เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 ได้ไปประชุมร่วมกับทีมงานของ อบจ.ปทุมธานี เพื่อร่วมกันวางแผนพัฒนาระบบการจัดการศึกษาของ อบจ. และพัฒนาระบบการจัดการศึกษาของโรงเรียนที่โอนมาสังกัด อบจ. แนวคิดสำคัญประการหนึ่งที่ได้คุยกันในที่ประชุมคือ “การส่งเสริมให้โรงเรียน เป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ โรงเรียนแห่งความปลอดภัย และ โรงเรียนมาตรฐานคุณภาพ” ในกรณีของการเป็น “โรงเรียนแห่งความปลอดภัย” หมายถึง สภาพการดำเนินการระดับโรงเรียน และภาพความสำเร็จจะต้องมีลักษณะดังนี้ คือ
ปัจจัยพื้นฐาน
มีสิ่งต่อไปนี้ คือ
-มาตรฐานและตัวชี้วัด
-ระเบียบ/ข้อตกลง
-สื่อ/คู่มือ/แนวปฏิบัติ
-แผนงาน/โครงการ
-ความรู้ ความเข้าใจของครูและผู้เกี่ยวข้องทุกระดับ
กระบวนการ
-จัดกิจกรรม โครงการ และ
บริหารจัดการด้านความปลอดภัยแบบบูรณาการ
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
“อาหารปลอดภัย สิ่งแวดล้อมกายภาพปลอดภัย
ร่างกายปลอดภัยจากโรคภัยหรือการเจ็บไข้ตามฤดูกาล
เด็กปลอดภัยจากอุบัติเหตุ อุบัติภัยทั้งปวง
มีความปลอดภัยด้านภาวะสุขภาพจิต และ
นักเรียนจะต้องมีจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยทุกลักษณะ”
ภายใต้ภาพความสำเร็จดังกล่าวข้างต้น สิ่งที่สถานศึกษา จะต้องคิดเป็นเบื้องต้นในเรื่องนี้ คือ มาตรฐานและตัวชี้วัดความปลอดภัย ซึ่งจะต้องกำหนด ประชาพิจารณ์ สร้างความเข้าใจร่วมกัน เพื่อให้เห็นตรงกัน ซึ่งในที่นี้ ผมขอลองยกตัวอย่างมาตรฐานความปลอดภัย ดังนี้(ตัวชี้วัดค่อยร่วมกันคิดทีหลัง หลังจากที่ได้กำหนดมิติด้านความปลอดภัยและเห็นตรงกันแล้ว)
มาตรฐานที่ 1 อาหารปลอดภัย ตัวชี้วัด คือ
1)
2)
3)
มาตรฐานที่ 2 สิ่งแวดล้อมกายภาพปลอดภัย ตัวชี่วัด คือ
1)
2)
3)
มาตรฐานที่ 3 ความปลอดภัยจากโรค ภัย การเจ็บไข้ ตามฤดูกาล ตัวชี้วัด คือ
1)
2)
3)
มาตรฐานที่ 4 ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ-อุบัติภัยทั้งปวง ตัวชี้วัด คือ
1)
2)
3)
มาตรฐานที่ 5 ความปลอดภัยด้านสุขภาพจิต ตัวชี้วัด คือ
1)
2)
3)
มาตรฐานที่ 6 ความปลอดภัยด้านสุขภาพจิต ตัวชี้วัด คือ
1)
2)
3)
มาตรฐานที่ 7 นักเรียนมีจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัย ตัวชี้วัด คือ
1)
2)
3)
มาตรฐานที่ 8 ความพร้อมด้านปัจจัยเพื่อส่งเสริมการเป็น “โรงเรียนแห่งความปลอดภัย”
1)
2)
3)
หลังจากได้กำหนดมาตรฐานและตัวชี้วัดความปลอดภัยที่เป็นที่เข้าใจตรงกันแล้ว(ในส่วนของตัวชี้วัด จะต้องกำหนดตัวชี้วัดกระบวนการที่โรงเรียนหรือผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติ และ ตัวชี้วัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน) สิ่งที่โรงเรียนต้องคิดต่อไป คือ แผนงานส่งเสริมความปลอดภัย ซึ่งประกอบด้วยโครงการ กิจกรรม ซึ่ง กิจกรรมจะต้องเกิดขึ้นทั้งในห้องเรียน ในบริเวณโรงเรียน ที่บ้าน หรือในชุมชน
ในการนี้ เพื่อให้กิจกรรมสามารถดำเนินการได้จริง สิ่งที่สถานศึกษาต้องคิดต่อเนื่อง คือ ปัจจัยสนับสนุนการดำเนินงาน เช่น เอกสารเสริมความรู้ คู่มือ/แนวปฏิบัติ(อาจจะต้องทำทั้งคู่มือครูผู้สอน คู่มือครูประจำชั้น รวมถึง คู่มือสำหรับพ่อแม่) ระเบียบ/ข้อตกลง ศักยภาพของครู-อาจารย์ในเรื่องความปลอดภัย เอกสารแผนงาน/โครงการและปฏิทินงาน
ถ้ามีการคิดอย่างเป็นระบบ ทำตามแผนอย่างจริงจัง โดยมีการกำกับติดตาม ตรวจสอบงานโดยผู้บริหารสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง จัดให้มีการนิเทศ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในโรงเรียน อย่างสม่ำเสมอ มีการประเมินความก้าวหน้าของงาน/โครงการ และมีการสรุป ประเมินผลหรือจัดสัมมนาประเมินผลการดำเนินงานในรอบปีระหว่างผู้เกี่ยวข้องกลุ่มต่าง ๆ ผมเชื่อว่า นอกจากจะเกิดประโยชน์โดยตรงต่อนักเรียนแล้ว(จัดการศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ) จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครอง เกิดความมั่นใจในการส่งลูกหลานเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีลักษณะของ “โรงเรียนแห่งความปลอดภัย” มากขึ้น เพราะ..ผมเชื่อว่า ในความคิดของพ่อแม่แล้ว “ความปลอดภัยของลูกเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของพ่อ-แม่ ทุกคน...วิชาการ อาจเป็นเรื่องรองด้วยซ้ำ”
ตามมาทักทายก่อนนะครับ เดี๋ยวมาใหม่ครับ กำลังอบรมแอบมา
โรงเรียนนี้คงเป็นโรงเรียนในอนาคตอันใกล้ที่กระทรวงศึกษาธิการต้องเล้งเห็นถึงความสำคัญ พ่อแม่ต้องมองแล้วว่า โรงเรียนที่ลูกของเราจะไปเรียนมีความปลอดภัยหรือไม่ เป็นโรงเรียนที่น่าสนใงจครับ
โครงการน่าสนใจมากค่ะ หนูได้ปรึกษาพี่สาว(ผู้รับใบอนุญาต)บ้างแล้ว
แต่เกรงว่ามาตราฐานด้านปัจจัยจะเป็นตัวดึงมาตรฐานอื่นให้การดำเนินการได้ล่าช้าค่ะ
พุนี้จะนำเข้าที่ประชุมค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ คงต้องขอความรู้จากท่านอีกครั้ง เพราะปีการศึกษาหน้าโรงเรียนจะดำเนินงานโรงเรียนแห่งความปลอดภัย
ครูละเอียด โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์