10. ฐานข้อมูลนั้นสำคัญไฉน (1)
ไม่มีข้อมูล ก็เหมือนคนตาบอด เหมือนคนเดินอยู่ในความมืด คำพูดนี้เป็นของ นพ.โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัยในครั้งที่เปิดการประชุมปฏิบัติการพัฒนาฐานข้อมูลอนามัยแม่และเด็ก
ในการประชุมครั้งนั้น คุณพูนชัย ไตรภูธรหรือคุณจ๋อง เชื้อเชิญให้ทีมที่รับผิดชอบการจัดเก็บฐานข้อมูลอนามัยแม่และเด็กไปดูงานที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เพราะที่นั่นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ การที่คนมาดูงานเป็นการพัฒนาตัวเองไปด้วย ดูได้ที่ http://gotoknow.org/blog/sudarat12/237860 ค่ะ
ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 52 ทางกรมอนามัยจึงได้จัดทีมไปดูงานตามคำเชิญ ผู้เขียนทำงานในส่วนภูมิภาคแต่ได้พ่วงไปด้วย เหตุเพราะกำลังทำฐานข้อมูลด้านอนามัยแม่และเด็กด้วยเช่นกัน งานนี้คุณคุณพูนชัย ไตรภูธร และคุณปกรณ์ ลิมประนาม เป็นผู้ที่มาช่วยนำในการ show & share
วิสัยทัศน์ การนำระบบสารสนเทศมาใช้ในสำนักงาน ของ สสจ.นครราชสีมา
" สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เป็นหน่วยงานที่ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารข้อมูลที่ก้าวหน้าทันสมัย เพื่อให้บุคลากรในหน่วยงานมีความคุ้นเคยกับการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในการทำงาน มีระบบข้อมูลที่เปิดกว้าง ให้ความสะดวก และรวดเร็วในการเชื่อมโยงระบบข้อมูลต่าง ๆ เข้าหากัน "
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการพัฒนา software ในการจัดเก็บข้อมูลหลายโปรแกรม ดังนี้
1. โปรแกรมระบบ refer
2. โปรแกรมฐานข้อมูลบัตรประกันสุขภาพ
3. โปรแกรม 504,505
4. โปรแกรมงานระบาดวิทยา (R506)
5. โปรแกรม KPI ปี 51
6. โปรแกรมงานบุคคล (PPIS1)
7. โปรแกรม E-office
8. โปรแกรมรายงานกิจกรรมสาธารณสุข (SR2)
9. โปรแกรมผู้พิการ
10. โปรแกรม GIS (ข้อมูลผู้พิการและโรคเรื้อรัง
11. โปรแกรมค้นหาประวัติผู้ป่วย
โปรแกรมที่คณะดูงานให้ความสนใจมากที่สุดได้แก่ SR2 (Sima2) ซึ่งเป็นโปรแกรมรายงานกิจกรรมสาธารณสุข กิจกรรมใดที่เพิ่มขึ้นก็จะมีการเพิ่มให้ในโปรแกรมนี้
ในการจัดส่งรายงานสถานบริการทุกแห่งจะต้องกรอกข้อมูลลงใน โปรแกรม SR2 จากนั้นส่งเป็น Text File ไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทาง Internet
เมื่อรับข้อมูลจาก Internet แล้ว ผู้รับผิดชอบก็จะนำเข้าข้อมูลซึ่งมี Icon ให้ clickเป็นขั้นตอน เพื่อรวมเป็นข้อมูลของทั้งจังหวัดต่อไป (สำหรับผู้ที่เคยใช้ Program PRIM ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเอดส์ในแม่และเด็ก วิธีนำเข้าจะเหมือนกันค่ะ) out put จะแยกเป็นความครอบคลุม (coverage) และกิจกรรม (activity) และจำแนกประชากรนอกเขต ในเขตรับผิดชอบด้วย
แล้วข้อมูลที่จะนำมากรอกลงใน SR2 เอามาจากที่ไหน ?
ทุกสถานีอนามัยใช้โปรแกรม HCIS ในการเก็บข้อมูล เมื่อจะกรอกข้อมูลใน SR2 จะต้องรวบรวมผลงานออกมาจาก HCIS ก่อน ส่วนใหญ่จะพิมพ์ออกมาทางหน้ากระดาษแล้วมากรอกใน SR2 อีกครั้ง
คำถามของผู้เขียน คือ เป็นไปได้ไหมที่จะทำให้ง่ายขึ้นโดยการที่จัดทำโปรแกรมที่จะ Upload ข้อมูลจาก HCIS เข้า SR2 ได้เลย โดยไม่ต้องพิมพ์ออกมา เพื่อกรอกข้อมูลใหม่
คำตอบก็คือ กำลังจะทำต่อไปในอนาคต โดยคิดว่าเมื่อมีการพัฒนา HCIS เป็น JHCIS เมื่อไร ก็จะพัฒนาให้สามารถแปลงข้อมูลจาก JHCIS เข้าสู่ SR2 อัตโนมัติ
จากการไปดูงานที่สถานีอนามัย เจ้าหน้าที่สามารถใช้ Program ที่พัฒนาได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องการให้มีการแปลงข้อมูลจาก HCIS เข้าสู่ SR2 ได้เลย เพื่อจะได้ลดเวลาในการทำรายงาน (ลดความผิดพลาดในการลงข้อมูลด้วย ผู้เขียนว่าเอง)
นอกจากนี้ โปรแกรมอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่ โปรแกรม Refer ที่สามารถ Key ทาง Website ได้เลย แต่เวลาไม่พอเลยไม่ได้ดูรายละเอียดตรงนี้มากนัก
การจัดระบบฐานข้อมูลให้ได้ในระดับที่ทางสำนักงานสาธารณสุขนครราชสีมาดำเนินการในขณะนี้มิใช่เรื่องง่าย คุณจ๋อง บอกว่าใช้เวลานานนับ 20 ปี ที่พัฒนามาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยินดีที่จะให้มีการต่อยอดจากที่ทาง สสจ.นครราชสีมาพัฒนา
ความเห็น (3)
- ถ้าทำได้ต่อเนื่อง เชื่อมโยงกัน ก็แจ๋วมากเลยนะ
- แบบนี้ ต้องไปพิสูจน์ ...
- ความต่อเนื่องเป็นเรื่องสำคัญในทุกเรื่องค่ะ
- งานที่ทำขาด ๆ หาย ๆ ต้องมาเริ่มใหม่ ก็เพราะขาดความต่อเนื่องนี่ละค่ะ....
- ความต่อเนื่อง
- กับบูรณาการ
- น่าจะเดินไปด้วยกันเนาะ อิอิ
