งดงามมากครับ ทั้งการเขียน และภาพสะท้อน
สวัสดีครับ ท่านศรีกมล
หมากจองที่โน้นผมทราบข่าวมาว่า มีเหลือน้อยมาก
"จกสาว" มีไม่กี่หมู่บ้านครับ แต่หลังจากปี ๒๕๑๒ ไม่นาน ประเพณีนี้ก็หายไป
สมัยผมเด็กๆ ก็เคยเล่นหมากลี้ครับ แต่ผมสู้เด็กโตไม่ได้ มันไม่เผื่อแผ่ผมเลย จกคนเดียว
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ บีเวอร์
ขอบคุณที่ให้กำลังใจ
อ่านแล้วนึกถึงตอนไปจำปาสัก(สปป.ลาว) ได้ไป "ยืนครกจกสาว" ที่น้ำตกตาดผาส้วม
ยินดีที่รู้จักครับ คุณพิมล มองจันทร์ ผมก็ไป น้ำตกตาดผาส้วม เมื่อปี ๒๕๕๐ บรรยากาศดีมาก ขอบคุณที่แวะมาครับ
ผมจำได้ว่าที่นั่นเมื่อปี ๒๕๑๒ ยังไม่มีวิทยุุ เพราะไม่รู้จะรับคลื่นจากที่ไหน
พริกกับเกลือ อย่างนั้นจริงๆ ครับ คือพริกขี้หนูแห้งตำละเอียดคลุกกับเกลือ (เป็นอาหารวิเศษแล้วครับ และเกลือก็หายาก) แจ๋วบอง มีส่วนผสมเยอะครับ พริก ข่าและตะไคร้เผา ปลาร้าสับ กลิ่นจะหอม เป็นอาหารโปรดผมเลยนะครับ แต่ไม่ได้ทานนานแล้ว เพราะไปอยู่เหนือเลยอด
บรรยากาศเก่าๆ ไม่มีอีกแล้วครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
สวัสดียามรุ่งสางของวันใหม่ค่ะ
ใช่ครับ อยากจก เพียงแต่เขาจะให้จกไหม
แต่.....คู่นี้ผู้หญิงคงไม่อยากจก ฮิฮิ ฮ่า ฮ่า
รู้ไหมอ่านเรื่องนี้ ขำตลอดเรื่องเลย ขำคำว่า จก ภาษาอีสาน ก็คือล้วง สมัยก่อนการจีบกัน คงจะยากมาก เนาะ และในขณะที่ว่ายาก ก็ยังมีประเพณีง่ายๆ ใครพอใจใคร ไปจกเลย ขำจริงๆ ไม่อยากคิดไปไกลกว่านั้น ถ้าจกลงไปจะไปถูกตรงไหน
ถูกมือ ถูกแขน ถูกแก้ม ถูกของสงวน เขามีกติกาการจกหรือเปล่า บอกตรงๆ คงเกิดไม่ทันแล้วหละ ประเพณีนี้ จกแล้ว ตกลงได้แต่งงานกันหรือเปล่า(ยังไม่ชัดเจนในรายละเอียดหนา ซิบอกไห่ ห้ามจบ)
เหรียญเล่าว่า หมู่บ้านชายแดนไทยลาวแถบนี้ มีประเพณีที่ไม่เหมือนที่อื่น คือ บ้านไหนมีลูกสาวจะต้องทำช่องไว้ข้างที่นอนลูกสาว พอดึกๆ หลังจากที่ลูกสาวตำข้าวเสร็จแล้ว หนุ่มคนรักก็จะมาหาคุยกันผ่านช่องนั้น หากสาวรักหนุ่มมากสาวก็จะปล่อยให้หนุ่มนั้นใช้มือสอดขึ้นไปจับเนื้อต้องตัวสาวได้ เรียกว่า "จกสาว" เหรียญเล่าจบก็ถามผมว่า ครูจะลองไหม
สุตอบให้เลย ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครจะจกใครหละ คริ คริ ขำหวะ
นี่คงเป็นท่าจกสาว ทำไมจกกันตอนกลางวันหละนี่
หมากจองก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยกิน เสียเปรียบท่านแล้วเรื่องนี้ คล้ายหวานเย็นเป็นของหวาน คล้ายเม็ดนางลักไหมคะ
ทุกวันนี้ยังเหลือประเพณีจกหรือเปล่าคะ คงไม่มีแล้วเนาะ เพราะทุกวัน มันไม่จกกันยากหรอก
สวัสดีค่ะ เพิ่งเข้ามาได้อ่าน
ไม่ทราบว่า สถานที่นี้อยุ่จังหวัดอะไรหรอค่ะ
แล้วทุกวันนี้ยังมีประเพณีอีกมั้ยค่ะ หากมีมีที่ไหนค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
สวัสดีครับ คุณหิ่งห้อย
ผมเองก็เกือบจะลืมแล้วว่า เขียนเรื่องนี้ไว้ เพราะไม่ได้แวะเข้ามานานมากแล้ว
เหตุการณ์ที่ผมเล่า อยู่ในปี 2512 ครับ (สี่สิบเอ็ดปีมาแล้ว)
ที่อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
นึกว่าอยู่ทางเหนือซะอีก ไม่คิดว่าจะอยู่ใกล้บ้านขนาดนี้ เพราะเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่จำได้ลางๆ ไม่คิดว่าจะมีจริง
ขอบคุณน่ะค่ะที่ตอบ