ใครคนหนึ่งเขียนบันทึกไว้ว่า สิ่งเดียวที่เรา "สั่งได้" แม้ไม่ง่ายคือจิตใจของเราเท่านั้น ความจริงที่ฉันพบคือว่า “ใจ” และ “ความคิด” มันเปลี่ยนไปตามเวลา มันเหมือนธรรมชาติของเวลา ที่มีมุมสว่างแล้วก็มีมุมมืดหมุนเวียนเข้ามาให้รับรู้ เรียนรู้ รู้จัก และเข้าใจแต่ละวาระที่ผันผ่านมีการเปลี่ยนแปลงทั้งก้าวหน้าและถอยหลัง
หากเคยสังเกตความรู้สึกเมื่อมีผ้าพาดไว้บนบ่า เมื่อพาดมันไว้จนคุ้นชินแล้วอยู่ๆผ้าหล่นหลุดลงแล้วรู้สึกบ่าว่างๆบ้างไหม แล้วในบางเวลาเมื่อผ้าหลุดจากบ่าก็ไม่รู้สึกบ่าว่างๆด้วยใช่ไหม เวลารู้สึกว่าบ่าว่าง เมื่อคุ้นชินกับการพาดผ้าบนบ่า ความคุ้นชินนั้นทำให้ต้องไปหาผ้าผืนใหม่มาพาดไว้แทนหรือก้มหยิบผ้าผืนเดิมมาพาดต่อ
เป็นอะไรที่วิ่งวนไปมาอยู่ไปมาร่ำไป บางเวลามันยุติการวนและนิ่ง บางเวลามันไหลบ่าลื่นดี บางเวลามันก็กระโชก บางเวลามันเหมือนย้อนทวน แต่เมื่อได้เอาเวลาเข้าไปสัมพันธ์ สิ่งที่พบกลับกลายเป็นว่า ทุกอย่างที่รู้สึกว่ามันวนเวียนนั้น ที่แท้มันคืบหน้าไปตลอด หากแต่ใจมันจับเวลาไม่ทัน ความคิดมันคิดว่าเวลาอยู่กับที่ สัมพันธ์กันไป ทำให้รู้สึกว่านี่คือเรื่องเดิมที่ย้อนทวนวนเวียน
เมื่อก่อนนี้ฉันเคยเชื่อว่า ใจสั่งสมองไม่ได้ และสมองสั่งใจไม่ได้ แต่มาถึงวันนี้ความเชื่อของฉันคลอนแคลนค่ะ
วังวนความรู้สึกที่อยู่ในใจก็คล้ายๆอย่างนี้ เคยพบค่ะว่า มีความรู้สึกในใจบางขณะเกิดขึ้นคล้ายๆความรู้สึกที่ผ้าหลุดจากบ่า แล้วทำให้เข้าใจวังวนของเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น แล้วพอรู้สึกอย่างนั้น จะได้ยินเสียงในใจว่า “ใช่เลย” ดังขึ้น พอได้ยินเสียงนี้ เวลาที่มีโจทย์ในใจ จะรู้สึกว่าความเบา ความสบายเกิดขึ้นภายในใจชั่วขณะ มันเกิดอย่างอัตโนมัติทุกครั้งที่ได้ยินเสียงคำนี้เปล่งขึ้นให้รับรู้ การยอมรับต่อเรื่องราวที่เป็นโจทย์เหล่านั้นง่ายดายขึ้นทันที
ที่เอามาเล่านี้ก็เพียงจะบอกว่า แกะรอยความรู้สึกแล้วพบอะไร ความว่างที่ว่ามันเกิดขึ้นมาหลังจากใจมันสัมผัสคำตอบว่า”ใช่เลย” มันรู้สึกเหมือนมีการหยุดรับรู้อยู่สักครู่ พอรู้สึกแล้วมันเหมือนว่ามีอะไรถูกปลดออกไปหรือถูกวางไปอะไรอย่างนี้ทันทีค่ะ มีความรู้สึกเบาสบายอยู่แวบหนึ่ง เวลาเกิดความรู้สึกอย่างนี้มันไม่ได้ตั้งใจจะรับรู้เรียนรู้ค่ะ ยิ่งถ้าในสมองมีความคิด และสั่งให้สนใจเพ่งหาเพื่อเรียนรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกอะไร เกิดได้อย่างไร ความรู้สึกเบาสบายอย่างที่เล่าถึงนี้ก็จะหายไป ตอนที่รู้สึกว่าว่างก่อนรู้สึกว่าใจวางอะไรในแวบหนึ่งนั้น ฉันว่ามันเกิดขึ้นก่อนแล้วการยอมรับจึงตามมาค่ะ การยอมรับตามมาติดๆเมื่อมีคำตอบว่าใจโล่งเกิดขึ้นก่อนด้วยค่ะ
“วาง ว่าง รับรู้ รับได้ ปลดทิ้ง” ลำดับความรู้สึกมันเป็นอย่างนี้ค่ะ
ไหนๆก็บันทึกเรื่องใจเบาสบาย ก็เลยลองเอาคำเหล่านี้มาเรียนรู้ว่าอย่างไหนเกิดก่อนหลังกันนะเพื่อทำความเข้าใจตัวเอง สำหรับ ณ วันนี้ ฉันพบว่าใจฉันตอบอย่างนี้ว่าที่ฉันรู้สึกสงบเพราะฉันมีสิ่งเหล่านี้ค่ะ
· Happy Family (ครอบครัวดี) · Happy Money (ปลอดหนี้)
· Happy Relax (ผ่อนคลาย) · Happy Brain (หาความรู้)
และสิ่งเหล่านี้ของผู้คนรอบข้างทำให้ฉันมีสิ่งข้างบนค่ะ
· Happy Society (สังคมดี)
· Happy Body (สุขภาพดี)
· Happy Heart (น้ำใจงาม)
ขอบคุณผู้ที่ทำให้เกิดสิ่งนี้กับชีวิตฉันค่ะ
· Happy Soul (ทางสงบ)
แวะมาอ่านก่อนกลับบ้าน ครับ
ขอบคุณ ครับ
โดนครับ โดนใจ
สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊
“วาง ว่าง รับรู้ รับได้ ปลดทิ้ง”
ขอบคุณค่ะ...ดาวลูกไก่ยังทำไม่ได้เรื่องความผ่อนคลายค่ะ ยังกังวลใจหลายๆ เรื่อง จนเพื่อนคนหนึ่งถามว่าถือกระดาษหนึ่งแผ่นน่ะ หนักไหม ...งั้นอะไรกันแน่ที่มันหนัก เพราะกระดาษมันไม่ได้หนัก ...เวลาที่ถือนานหรือไม่นานไม่ได้เกี่ยวว่ากระดาษหนักขึ้น แต่แขนเราที่ยกกระดาษไว้สิที่รู้สึกหนัก ลองหาสาเหตุที่ทำให้กายเจ็บปวด เจอใจเราที่แบกอะไรไว้ ตอบตัวเองยังไม่ได้ว่าจะแก้ไขอย่างไรค่ะ รับได้ แต่ยังไม่อยากปลดทิ้งค่ะ
พี่หมอเจ๊สบายดีนะคะ