ชีวิตวัยเด็กที่ต้องฝึกอดกลั้น กินแบบเผื่อคนอื่น น่าจะช่วยกล่อมเกลาให้เป็นคนเห็นใจคนอื่น และทำให้รู้จักพอ เป็นคุณแก่ชีวิตข้างหน้า
ชีวิตที่พอเพียง : 4. อาหารการกิน
-
แม่เล่าว่าตอนเราอายุสัก ๓ – ๔ ขวบ
ปู่เนื่องมากินข้าวที่บ้าน เราบอกปู่เนื่องว่า
“ปู่เนื่อง อย่ากินกับมาก เดี๋ยวคนมากินทีหลังไม่มีกิน”
เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาเล่าเกี่ยวกับตัวเราสมัยเด็กที่แสดงความไร้เดียงสา
- สมัยก่อน ที่บ้านนอกพอถึงเวลาอาหาร เขาจัดกับข้าว ๒ – ๔
อย่างตักใส่จาน-ชาม และวางรวมกันในถาด
คนกินตักข้าวใส่จานหรือชามแล้วแต่สะดวก กินด้วยมือ
ตะเกียบ หรือช้อนสังกะสี แล้วแต่ถนัด
โดยนั่งล้อมวงกินกับพื้น
- ที่บ้านผมสมัยนั้น คนอยู่กันคงจะ ๗ – ๘ คน กิน ๒
รอบ คนกินวงแรกจะกินกับข้าวแต่พอดี
ให้มีเหลือให้คนกินทีหลังได้กินบ้าง
- ในความแร้นแค้น คนสมัยนั้นกินกับข้าวน้อยมาก
กินข้าวมาก แคลอรี่กว่า ๙๕% ได้จากข้าว
กับข้าวเป็นของแพง หายาก กินเพื่อช่วยให้กินข้าวลง
ข้าวเป็นอาหารหลัก เป็นการ “กินเพื่ออยู่”
อย่างแท้จริง คนปักษ์ใต้พูดสั้นๆ
คำว่ากับข้าว ก็พูดว่า “กับ” คำเดียว แม่พูดเสมอว่า
“กินกับน้อยๆ กินข้าวมากๆ” วันไหนกับข้าวอุดมสมบูรณ์
ทุกคนจะพูดคุยกันอย่างร่าเริง แม่จะบอกว่า
“วันนี้ใครจะกินกับมากเท่าไรก็ได้”
ถือเป็นวันพิเศษจริงๆ
- ปู่เนื่องเป็นปู่เขย เป็นสามีของย่ากัน
น้องสาวของย่า ย่าชื่อคุ้ม เสียชีวิตแต่ยังสาว
เราไม่เคยเห็น
ทั้งย่าคุ้มและย่ากันเป็นลูกสาวเศรษฐี
แต่ย่าคุ้มแต่งงานกับคนจน คือปู่ของเรา
ย่ากันแต่งงานกับคนรวย คนมีตระกูลมาจากใกล้เมืองหลวง คือ
“คุณเนื่อง” ปู่ของเราคือ “นายเสี้ยง”
โปรดสังเกตคำนำหน้าชื่อ
แสดงฐานานุภาพที่แตกต่างกัน ลูกของคุณเนื่อง ได้แก่
“คุณนะ” “คุณกอบ” ฯลฯ ลูกของพ่อเสี้ยงได้แก่
“พ่อหริ” “แม่ไม” ฯลฯ
- ปู่เนื่องมาบ้านถือเป็นเรื่องใหญ่
ต้องต้อนรับอย่างดี แม่ทำอาหารอย่างดี
ใส่ภาชนะพิเศษ
เชิญปู่เนื่องทานอาหารคนเดียว แต่ “เด็กชายอ๊อต”
ทำวงแตกเสียนี่ โชคดีปู่เนื่องกลับเอ็นดู
ว่าเป็นเด็กช่างคิด ช่างจำ คือเราเอาคำพูดของแม่
ที่แม่พูดทุกวัน มาใช้ผิดคน
- เมื่อเราแต่งงาน
ปู่เนื่องกับย่ากันมาเป็นญาติผู้ใหญ่ปูที่นอนให้
มีการแสดงตัวเป็นคู่บ่าวสาว
เราติดใจที่ย่ากันกราบเท้าสามีก่อนนอน
(แต่ภรรยาบอกว่าเป็นคนละสมัย)
ปูที่นอนเสร็จก็มีการนอนและฝัน
ตื่นขึ้นมาย่ากันเล่าความฝันให้ปู่เนื่องทำนาย
ครึกครื้นมาก และเป็นมงคลจริงๆ
- ย่ากันอยู่มาจนอายุเกือบร้อยปี จึงเสียชีวิต
ส่วนปู่เนื่องเสียชีวิตอายุ ๑๐๖ ปี ตอนอายุ ๑๐๔
ปียังแทงหวยอยู่
สามีภรรยาคู่นี้ชอบทำบุญสร้างถาวรวัตถุถวายวัด
โดยเฉพาะวัดท่ายางเหนือ
ศพพ่อดำริของเราเผาที่วัดนี้
-
ย้อนกลับไปเรื่องอาหารการกิน
ชีวิตวัยเด็กที่ต้องฝึกอดกลั้น
กินแบบเผื่อคนอื่น
น่าจะช่วยกล่อมเกลาให้เป็นคนเห็นใจคนอื่น
และทำให้รู้จักพอ
เป็นคุณแก่ชีวิตข้างหน้า
วิจารณ์ พานิช
๑๕ เมย. ๔๙
ความเห็น
เรื่องกินไม่เผื่อคนอื่น มันสะท้อนนิสัยคนได้ดีทีเดียว
บ้านฉันยากจน(มาก) มีพี่น้อง 4 คน 3 คนแรกเป็นผู้หญิง
คนสุดท้องเป็นผู้ชาย ฉันเป็นพี่ที่ติดกับน้องคนเล็ก
เนื่องจากเป็นน้องคนเล็ก จึงทำให้ทำอะไรตามใจตัวเอง
เวลากินข้าวคนอื่นใช้จาน แต่น้องชายฉันจะใช้กะละมัง
ตักข้าวจนเต็มแล้วกินไม่หมด เททิ้งทุกครั้ง
ฉันเห็นแล้วสงสารแม่ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ
เพื่อให้พอซื้อข้าวสารมาเลี้ยงคนในครอบครัว ฉันทะเลาะกับน้องชายเสมอ
แต่ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันทำให้น้องชายไม่เชื่อฟังฉัน เกิดการทะเลาะ
ชกต่อยกันเป็นประจำ นิสัยในวัยเด็กสะท้อนชีวิตในปัจจุบัน
สมบัติทุกชิ้นที่แม่แบ่งให้น้องชายฉันขายหมดเกลี้ยง
ขาดความอดทนทำงานไม่เป็นเรื่องเป็นราว
เวลาไม่มีเงินจะคอยหยิบยืมขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
จนหนี้สินล้นพ้นตัว อาศัยบ้านเช่า
เวลามีเงินเที่ยวเสเพลคุยโวโอ้อวดว่ารำรวย ใช้จ่ายมือเติบ
จนบัดนี้ยังตั้งหลักชีวิตไม่ได้เลย ฉันเองเห็นคุณค่าของข้าวทุกเม็ด
ฉันจึงตังหลักชีวิตได้แล้วและอดทนเป็นเยี่ยมที่เดียว
วันนี้แม่หามีชีวิตไม่ แต่คำสอนของแม่ยังมีชีวิตเสมอ
"กินข้าวกวาดให้เกลี้ยง พระแม่โพธิ์ศพจะโกรธเอาลูก"