บันทึกนี้ขอเล่าเรื่องตัวเอง…เป็นความรักที่สัมพันธ์ระหว่างครอบครัว เพื่อน และคนรัก…
ไม่อยากให้ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ค่ะ แต่อยากให้นำเอาข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ไปเป็นประโยชน์มากกว่า บางครั้งข้อเท็จจริงก็ไม่สำคัญเท่ากับแก่นแท้ และสัจธรรมแห่งชีวิตค่ะ…
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนศิลาอายุประมาณ 22 ปี เพิ่งจบปริญญาตรีใหม่ ๆ จบแล้วก็ได้งานทำทันที และได้ไปทำงานที่แห่งใหม่พร้อมกับเพื่อนรักที่คบกันมาตลอดเวลาที่เรียนมัธยมจนจบปริญญาตรีค่ะ
นิล..เพื่อนศิลาเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีมาก ๆ สวยขั้นนางสาวไทย คิ้วโค้ง ขนตางอนตาหวานและคม…มีหนุ่ม ๆ มาจีบเยอะแยะ…ส่วนศิลาสมัยนั้น ท่าทางออกจะห้าว ๆ เหมือนทอมบอย คอยปกป้องเพื่อนรักหน้าตาดี ก็เลยไม่สนใจดูแลหน้าตาตัวเอง ผมก็ปล่อยฟู ๆ …ดูดุ ๆ ทำใบหน้าไล่แขก หวงเพื่อนรักค่ะ…
ศิลาขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ไปพักอพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงาน โดยพักร่วมกับนิล…เพราะกลับดึก ๆ ท่านทั้งสองจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทาง
ศิลากับนิลทำงานคนละแผนก…แผนกของศิลามีแต่ผู้ชาย…หัวหน้าที่เป็นเสมือนผู้ฝึกหัดการทำงานให้กับศิลาก็เป็นผู้ชายหน้าตาดี…พี่เขาชื่อวสันต์…เรื่องมีอยู่ว่าตอนแรก ๆ เขาปิ๊งเพื่อนรักศิลาและขอให้ศิลาเป็นแม่สื่อ…ศิลาก็ถามนิลก่อนว่าจะเปิดใจดูไหม…จากนั้นก็แนะนำให้ทั้งคู่รู้จักทักทายกัน…ไปเที่ยวไหนกัน แรก ๆ ศิลาก็ไปด้วย…สักพักก็ต้องค่อย ๆ ถอยออกมาเสียก่อนที่พวกเขาจะไล่ด้วยสายตา
จริง ๆ แล้วศิลาก็กลัวเหมือนกันว่าเพื่อนของศิลาจะไปทำให้เขาเสียใจหรือเปล่า…มีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้บอกก็คือเพื่อนรักของศิลาเปิดใจให้ชายหนุ่มเข้ามาตอนนั้นสองสามคน…ขอแก้ตัวแทนเพื่อนว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องความเจ้าชู้..แต่เป็นเรื่องของการศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพื่อจะได้ดูว่าคนไหนที่จะ “ใช่” ซึ่งในช่วงแรก ๆ ก็อาจจะต้องสับหลีกกันไป จนกว่าจะถูกใจใครแล้วก็ค่อยตัดคนอื่น ๆ ออก…เป็นเรื่องปกติใช่ไหมคะ? (ตัวเองก็ไม่เคยทำแบบนี้ แต่พยายามเข้าใจเพื่อนค่ะ)
ผ่านไปได้สามเดือน ศิลาก็สังเกตเห็นนิลกับพี่วสันต์ดูห่าง ๆ กันไป…ศิลาเองก็อยากรู้แต่ไม่มีใครบอก…นิลมีอะไรมักจะบอกศิลาทุกเรื่องยกเว้นเรื่อง “ความรัก” ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร…พี่วสันต์เริ่มมาเคร่งเครียดกับงาน…สอนงานศิลาเข้มงวดขึ้น บางครั้งก็นัดศิลาไปคุยเรื่องงานนอกเวลาทำงาน…ศิลาอยากรู้เรื่องเขากับเพื่อนรักก็ถามตรง ๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้างพี่กับนิล..เขาก็ตอบเลี่ยงไปเลี่ยงมา
ศิลาทนไม่ไหวก็ไปถามนิล…นิลก็บอกว่าก็ไม่มีอะไร เข้าใจกันดี…เธอทำท่างงจริงๆ ค่ะ…ศิลาไม่มีทางรู้อะไรได้เลยและคงเดาไม่ได้ ปรุงแต่งเรื่องไม่ได้มากกว่านี้ เพราะไม่รู้ค่ะ…แต่ที่รู้แน่ ๆ คือ..พี่วสันต์ทำท่าเหมือนถูกเพื่อนรักศิลาหักอก…และ
อยากให้ศิลาเป็นเพื่อนปลอบใจ…ตอนนั้นนะคะศิลาก็รู้สึกผิดที่ไปแนะนำให้เขาสองคนรู้จักกัน แล้วยังเชียร์สาระพัด… ซึ่งจริง ๆ ก่อนหน้านั้นศิลาเองก็เคยปลอบใจชายหนุ่มคนหนึ่งก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเพื่อนของทั้งศิลาและนิลด้วย…เขามาชอบนิลแล้วก็เป็นแบบนี้แหละ เหมือนถูกทิ้ง…
พี่วสันต์นำประเด็นเรื่องงานและเรื่องที่นิลทำให้หัวใจเขาสลายมาเป็นชนวนดึงให้ศิลาไปไหนมาไหนกับเขาด้วย…ตอนนั้นไม่รู้ตัว…เพลิน…อาหารก็ฟรี..มีคนมาเล่าประสบการณ์การทำงานให้ฟัง…นาน ๆ ไปเริ่มรู้ตัวว่าเขามีท่าทีสนใจศิลา(สาวทอมบอยค่ะ)…ศิลาเริ่มวางตัวลำบาก เพราะทำงานร่วมกับพี่เขาในฐานะลูกน้องกับหัวหน้างาน…ตอนนั้นยังละอ่อนมาก…ใสซื่อ..และ “อยากลองดู” ว่า “แล้วจะยังไงต่อ…” ศิลาอยากเรียนให้ทราบว่าวัยรุ่นทุกคนต่อให้ได้รับการอบรมบ่มเพาะมาอย่างเข้มงวดอย่างไร ก็สู้วัยอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่าสุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีเครื่องมือยับยั้งชั่งใจที่มีประสิทธิภาพมากกว่ากัน และรู้จังหวะว่าถึงจุดไหนถึงจะ “พอแล้ว” ….ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันที่คุณพ่อคุณแม่ฉีดมาตั้งแต่เด็กค่ะ
ศิลาอยากรู้ว่าเขาคิดยังไงกับศิลาเพราะไม่ชอบอะไรคลุมเครือ…แต่ถ้าถามใจตัวเองตอนนั้น ฟันธงได้เลยว่าไม่คิดอะไรเลยกับเขา เพียงแค่อยากรู้ อยากลองเวลามีคนมารัก เป็นอย่างไร (ที่ผ่านมามีแต่รักเขาข้างเดียว อิอิ) …ก็เลยเล่นเกมส์วางไม้ขีดโดยให้เขาวางเรียงขวางไปขวางมา ถ้าศิลาวางใหม่ด้วยไม้เดียวแล้วเป็นรูปทรงบ้านได้ ศิลาชนะ ได้ถามคำถาม 1 ข้อที่เขาต้องตอบตามตรง…แล้วศิลาก็ชนะค่ะ..เขาก็ตอบคำถามศิลาว่าเขาชอบศิลา…ตอนนั้นรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้ดีใจ แค่รู้สึกว่าแน่ใจขึ้น และก็คิดได้ว่าถ้าเราไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเท่าไหร่ ก็ไม่น่าถามเลย เฮ้อ… เพราะกลายเป็นว่าเราตกที่นั่งลำบาก ต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะคบกันอย่างไร
ยังไม่ทันจะตัดสินใจอะไร เพื่อนรักของศิลาก็มาถามศิลาด้วยสีหน้าไม่พอใจว่าทำไมไปไหนมาไหนกับพี่วสันต์บ่อยนัก…ศิลาก็งงเพราะเห็นเธอก็ยังมีชายหนุ่มอีกตั้งสองคน (อยู่ในมือ) เวียนไปเวียนมารับส่งอยู่ เราก็นึกว่าทิ้งพี่วสันต์ไปแล้ว… ถ้าถามก่อนหน้านี้ก็คงตอบได้เร็ว ๆ ว่าก็มีเรื่องงานคุยกัน…แต่ตอนนี้ไปทราบเสียแล้วว่ามี Hidden Agenda..แม่สื่อแม่ชักวัวพันหลัก…ก็เลยไม่ตอบอะไร ถามย้อนกลับไปว่าเราถามนิลหลายครั้งแล้วว่ามีเรื่องอะไรกับพี่วสันต์หรือเปล่าก็ไม่เคยบอกเลย พี่วสันต์เขาเสียใจที่นิลไปมีคนอื่นรู้ไหม นิลก็บอกว่าศิลาน่ะถูกหลอก พี่วสันต์ฟอร์มอกหักเพื่อจะจีบศิลา
เราคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะศิลาก็ไม่รู้จะเชื่อใคร…และที่สำคัญต่อให้จริงดังที่เธอพูด ก็ไม่เห็นจะต้องมีท่าทีโกรธศิลาขนาดนั้น…ในเมื่อเธอเองก็ดูเหมือนไม่สนใจเขาแล้ว
อีกสองวันต่อมาศิลาก็ถูกคุณแม่เรียกตัวกลับไปบ้าน…และท่านก็ขอร้องให้ศิลาลาออกจากงาน ขนของกลับมาอยู่บ้าน…ศิลาทำตามที่ท่านขอโดยไม่ปริปากอะไรเลย…เมื่อกลับมาอยู่บ้านได้ไม่กี่วันก็ถามท่านตรง ๆ ว่าคุณแม่มีอะไรจะบอกศิลาไหมคะ
คุณแม่บอกว่าคุณแม่อยากให้ มีอะไรให้บอกคุณแม่ ไม่ใช่ให้คุณแม่ไปรู้จากคนอื่น…มีคนมาบอกคุณแม่ว่าศิลาไปคบกับผู้ชาย ไปไหนมาไหนกันดึก ๆ ดื่น ๆ ทำตัวไม่เหมาะสม…สำหรับแม่แล้ว ขอให้บอก อย่าปิดปัง แม้กระทั่งไปมีอะไรกับใครแล้วพลาดพลั้งไป…แม่จะไม่โกรธลูกเลย และจะช่วยหาทางออกให้ลูกเอง…
ศิลาซาบซึ้งในความรักที่ท่านมีต่อลูกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้…แสดงว่าที่ผ่านมานับแต่มี “ใคร” มาบอก “อะไร” คุณแม่ คุณแม่ก็คงเป็นทุกข์เรื่องศิลามาโดยตลอด และคิดว่าศิลาเหลวไหล แต่ไม่ได้บอกท่านเลย…ศิลาทราบดีค่ะว่า “ใคร” ที่มาบอกท่าน ศิลาเสียใจที่เธอนำอะไรก็ไม่ทราบมาเล่าให้คุณแม่เป็นทุกข์ ไม่รู้ว่าเธอมีวัตถุประสงค์อะไร…ถ้าจะหมายถึง “แค่ผู้ชาย” คนเดียวล่ะก้อ มันคุ้มใช่ไหม หากเธอต้องสูญเสียเพื่อนคนนี้ไป..
· คนที่บ้าบอ ปกป้องเธอ เชื่อเธอทุกอย่าง…
· คนที่ไม่ได้นอนทั้งวันทั้งคืนเป็นอาทิตย์ ทำรายงานค้นคว้าตำราภาษาอังกฤษเพื่อเธอ.. ให้เธอได้แก้เกรดจาก F เป็น C+
· คนที่ทำอะไรตั้งมากมายเพื่อจะให้เธอได้หัวเราะ และได้หายเศร้า
· คนที่คอยเป็น ไม้กัน… เมื่อมีคนมารุมจีบเธอ และคอยเฝ้ารอเธอเมื่อเธอกลับมาดึก ๆ ดื่น ๆ ด้วยความเป็นห่วง
ศิลาเลือดขึ้นหน้า โทรไปต่อว่าเธอ…จำไม่ได้ค่ะว่าเราเถียงอะไรกันบ้าง รู้แต่ว่าเธอยอมรับที่ว่าเล่าอะไรให้คุณแม่ศิลาฟังจริง แต่ไม่ให้รายละเอียดว่าเป็นเรื่องทำนองไหน…ถามคุณแม่ คุณแม่ก็คงเป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่ให้ข้อเท็จจริงอะไรมากไปกว่าความเป็นห่วงศิลา ไม่อยากให้ทำงานที่นั่นอีก…. ความสัมพันธ์ระหว่างศิลากับเพื่อนที่เคยรักก็จบแบบงง ๆ …ว่าเธอทำทำไม…ใครตอบได้บ้างไหมคะ
สำหรับศิลา ไม่เคยเสียใจที่ต้องลาออกตามที่คุณแม่ขอ ไม่เสียใจถ้าต้องเลิกคบกับผู้ชายคนใด หากท่านจะห้าม…เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ …เพียงแค่เสียใจที่ เพื่อนที่เรารัก “หักเหลี่ยมโหด” ….ศิลาไม่เข้าใจ และก็ได้หยุดหาคำตอบไปนานมากแล้ว ว่าเธอทำทำไม…
และสุดท้ายเธอก็ไม่ได้เลือกผู้ชายคนนั้น…และศิลาก็ไม่ได้เลือกเช่นกัน ผ่านมาผ่านไปจริง ๆ …ทั้งเพื่อนที่เคยรัก และผู้ชายที่เคย “หลง” เข้ามา…ศิลาไม่ขอเน้นเรื่องความรักหนุ่มสาวมาก… เดี๋ยวจะหาว่าโม้ค่ะ ไหนไหนก็ไม่ได้เลือกเขาแล้ว…เป็นอันว่าศิลาใช้วิธีปฏิเสธโดยให้เขารอศิลาจนกว่าจะเรียนปริญญาโทจบ แต่เขาทนไม่ได้ก็หายจ้อยไปค่ะ…
ศิลาเลิกคบกันเพื่อนรักมานานมากแล้ว ได้ข่าวตอนศิลาเข้าทำงานที่ใหม่ว่าเธอแต่งงาน…น่าจะตอนอายุประมาณ 24 ปี จากวันนั้นเถึงวันนี้ เธอแต่งงานมานานแล้วสิบกว่าปีกับใครก็ไม่ทราบ…
มาถึงวันที่ 11 กพ 52 ที่ผ่านมา ศิลาเห็นรูปภาพเธอโดยบังเอิญจากการ search ใน google อย่างไม่ได้ตั้งใจ…ใบหน้าเธอมีเค้าเดิม แต่ไม่เหมือนเดิม…แน่นอนค่ะ ไม่มีใครสวยค้ำฟ้า…เพียงแต่เราจะมองกันที่แววตา..ไม่ว่าเด็ก วัยรุ่น คนชรา หากแววตาสดใส เปี่ยมสุข ก็นับว่าได้ใช้ชีวิตตามครรลองธรรมชาติอย่างดี… พอแล้ว…
แต่สิ่งที่เห็น…ยากที่จะอธิบาย…เป็นอันว่าทำให้อดีตเพื่อนรักอย่างศิลาเข้าใจชีวิตเพิ่มมากขึ้น…คนเราไม่มีอะไรมาก โกรธกัน เกลียดกัน ก็เท่านั้น…เลิกคบกันเพราะเรื่องอะไรก็ไม่รู้…สุดท้ายก็ไม่เห็นมีอะไรเลย… เธอก็แก่ ศิลาก็ชรา…แต่คุณค่าของมิตรภาพได้เลือนลางไป เพราะไม่รู้จัก “การให้” อย่างแท้จริง
เรื่องที่เล่านี้อยากสะท้อนให้เห็นว่าขณะที่เราคบกับใครอยู่กับตาม เรามักคิดไปเองว่าเรามีสิทธิเลือกคนที่เรารัก…แต่ทราบไหมว่ามีใครที่ห่วงเรามากขนาดไหน…ยามเราสุขกับใครคนหนึ่ง ก็ลืมรักแท้คือรักของพ่อแม่ …ยามเราเจ็บกลับมา จึงนึกถึงคุณค่าแห่งรักที่ท่านมีให้… นี่คือเรื่องแรกที่อยากสื่อ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ “ความเป็นเพื่อน” มีมิติที่ซับซ้อนมาก หลายเรื่องเราไม่รู้หรอกว่า “เพื่อนแท้” เพื่อนกิน” “เพื่อนเที่ยว” จนกว่าจะถึงภาวะคับขัน ต้องเผชิญปัญหาอะไรสักอย่างร่วมกัน…แต่ก็ไม่อยากให้กังวลหรือระแวงกันมาก…เพียงแต่เราจริงใจ ผลตอบแทนจะเป็นอย่างไรก็เป็นบททดสอบเราให้รู้จักคน….เพราะเราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้…สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่ สิ่งที่ได้ยินอาจจะไม่จริง..จงเชื่อมั่นในมาตรฐานคุณธรรมประจำใจของตนเองดีที่สุด และเชื่อฟังบุพการีที่รักเรายิ่งกว่าใคร ๆ
---------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
* ตามมาดูความรักของศิลา...แข็งปึ๊ก
* ..จงเชื่อมั่นในมาตรฐานคุณธรรมประจำใจของตนเองดีที่สุด และเชื่อฟังบุพการีที่รักเรายิ่งกว่าใคร ๆ
* มาตรฐานคุณะรรมประจำใจของตน...ไม่เกี่ยวกับใคร...ทุกข์ก็ไม่เกิด
* สุขกายสุขใจนะคะ
สวัสดีครับ อ.ศิลา
แล้วก็เก็บจุดสำคัญมาด้วยครับ
เรื่องนี้..มีความรักหลายรูปแบบซ่อนอยู่จริงๆค่ะ..
แต่รักที่แท้จริง..ก็คนใกล้ตัวเราที่สุดล่ะนะคะ..
ขอบคุณค่ะ..อ่านซะเพลินเลย..
มีความสุขกับความรักทุกรูปแบบเช่นกันค่ะ..^^
กำลังทานชอคโกแลค เลยเอามาให้ อ.ศิลา ด้วยครับ
เพิ่มอีกนิด ความรักของหนุ่มๆ ต่างจากของสาวๆ นะครับอาจารย์ หนุ่มๆมักแพ้เวลา สาวให้รอ มักจะรอไม่ไหว :)
พี่ศิลา คะ เพื่อนเป็นคนที่เราแคร์มากที่สุดต่อจากครอบครัว ทรายมีเพื่อนที่คบกันตั้งแต่ประถม จนเรียนมหาวิทยาลัยและปัจจุบันก็เป็นเพื่อนกันอยู่ แค่มีเพื่อนแท้เพียง 1 คนที่จริงใจก็มีค่ามากแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับกุหลาบสวย ๆ น่ะค่ะ สุขสันต์ วันแห่งความรักน่ะค่ะ
เรียนรู้จากอดีตเป็นชีวิตที่มีคุณค่าค่ะ
...ขอให้มีความสุขตลอดไปค่ะ...
เพื่อน..มีมากมายหลายแบบนะคะเจอเหมือนกัน..เราเลือกได้เลือกคบเลือกปฏิบัตินะคะ
ขอให้มีความสุขครับ
มีความรักมาให้ค่ะ
พี่เขี้ยวขอบคุณที่ไปเยี่ยม
จึงแวะมาหา
เลยได้อ่านเรื่องรกสามเศร้า
อย่างตั้งใจจนจบ
เฮ้อ ...นี่แหละชีวิต
แค่เสี้ยวของความรู้สึก
คนเราทำได้ทุกอย่าง
จริงๆนะ
อ่านแล้วซาบซึ้งในสัจธรรม
รักใดไหนเล่าเท่ารักของบิดรมารดา
รักต่อมาควรรักตัวไม่ทำชั่วให้มัวหมอง (อุ้ย ? เป็นการสอนป่าวนี้ )
มีความสุขในวันวาเลนไทน์นะครับ
ขอพรพระธรรมคุ้มครอง
ขอบพระคุณคุณหนุ่มกร ที่นำดอกไม้หลากสีมาฝากค่ะ ความรักมีหลายมิติ หลายสีจริง ๆ confirm
คุณน้องทรายชลโชคดีแล้วค่ะที่มีเพื่อนแท้...พี่ศิลาก็อยากมีค่ะ แต่เราเลือกไม่ได้จริง ๆ ที่จะได้พบคนในแบบที่เราปรารถนา เคยถามว่าเราผิดพลาดตรงไหน ก็มักจะได้คำตอบเดิม ๆ ว่าแต่ละช่วงเวลาที่เราอยู่กับเพื่อน เราดีกับเขาจริง ๆ แต่อาจจะดีไม่พอสำหรับเขาค่ะ
ยัง อิน ใน ความสวย ๆ งาม ๆ เลยแวะ มาอ่าน อีก
ขอบคุณครับ
ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คนยังใช้ได้ครับ
เพื่อนมีหลายสิ่งให้ได้เรียนรู้ค่ะ
สวัสดีคะ
ความรักที่เกิดขึ้น ในวัยหนุ่มสาว ยังจำได้ดี
ดีแล้วคะที่คุณศิลา ยังมีความทรงจำที่ดี ๆ
ในส่วนลึก ประกายคิดว่าคุณสิลายังห่วงเพื่อนอยู่นะคะ
เพื่อนก็คือเพื่อน จะโกรธกันอย่างไร ก็ยังคือเพื่อนนะคะ
แล้วเราเป็นอะไรกันแน่นะ...SOULMATE...