอโต้ตอบ ก็รับไม่ได้ โมโหหน้าดำหน้าแดงเลยเชียว
เชื่อไหมว่า ว่าส่อเสียดคนอื่น จนบนหัวแทบจะไม่มีเส้นผมแล้ว
........................................
ขอบคุณมากครับ คุณ JAI DAI ;)
มีเพื่อนในกลุ่มผู้ปกครองที่โรงเรียนลูกค่ะ ชอบพูดจาส่อเสียดกระทบกระทั่ง เวลาเห็นเราใช้ของแพงหรือดีกว่าที่พวกเขาใช้ ก็จะพูดจาเหน็บแนมค่ะ หรือว่าลูกเราเรียนเก่งกว่าลูกเขาก็ยังเหน็บแนมค่ะ ทั้งที่ไม่เคยคุยโอ้อวดลูกตัวเองด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ต้องคอยนับหนึ่งถึงสิบไม่ให้โกรธ แต่ก็ยอมรับนะว่าการที่เรานิ่งมากไป เหมือนพวกเขาได้ใจ แล้วก็ยิ่งกระทำต่อเรามากขึ้น ทำอย่างไรดีคะ เลิกคบไปเลย หรือว่าทนต่อไปอยู่อย่างนี้
คุณแม่ Mom ครับ !
เมื่อคุณแม่เริ่มใจนิ่งแล้ว คุณแม่ต้องมองผ่านสิ่งที่เกิดขึ้นไปให้ได้ ดั่งพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี กล่าวไว้ว่า เราต้องทำตัวเป็น "ตาข่ายดักลม" ที่ลมเพียงแค่ผ่านตัวเราไป แต่เราก็ยังคงอยู่อย่างมั่นคง
และควรอยู่ห่างมากขึ้น เพราะถือว่าเขาเป็นเพียง "คนพาล" คบกันเพียงคนรู้จักมากกว่าคบกันอย่างลึกซึ้งครับ หากไม่คบเลย ก็ถือว่า เราใช้ชีวิตตึงเกินไป เราเลือก "ทางสายกลาง" ดีไหมครับ
ขอให้กำลังใจครับ ;)...
อ่านแล้วได้ประโยชน์ ทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น .....
ยินดีครับ คุณอิง ;)...
สู้ สู้ ครับ
ใน๙อยบ้านมีอยู่คนนึงค่ะ เค้ามีกัน 2 คนแม่ลูก เวลาใครเดินผ่านหน้าบ้านเค้าก็จะคอยค่อนแคะหาเรื่องเอาปมด้อยของคนอื่นมาคอยพูดลอยๆออกไปให้คนอื่นต้องเจ็บใจ เป็นมาเกินกว่าอายุหนูซะอีก พอใครเถียงก็เยอะเย้ยถากถางด่าทอหยาบคายพอเค้าทนไม่ไหวถึงขั้นตบตีก็แจ้งความขึ้นโรงพักอยู่บ่อยครั้ง
บางทีหนูทนไหวก็ถือซะว่าคำมันลอยมาก็ลอยไป แต่บางทีเราก็หยุดใจเราไม่ทันมีเรื่องกับเค้าก็บ่อย แถมยังเอาเราไปว่าเสียๆหายๆให้แม่ค้าในซอยเค้าคอยนินทา พอนานวันเข้าเราไม่ตอบโต้ปล่อยให้ความจริงมันแสดงไปตามจริงพวกแม่ค้าบางคนก็ชื่ชมว่าเราอดทนมีขันติ บ้างก็ไม่เลิกค่อนแคะ แรงๆหนักๆก็มีครั้งนึงยืนกดเอทีเอ็มอยู่ ก็ได้ยินคำลอยมาว่า อีนี่นะมันเป็ฯลูกคนใช้แต่มันลืมตัว
กลับมาบ้านก็เล่าให้แม่ฟังเสียใจนะที่เค้าว่าแต่บอกแม่ว่าไม่เคยเสียใจเลยที่แม่เป็นคนใช้ แล้วก็ไม่เถียงเค้าด้วยเพราะแม่เคยเป็นลูกจ้างบ้านพ่อจริงๆ เลยบอกแม่ว่าช่างหัวมันนะแม่จำไว้ลูกไม่เคยเสียใจที่เกิดเป็นลูกคนใช้พวกนั้นมันพูดความจริง ช่างมันลูกคนใช้ก็ลูกคนใช้เราไม่เคยไปขอข้าวเค้ากินเราทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองโดยชอบ ไม่เคยไปเบียดเบียนใครลูกคนใช้ตอนนี้เรียนจบปริญญาโทแล้วเป็นเจ้าของบริษัทของตัวเองไม่เคยไปขอข้าวคนพวกนั้นเลยแม้แต่เม็ดเดียว
บางทีเดินๆผ่านบ้าน 2 แม่ลูก เค้าก็สอดเสียดว่าอีนี่ ขายยาเสพติดจนร่ำรวยบ้าง ขายตัว บ้างล่ะ จนเราไม่ไหวด่ามันกลับขอโทษนะลูกเธอเรียนจบอะไรฉันเรียนจบอะไรเธอจะมาว่าฉันต้องไปนั่งขายตัว สุดท้ายทนไม่ไหวยกมือท่วมหัว สาธุอะไรที่เธอว่าฉันถ้าฉันไม่ได้เป็นตามคำเธอเลย ขอให้สิ่งเหล่านั้นจงตกเป็นของลูกสาวเธอ
"การให้อภัย" เป็นทานอันสูงสุดและให้ยากที่สุดครับ คุณ lunar ;)...
ในเมื่อเป็นเรื่องเค้าพูดกันโดยไม่มีมูลความจริงอะไรทั้งนั้น ก็ปล่อยวางไว้ เพราะความทุกข์ใจไ่มได้ตกอยู่กับเรา อยู่ที่คนพูดที่ต้องเก็บเรื่องเหล่านี้ไว้เอง
ตกนรกทั้งเป็นของจริงเลยนะครับ
ให้อภัยนะครับ
ขอให้มีคุณ lunar มีความสุขมาก ๆ ครับ ;)...
ขอบคุณครับ ;)...
สวัสดีค่ะ ทุกๆท่าน
อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมาก อยากเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ คนเรียนมาสูงๆบางคนจบขั้นปริญญา ยังชอบพูดจา เสียดสี เหน็บแนม
ทั้งๆที่เราทำดี กับเค้า อยากรู้ ทำไมเค้า ถึงชอบพูดจาเสียดสี ไม่กลัวบาปกรรม หรืออย่างไร
การศึกษาสูง ไม่ได้หมายถึง จิตใจต้องสูงตามไปด้วยนิครับ คุณ คน ตปท.
สู้ สู้ นะครับ ;)...
สวัสดีค่ะหนูมีเรื่องขอระบายได้ไหมค่ะ เครียดมากค่ะตอนนี้ คือมีเพื่อนคนนึงค่ะก่อนหน้านี้สนิทกันมากเลยค่ะแต่อยู่ดีๆเขาก็ไม่พูดกับหนูเพราะเรื่องที่หนูบอกว่ากรรมมีจริงนะทำอะไรก็คิดให้ดีๆแต่เขากลับพูดมาว่ากรรมหน้าตาเป็นยังไงหนูก็ทำเฉยๆไปแต่พอไปทำงานแล้วเจอเขา เขากับพูดกับอีกคนนึงว่าคบคนแบบนี้คบกับหมาดีกว่าและหาว่าหนู ต-แ-ล ค่ะทั้งๆที่หนูดีกะเขาตลอดเขาขายของข้างร้านหนูค่ะหนูก็ให้เขาต่อไฟจากบ้านหนู เขาโดนตำรวจปรับหนูก็ให้พ่อหนูเอาออกให้ แถมสอนเขาทำอาหารขายอีก หนูคิดดีกะเขาตลอด แต่ปัจจุบันเขาชอบเหน็บเราตลอดพูดให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นคนไม่ดี ประชดประชันเราตลอดหนูก็เงียบๆไม่ตอบโต้แต่เขาก็ไม่เลิกทั้งๆที่ไฟร้านเขาก็ต่อจากบ้านเราอยู่ หนูควรทำยังไงดีค่ะเราจริงใจตลอดแต่เขาทำแบบนี้ตอนนี้หนูทั้งเจ็บและท้อไปหมดเลยค่ะไม่อยากบอกพ่อแม่หนูเพราะท่านอารมณ์ร้อนค่ะ หนูควรทำไงดีค่ะ ขอบคุณนะค่ะ
ปล่อยวางครับ ...
ไม่คิด ไม่แคร์ ไม่สนใจ
ใครทำสิ่งย่อมได้สิ่งนั้น
หากสิ่งที่เราทำนั้น ดีทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมแล้ว
ก็ไม่ควรสนใจอีกต่อไป
เพราะเขาไม่ใช่กัลยาณมิตรของเรา
เขามีกรรมของเขาที่ไม่เห็นความดีงาม
ปล่อยวาง ทำใจให้สบายครับ ;)...
สวัสดีค่ะคือหนูมีเรื่องปรึกษาหน่อยน่ะค่ะ หนูทำงานโรงงานค่ะในแผนกสามรถเปิดเพลงได้เพื่อนร่วมงานหลายคนนำเพลงของตัวเองไปเปิดแต่ว่าเปิดเสียงดัง เพลงที่ตะโกนร้องบ้างมีแต่เสียงดนตรีเหมือนเป็นงานสังสันแต่นั่นเป็นที่ทำงานทุกคนรู้สึกรำคาญแต่กลัวโดนด่ากลับมาเลยไม่มีใครพูดอะไร แต่หนูทนไม่ได้บอกตรงๆก็เหมือนยิ่งยุหนูเลยโพสต์ข้อความลงเฟสว่า. รู้สึกรำคาญ ไม่รู้จักเกรงใจคนอื่รเค้า เอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักรึเปล่าก็ไม่รู้ หนูโพสต์ค่ะ แต่เขาบอกว่าอยู่เฉยๆก็ไม่มีใครเค้าว่าหรอก เค้าบอกว่าจะเอายังไงเจอกันตัวต่อตัวเลยไหมเหมือนหาเรื่องค่ะทั้งๆที่มันเป็นเรื่องเล็ก หนูแค่ระบายให้รู้ แต่คงเป็นเพราะหนูอายุน้อยกว่ามันทำให้เค้าเสียหน้าที่เด็กอย่างหนูจะมาสอนเค้าได้ยังไง จากที่เค้าเคยพูดดีแต่แค่เรื่องนี้ทำให้เค้าเปลี่ยนมาก ลับหลังก็นินทาหนูพูดให้คนอื่นเข้าใจหนูผิด เค้ายิ่งเปิดเพลงประชด หนูก็เลยโพสต์ จะประชดก็ทำให้ได้ตลอดนะคะ นึกถึงผลที่ตามมาด้วยล่ะ คงมีหน้ากากหลายอันใช่ไหมคะ หนูพึ่งเข้าใจ. หนูรู้ตัใค่ะว่าหนูพูดเสียดแต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่รู้ตัวสักทีว่าสร้างความรำคาญให้คนอื่น หนูควรทำยังไงให้เรื่องมันจบคะ หนูก็ลบโพสต์ไปแล้ว หนูจริงใจทุกอย่างแต่เค้าไม่เคยเข้าใจ ซึ่งตอนแรกคนที่หนูพูดถึงไม่ใช่เค้าหนูก็บอกไปหลายรอบแล้วแต่ตอนนี้หนูเริ่มไม่แน่ใจในตัวเค้าแล้ว ทำไมถึงร้อนตัวขนทดนี้ในเมื่อไม่ใช่ตัวเอง หรือว่าเค้าก็เป็นอีกคนที่ว่าหนูลับหลังอยู่ล่ะคะ. หนูทำถูกแล้วหรือยังคะหนูสับสนมาก. เค้าบอกค่ะไม่ชอบก็ไม่ต้องฟัง อะไรกันอยู่แผนกเดียวกันก็ต้องได้ยินอยู่แล้ว. มีคนนึงที่กล้าพูดตรงๆค่ะแต่โดนว่ากลับมา. ไม่พอใตก็ลาออกไปเลย. แบบนี้ค่ะ
สิ่งที่น้องสุวดีต้องทำ คือ "ปล่อยวาง" ครับ
ไม่ตอบโต้สิ่งใด ๆ ทั้งนั้น ทั้งมโนกรรม วจีกรรม หรือ กายกรรม
เราไม่สามารถเอาชนะความเกลียดได้ด้วยความเกลียดตอบ
จงเมตตาและให้อภัยแก่บุคคลที่เราไม่ชอบมาก ๆ
เอาอโหสิกรรมให้กับเขา ไม่จองเวรซึ่งกันและกันอีก
ใครทำกรรมใด ย่อมได้ผลของกรรมนั้น
เป็นสัจธรรมที่เป็นจริงเสมอ
เชื่อมั่นในความดีงามครับ ;)...
สวัสดีค่ะ เจอปัญหาคนชอบพูดจาส่อเสียดเหมือนกัน พวกเค้าชอบพูดจาส่อเสียดแทบทุกวันไม่ยอมเลิก เราก็เงียบบ้างตอบโต้บ้าง(ยอมรับค่ะเพราะบางทีก็ทนไม่ไหว) พอทนไม่ไหวก็ทะเลาะกัน ด่ากันไปมา จนตอนนี้มีศัตรูเพียบเลยค่ะ(เพราะทนไม่ไหว) พวกเค้ารวมหัวกันคอยว่าส่อเสียด หัวเราะชอบใจกันใหญ่พวกเค้าไม่ยอมรับว่าเค้าพูดจาส่อเสียด หาว่าเราไปหาเรื่องเค้าเอง พวกเค้าไม่ได้พูดอะไร แล้วก็เอาเราไปนินทาให้คนอื่นฟัง หาว่าเราพูดอะไรก็ไม่ได้หาว่าด่าไปหมดและก็บอกคนอื่นว่าเราเป็นคนไปด่าพวกเค้าก่อน จนเรากลายเป็นคนไม่ดี ทะเลาะกับคนอื่นไปทั่ว ซึ่งจิงๆแล้วพวกเค้าต่างหากที่ชอบมาแขวะ ถากถางเราต่างๆนานา จนเราทนไม่ไหวตอบโต้กลับไป แต่กลับเป็นเราเองที่กลายเป็นคนไปหาเรื่องพวกเค้าก่อน(ซึ่งงงมาก) จนตอนนี้เราเองเลยกลายเป็นคนที่ไม่ดีในสายตาคนอื่น ที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าเป็นมายังไง ไม่รู้จะทำไงดีเหมือนกันค่ะ อ่านหนังสือเกี่ยวกับการปล่อยวางเรื่องแบบนี้มาก็เยอะ แต่ก็บังคับอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ บางทีก็เบื่อ อยากให้พวกเค้าเลิกทำแบบนี้สักที เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบอยู่เงียบๆ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร เป็นคนไม่ค่อยพูดกับใครถ้าไม่สนิท และก็ไม่ได้อยากมีเรื่องทะเลาะกับใครด้วย แต่เจอแบบนี้ทุกๆวัน มันก็ไม่ไหวจิงๆค่ะ พยายามมาหลายครั้งนะค่ะ ว่าจะไม่ตอบโต้ แต่มันก็ยังทำไม่ได้ บางทีก็คิดนะค่ะว่า อยากให้พวกที่ทำแบบนี้ได้รับกรรมที่ตัวเองทำบ้าง ถ้าจะรอให้พวกเค้าเลิกทำพฤติกรรมแบบนี้เอง สงสัยเราเองที่จะอึดอัดใจตายไปก่อน เพราะต้องเจอกับพวกเค้าทุกวัน
คุณ Pocky ...
สิงที่เรากำลังเป็นทุกข์ คือ "เราใส่ใจในคำพูดของคนอื่น"
เราไม่สามารถไปบังคับใครให้เป็นอย่างที่เราคิดเอาไว้ได้
สิ่งที่เราควรจะเลือกปล่อยวาง ละความสนใจ
กลับมาสนใจการทำความดีงามของตัวเองเราเองมากกว่า
ว่า ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตได้ดีหรือยัง ประเสริฐหรือยัง
มีเมตตา หรือ รู้จักการให้ผู้อื่นดีหรือยัง
ต้องใช้ "เมตตา" ให้ได้มากที่สุดครับ
แต่มิใช่หมายความว่า เราจะโกรธไม่ได้
เราโกรธได้ แต่สติต้องรู้เท่าทันโดยเร็ว
และระงับความโกรธนั้นให้หายไป
กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขของตัวเอง
ใครทำสิ่งใด ย่อมได้รับสิ่งนั้น
ไม่มีเหตุใดที่เราจะเลือกไปโต้ตอบเช่นนั้นอีกครับ
คิดบวก คิดให้สบายใจ
ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าในการเกิดมาชาติหนึ่ง
ขออนุโมทนาครับ ;)...
สวัสดีครับพี่ wasawat ผมอยากรู้ว่าทำไมมนุษย์อย่างเราต้องกล่าวมุสาวาทา ปิสุณาวาจา ผรุสวาจา และ สัมผัปปลาปะ หล่ะครับ
หากตอบตามแนวทางจิตวิทยา คือ มันเป็นกลไกการปกป้องตัวเองที่ขาดความรู้สึกผิด-ชอบ ควร-ไม่ควร โดยไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อนหรือไม่ เอาตัวเองรอดเป็นพอ ครับ
สิ่งเหล่านี้ควรถูกฝึกฝนมาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเด็กจะซึมซัมสิ่งดี ๆ ได้ง่าย กว่าการเป็นผู้ใหญ่ที่มีอะไรมาพอกจนเปลี่ยนแปลงยาก
การฝึกพูดดี ๆ ก็ไม่ต่างกัน
ขอตอบเท่าที่พอมีความเข้าใจครับ ;)...
การพูดส่อเสียด (ปิสุณาวาจา) แปลว่า "การพูดให้คนทะเลาะกัน" ครับ ไม่ใช่ "เหน็บแหนม กระทบกระเทือบ ถากถาง เย้ยหยันให้ผู้อื่นได้รับความเสียใจ คับแค้นใจ ขุ่นเคือง โกรธ อับอาย มีความทุกข์" ครับ
กรุณาแก้ไขให้ถูก มิฉะนั้นจะเป็น "สัทธรรมปฏิรูป" หรือการบิดเบือนพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ผิดเพี้ยนไป มีวิบากชั่วและก่อผลร้ายเหลือคณา
ต้องถามท่านชาญชัย ผู้เขียนบทความครับผม ;)...
และนี่คือ ความเข้าใจผิดของสังคมไทยมานานแล้วครับ
ผมโดนทุกวันอยู่ต่างประเทศคับเขามากันเยอะบ้านเขา ครึ่งหมู่บ้านได้ผมอีกหมู่บ้าน1คนเดียวทํางานร่วมกัน เหมือนโดนรุมเสียดสีถ้าคน1พูดอีกหลายคนจะพูดตามกันเลย. ก็เราคนเดียวแรกๆก็เครียดพอได้อ่านแล้วใช้ ความนิ่งสหยบความเคลื่อนไหว สักวันกรรมคงจะตามเองผมเชื่อคับเวรกรรมมีจริง มีอํานาจบังหน้าแต่ไม่อาจพ้นกรรมที่ก่อไว้ผมเชื่อเวรกรรมมีจริง
ขออนุโมทนาครับ คุณสมภพ ;)...
ทุกวันนี้หนูต้องทนกับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่แย่มาก คนในแผนกพูดแขวะ ส่อเสียดทุกวัน ทั้งๆที่เราเองไม่เคยตอบโต้ใดๆเลย หนูก็พยายามอดทน วางเฉย แต่ยิ่งเฉยเขายิ่งมันส์ปาก คงคืดว่าเราไม่กล้าและกลัว ...เพื่อนในที่ทำงานคนอื่นๆ ก็โดนคนๆนี้เสี้ยมให้เขามาเกลียดเราสารพัด จนแทบจะไม่มีคนคบค้สมาคมด้วยแล้ว... หนูควรจะทำตัวและมีวิธีคิดยังไงดีคะ ให้เราทุกข์จากเรื่องนี้น้อยลง... กลับมาบ้านมีความสุข แต่ถึงเวลาไปทำงานกลับมีแต่ความเครียดความกังวลว่าวันนี้เราจะเจอมันว่าอะไรอีก...เครียดมากๆค่ะ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
คำแนะนำสั้น ๆ ครับ ...
นั่นเป็น "ปัญหาของเขา" ไม่ใช่ "ปัญหาของเรา"
ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเราไปรับเรื่องของเขา
ทางพระท่านว่า เขาเอามีดแทงเราครั้งเดียว
แต่เราเองต่างหากที่เอามีดแทงตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน
ความสุข ความทุกข์ อยู่ที่ "วิธีคิด" นะครับ
ลองดูนะครับ ขอให้กำลังใจ ;)...
สาธุ สาธุ
ขอบคุณครับ คุณหลิน ;)...