ไม่รู้ เพียรรู้(หนึ่ง)


"เอาจิต(ซึ่งไม่ใช่ของเรา*) ดูจิต จนรู้ว่า กายและจิตที่กำลังคิด กำลังดู นั้น ล้วนไม่ใช่ของเรา"

ไม่รู้ เพียรรู้ 

 

 

ฟังคำพระสอน พระอาจารย์ปราโมช ปาโมชฺโช   ฟัง คิดตาม เอาใจจดจ่อ ดูเหมือนไม่มีอะไรที่ยาก

 

พระอาจารย์สอนว่า

 

"เอาจิต(ซึ่งไม่ใช่ของเรา*) ดูจิต จนรู้ว่า กายและจิตที่กำลังคิด กำลังดู นั้น ล้วนไม่ใช่ของเรา"

"ดูหรือตระหนักไว้เฉย ๆ"

"ไม่ต้องไปคิดเพ่งว่ากำลังคิดอะไร"

"ไม่ต้องไปคิดหาวิธีรู้ว่าเรื่องอะไรที่ตัวคิด กำลังคิด"

"ไม่ต้องไปหาวิธีกด ไม่ให้คิด"

 

ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนมีสติ นึกรู้ได้ว่ากำลัง "คิด"

จนกว่าจะ"รู้" ว่า "มันเป็นเช่นนั้นของมันเอง เราไปบังคับมันไม่ได้" 

 

"ไม่มีอะไรเป็นของเรา" 

 

ต่อเมื่อตามรู้กาย รู้ใจ ตามดู ตามไปเรื่อย ๆ  จะรู้เอง

  

รู้ของอาจารย์นั้น อาจารย์หมายถึง รู้ แบบมีปัญญา

 

 

 

 

เราจับคำสอนข้างบนมาครุ่นคิด เข้าใจยาก ตามดู  ตามรู้กาย รู้ใจ ตามดู ตามไปเรื่อย ๆ  จะรู้เอง 

 

ทำอย่างไรก็ยังไม่รู้ ยังไม่เฉียด 

 

ไม่เหมือนหัดเรียน เขียนอ่าน หรือหัด หมั่นฝึกฝนวิชาอื่น ๆ 

 

เอาใหม่ 

 

เราตึงเกินไปหรือเปล่า 

เราสงสัยในหลาย ๆ เรื่องมากไปหรือเปล่า 

เรากำหนด กด จิตของเราเองมากไป หรือไม่ 

 

ยังไม่รู้ เพียรรู้ 

 

ยังไม่เข้าใจ ยังไม่แจ่มแจ้ง

 

 

 

 

 

เอาจิต(ซึ่งไม่ใช่ของเรา*)....แล้วมันคือของใคร....

 

 

 

 

ภาพประกอบฝีมือของน้อง คนไม่มีราก ค่ะ

P คนไม่มีราก

ขอขอบคุณ

 

หมายเลขบันทึก: 243516เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2009 16:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม 2014 11:38 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)
  • สวัสดีครับ
  • ยิ่งอยากรู้ ยิ่งไม่รู้ ไม่อยากรู้ ก็จะรู้
  • ขอบคุณ

P  สวัสดีค่ะ

"ทางสายกลาง" สินะคะ

ธรรม คือ ธรรมชาติ
รู้ ด้วยวิธีธรรมชาติ
ถูกต้องมั้ยคะ

ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ

ยิ่งอยากรู้ ยิ่งไม่รู้ ไม่อยากรู้ ก็จะรู้

P คุณศรีกมล คะ มานั่งตรองดูอีกครั้ง

ทั้งอยาก และ ไม่อยาก ไม่บริสุทธิ์ทั้งสองอย่าง

(ภวตัณหาและวิภวตัณหา) คงต้องฝึกแบบ เฝ้าดู เฝ้าตาม

เหมือนเรานั่งอยู่ในบ้าน มองออกไปหน้าบ้าน เห็นผู้คนเดินผ่านไปมา ให้รู้ว่ามีผู้คนสัญจรไปมา  เดี๋ยวเขาเหล่านั้นก็จะเดินลับไปจากสายตาของเรา

เราไม่ได้คิดบวก คิดลบ หรือคิดอะไร มองดูเฉย ๆ

พระอาจารย์สอนอีกว่า

 
สังเกตุให้ดี ว่าผู้คนมักรู้เรื่องที่เราคิด

แต่ไม่รู้กาย ไม่รู้ใจ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ"ตัวเรา"จริง ๆ

หรือรู้ เฉพาะ "สมมุติบัญญัติ"

บันทึกไว้ก่อนเพื่อเพียร คิด

เพียรพยายามรู้เท่าทันตัวเอง

เพียรพยายามรู้ว่า กำลังคิด เฝ้าดูเฉย ๆ กลาง ๆ ว่า คิดอยู่

เพียรพยายามรู้ต่อไปว่า เดี๋ยว ความคิด ตัวคิด นี้มันก็จางหาย จากไปเอง

เพียรพยายาม รู้เท่าทัน ตัวคิด

 

สะกิดใจขึ้นมาขณะอ่าน บันทึกนี้ ของพี่แอมป์ ดอกไม้ทะเล

วันนี้ เฝ้าสังเกตุว่า เราเผลอไปได้กี่ครั้ง (หลายสิบ ๆ ครั้ง)

ทว่า เรา กลับคืนสู่ภาวะ "รู้ว่าคิด"  แล้วมองดูตัวคิด..ได้

เวลาที่มองดูแบบไม่พยายามไปใส่ใจจนรู้ว่าคิดอะไร  มันสั้นขึ้น :P

คิด(อีกแล้ว) ควรฝึกตน ตลอดเวลา

ได้ข้อคิดจากลูก

"แม่ทำงานมาก เหนื่อย แม่ก็เฝ้าดูผลงานสิแม่"

"งานมากก็ชั่วคราว"

"งานน้อยก็ชั่วคราว"

 

ดู เขาสิคะ

แต่หายเหนื่อยค่ะ

สวัสดีวันหยุดค่ะ

แวะมา....ไม่รู้ เพียร (อยาก) รู้ ...กับพี่ด้วยคนค่ะ

....ดังที่ว่าจริงด้วยค่ะ ยิ่งอยากรู้ ยิ่งห่างจากภาวะ "รู้"

อยากให้พี่เล่าถึง..."การปฏิบัติ" จะได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่น ๆ ที่กำลังเพียร(อยาก) รู้ด้วยค่ะ

(^___^)

ภาพนี้คนไม่มีรากถ่ายมาจากอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิค่ะ ... ยืนมองเขาอยู่นานมาก เห็นชัดว่าเขามีสติที่มั่นคงเชียวค่ะ ในการเคลื่อนไหวร่างกาย...โดยไม่สนใจกับสิ่งแวดล้อม...(^___^)

อยากให้พี่เล่าถึง..."การปฏิบัติ" จะได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่น ๆ ที่กำลังเพียร(อยาก) รู้ด้วยค่ะ

                            <<<<          >>>>

ถือว่าเป็น ลปรร นะคะ "การปฏิบัติ" ในขณะที่พี่ เพียรรู้

  • ตรวจ ตัวคิด ของเราเนือง ๆ แบบสบาย ๆ ถือทางสายกลาง
  • เรากำลังคิด รู้ตัวว่า คิด
  • ไม่ได้คิดต่อว่าคิดอะไร บวกหรือลบ
  • รู้ว่าคิด พอก่อน หยุดคิดได้มั้ย..ได้..ก็หยุดคิด
  • ถ้าหยุดไม่ได้ เฝ้าดูว่ามันหายไปอย่างไร ใช้เวลานานแค่ไหน

ประมาณอย่างนี้ค่ะ เป็นการเริ่มปฏิบัติ ใช่หรือไม่ ยังไม่"รู้" เลยค่ะ

ผลพวงที่ได้ เรานิ่ง สงบขึ้น

คงต้องเพียร ต่อ;P

พยายามอ่านเพื่อให้เข้าใจ..

ยากจังนะคะ

กำลังคิดแล้วให้หยุดคิด..

เออ..คงต้องเพียรต่อไปเพียรต่อไปคะ

ขอบคุณสิ่งดีดีที่จะพยายามลองดูเพื่อตัวเองนิ่ง สงบขึ้น

ขอบคุณค่ะ

P  น้องโหล..คะ(ขออนุญาตเรียกแบบนี้บ้าง)

ภาพนี้เข้ากับบันทึกนี้มากเลยค่ะ

ขอคัดลอกลงมาอีกที

           

พี่ว่าขณะที่เขายืน และ แสดงศิลปะนี้อยู่

เขา "รู้"  ค่ะ

 

 

สวัสดีค่ะ

กลับมาอ่านอีกครั้งค่ะ

น้อมรับและขอบคุณธรรมะที่พี่กรุณาแนะนำค่ะ...^_^...

  • ตรวจ ตัวคิด ของเราเนือง ๆ แบบสบาย ๆ ถือทางสายกลาง
  • เรากำลังคิด รู้ตัวว่า คิด
  • ไม่ได้คิดต่อว่าคิดอะไร บวกหรือลบ
  • รู้ว่าคิด พอก่อน หยุดคิดได้มั้ย..ได้..ก็หยุดคิด
  • ถ้าหยุดไม่ได้ เฝ้าดูว่ามันหายไปอย่างไร ใช้เวลานานแค่ไหน
  • ดีใจที่พี่คิดว่าภาพนี้เหมาะกับบันทึกนี้ค่ะ คนไม่มีรากคิดว่า...หากเรามองออกไปในโลกกว้าง...ออกจากตัวตนของเรา เราจะพบหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็น "ครู" ให้เราได้อย่างงดงามเสมอค่ะ

    เขารู้...ขณะยืนและแสดงศิลปะ ... แต่ขณะที่เราดูเขา เรา "รู้" เหมือนเขาหรือเปล่าก็ไม่ทราบค่ะ

    (^___^)

    "ไม่มีอะไรเป็นของเรา"

     

    ต่อเมื่อตามรู้กาย รู้ใจ ตามดู ตามไปเรื่อย ๆ  จะรู้เอง

     

    ฝากไว้ คล้ายๆ กันหรือเปล่า ไม่แน่ใจ ยังไม่รู้ ค่ะคุณพี่หมอ J

     

    http://gotoknow.org/blog/lanandaman/253609

     

    มีความสุข สงบ ดั่งใจปรารถนา นะคะ

     

     

    P  น้องโหลคะ ขอยืมภาพประกอบบันทึกข้างบนได้ไหมคะ

    ยิ่งพิศ ยิ่งชอบค่ะ

    ถ้าอนุญาต จะเพิ่มเติมในบันทึกค่ะ

    (^___^)ขอบคุณล่วงหน้า ด้วยโลโก้น้องโหลเอง ;P

    สวัสดีค่ะ

    เพิ่งแวะมาดู....

    ยินดีค่ะถ้าพี่จะใช้ภาพนี้...รู้สึกเป็นเกียรติค่ะ

    ....เรามาเพียรรู้.... กันต่อนะคะ

    ส่งดอกไม้เล็ก ๆ ไม่ทราบชื่ออะไรค่ะ....แต่น้องชอบคนไม่มีรากชอบค่ะ...^___^...

    มีอีกภาพมาฝากค่ะ

    ........ดูแล้วคนไม่มีรากก็ คิดพลางยิ้มพลางว่า.......

    เพียรรู้แล้ว.... อย่าถูกหลอก(ตัวเอง) ว่า.....

    "...เรารู้แล้ว...เสียล่ะ..."  แย่เลย!!!

    สวัสดีครับ คุณภูสุภา อนุโมทนาครับ สำหรับธรรมะ และ ศึกษาธรรมะจากครูบาอาจารย์ท่านเดียวกัน ผมเป็นมือใหม่ครับ เพิ่งเรียนมา 2 เดือน (มีโอกาสได้ไปเรียนที่วัดอาทิตย์ละ 1 วัน บวกกับ อ่าน และ ฟังตามสมคสร) ขออนุญาติแลกเปลี่ยนจากประสบการณ์อันน้อยนิดนะครับ

    "เอาจิต(ซึ่งไม่ใช่ของเรา*) ดูจิต จนรู้ว่า กายและจิตที่กำลังคิด กำลังดู นั้น ล้วนไม่ใช่ของเรา"

    >> คล้ายๆกับสังเกตอาการของจิตว่ากระเพื่อมอย่างไร เช่น อยู่ดีดีโกรธขึ้นมา หรือ เผลอไปคิด ก็ให้คอยรู้สึกตัว พอดูไปเรื่อยๆ รู้ว่าจิตบังคับไม่ได้ ความเป็นตัวเราจะค่อยๆ ลดลง ก็จะเริ่มเห็นว่ามันไม่ใช่ของเรา เปรียบเหมือน เริ่มปฏิบัติ ยังยึดติดเยอะ ตัวเรามี 10 คะแนน เริ่มปฏิบัติในหนทางที่ถูกต้อง คือ คอยรู้กาย (รู้กายให้รู้ลงปัจจุบัน) ดูจิต (ให้คอยตามดู เช่น สุข ทุกข์ โลภ โกรธ หลง ให้คอยรู้) จาก 10 อาจเหลือ 8 เป้าหมาย คือ 0 หรือ ไม่มีตัวเรา จนเข้าสู่นิพพาน

    P  Phornphon

    ค่ะ ธรรม เป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจได้..ตามธรรมชาติ

    ก่อนที่จะเริ่มสนใจ "ดูจิต" ตามคำสอนของพระอาจารย์

    พี่คิดเอาเองว่า เราเรียน เราอ่าน เราเคยหมั่นนึกทบทวน..เราคงพอไหว ...แต่ไม่ไหวค่ะ เมื่อพบ-เจอ สิ่งไม่ถูกใจ ไม่ต้องจริต...เข้า

    กำลังเพียร ต่อไป น่ะค่ะ
    ช่วงนี้ยังอยู่บนย่างก้าวของ..การหัดเดิน..เตาะแตะ ล้มบ้าง ลุกขึ้น แล้วเกาะยืน เดิน ใหม่ไปเรื่อย ๆ

    แล้วคงได้..สนทนากันอีก ขอบคุณค่ะ

    "ไม่มีอะไรเป็นของเรา"

    *******      *******

     

    วันนี้เพิ่งอ่านของพระอาจารย์ปราโมทย์ อีกครั้ง

    พบว่า

    พระอาจารย์เขียน, สอนไว้ว่า

     

    เฝ้า ดู เฝ้า ตาม จนกว่าจะ "รู้"

    แต่

     

    ระวัง

    จะไปยึดติด "ตัวที่คิดว่า ไม่มีอะไรเป็นของเรา"

    ????

     

    ยากจังเลยที่จะเข้าใจ !!!

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท