แตงไทย
นฤมล ชื่อเล่น "แตงไทย" (สำหรับครอบครัว), "แตงอ่อน" (สำหรับเพื่อนๆ), "I tang" (สำหรับพี่ๆ ทั้งหลาย) จันทรศรี

อันเนื่องจาก ….. เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (4)


ต่อเนื่องจาก "อันเนื่องจาก ….. เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (1,2,3)"


เข้าเลือกอ่านบทความต่อเนื่อง
1.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(1)
2.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(2)
3.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(3)
4.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(4)
5.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(5)
6.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(6)
7.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(7)
8.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(8)
9.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(9)
10.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(10)
11.) เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45(11)

     

พอเช้าวันที่สาม..สิ .... มันเกิดอะไรกับจิตปรุงแต่งของแตงอีกแล้ว ....
คือใกล้รุ่ง เกือบตี 4 แล้วหล่ะ ยังไม่ทันได้ยินเสียงตีระฆังปลุก .....
จิตคิดว่าเห็นเพื่อนกะเทยที่เพิ่งเผาไปมาหา .....
เพราะเห็นเพื่อนมายืนอยู่ใกล้ประตูมุ้งเลย และไม่เคยเห็นวิญญาณด้วยตาเนื้อมาก่อนเลย ....
เพราะที่ผ่านมาเห็นแต่ในสภาวะสะลึมสะลือ หรือไม่ก็คิดว่าตัวเองเคลิ้มฝัน ....
แตงนอนร้องไห้จนถึงเวลาตีระฆังปลุก และเดินลงไปขอพี่ธรรมบริกรออกไปทำบุญให้กับเพื่อนที่วัดละแวกนั้น
แต่เขาไม่ให้ออกไป และให้เหตุผลว่าที่นี่ก็คือสถานปฏิบัติเช่นกัน
แล้วจะทำอย่างไรหล่ะจึงจะทำบุญให้เพื่อนได้
นั่งปฏิบัติฯไปก็คิดถึงเพื่อนตลอดทั้งวันเลย
พอมื้อเย็นไอ้อารามที่กลัวว่าคืนนี้เข้านอนแล้วจะเห็นเพื่อนมายืนข้างมุ้งอีก
แล้วชั้นจะทำอย่างไรดี เพราะไม่อยากเห็นอีกแล้ว....
ท่านทั้งหลายคงคิดไม่ถึงหล่ะซิ ...ไอ้แตงคนนี้คนที่ไม่เคยกลัวผีเลย เพราะเจอมาตั้งแต่เล็กจนโต
และเวลากินข้าวไม่เคยเลยที่จะเผื่อแผ่ถึงสรรพสิ่งทั้งหลายที่มักจะมาปรากฏให้ตัวเองเจอะเจอ ....
ไอ้แตงคนนี้ค่ะ...มันยกมือไหว้ระลึกถึงเพื่อนก่อนตักข้าวเข้าปากค่ะ อุทิศส่วนบุญ และอาหารมื้อเย็นนั้นให้เพื่อนค่ะ
ในใจก็บอกไปว่า "ป๊อกเอ้ย...อาหารมื้อนี้ชั้นยกให้แกนะ ชั้นไม่รู้ว่าอาจารย์และเพื่อนๆ ทำบุญให้แกแล้วหรือยังเพราะวันที่ 3 แล้ว คืนนี้แกอย่ามาให้ฉันเห็นอีกนะ ... 55555 .... 
แตงได้ยินเสียงท่านทั้งหลายหัวเราะ ... เพราะแตงยังขำตัวเองเลย พอกินข้าวเสร็จก็กรวดน้ำให้เพื่อนอีกค่ะ ....
ท่องบทกรวดน้ำแผ่เมตตาไม่เป็นหรอกนะ...แต่จะทำอย่างไรให้ถึงเพื่อนได้หล่ะ....
ก็ใช้วิธีนึกถึงหน้าเพื่อนนี่แหล่ะ จิตคงส่งถึงกันแหล่ะหน่า
และบอกให้เพื่อนรวมทั้งบอกเจ้ากรรมนายเวร
ญาติมิตรรวมทั้งสัตว์ทั้งหลายที่เสียชีวิตไปแล้วมารับส่วนบุญไปด้วย ....
ดูนะหาเรื่องถ้าคิดถึงเพื่อนคนเดียวก็น่าจะพอ ...
ต่อมาทุกวันแตงก็กรวดน้ำให้กับเพื่อนและสรรพสัตว์ทั้งหลายหลังอาหารทุกมื้อ ...
ทีนี้แหล่ะค่ะในแต่ละวันของแต่ละช่วงการปฏิบัติฯ มันเกิดอะไรขึ้นกับจิตของแตงก็ไม่รู้ซิ...
บางวันก็เห็นอะไรแว๊บเข้าในจิตอยู่ตลอด ...
บางคืนก็ฝันถึงทั้งญาติและสัตว์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ....
บางวันขณะที่นั่งปฏิบัติฯ ก็เห็นสภาพห้องที่นั่งปฏิบัติฯ อยู่เปลี่ยนไปและเห็นเด็กวิ่งเล่นเต็มไปหมด
เห็นแม้แต่ว่า มีเด็กประมาณ 4 - 5 คนมานั่งล้อมวงรอบตัวแตง และชวนให้แตงลุกขึ้นไปเล่นกับเขา และเด็กบางคนก็มานั่งบนขาที่นั่งขัดสมาธิ
และขณะนั้นรับรู้ด้วยจิตด้วยนะคะว่าเด็กเหล่านั้นคือวิญญาณ ....
บางวันก็เห็นเป็นสรรพเวสี แขนขายาวมาปรากฏให้เห็น....
บางทีก็รู้สึกว่ามีคนมายืนใกล้และลูบหัวจนถึงหลังตัวเอง ตอนนั้นคิดว่ามีคนมายืนใกล้พอลืมตาไม่เห็นมีใคร ....
ดูเถอะค่ะจิตคิดปรุงแต่งมากมายจนเห็นเหมือนภาพจริงขนาดนั้น ....
แตงพยายามหาเหตุผลมาแก้ต่างสิ่งที่ตัวเองเห็น...รู้สึก...ทุกครั้ง
แตงไม่กลัวภาพเหล่านั้นหรอกนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่าเห็นมาตลอดจนชิน
ให้เหตุผลกับตัวเองว่าอาจจะเป็นเพราะตัวเองชอบเรื่องโบร่ำโบราณก็ได้จิตเลยสร้างมโนภาพเป็นตุเป็นตะ

และวันนี้เป็นวันที่พิจารณาลมหายใจให้แคบลงมาอีกคือ
จากมุมปากบนทั้งสองลากขึ้นเป็นสามเหลี่ยมเล็กลงจรดจนถึงปลายจมูก ...
แต่จิตมันไม่อยู่กับการพิจารณาลมหายใจเลยค่ะ เพราะคิดถึงแต่เพื่อนๆ และอาจารย์ตลอด
... และคิดว่าวันนี้ทุกคนคงอยู่ครบยกเว้นแตงที่ไม่ได้ทำบุญให้เพื่อน เขาถึงได้มาปรากฏตัวให้เห็น ....
ด้วยเหตุนี้แหล่ะค่ะเมื่ออาจารย์เรียกเข้าไปถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง รับรู้ถึงลมหายใจที่กระทบเหนือริมฝีปากหรือไม่ ...
แตงไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่รับรู้แม้แต่ว่ามีลมมากระทบเหนือริมฝีปาก .... หรือแม้แต่อาการอะไรทั้งสิ้น ณ บริเวณนั้น
แต่ดันจับความรู้สึกได้เมื่อหายใจเข้าแล้วไปรวมกันที่หน้าผากระหว่างดวงตา ซึ่งไม่ใช่จุดประสงค์ที่จะให้จิตไปพิจารณา ...
แต่นั่นแหล่ะพอปฏิบัติฯช่วงหลังมื้อเย็น พยายามตั้งจิตให้นิ่งและพิจารณาให้มากขึ้น ก็เลยรับรู้ความรู้สึกของลมหายใจมากระทบริมฝีปาก
และเริ่มสนุกแล้วซิ เพราะเริ่มจับความรู้สึกเล็กๆ ได้ ....
แต่นั่นแหล่ะยังคงลุกเข้าลุกออกห้องปฏิบัติฯเพื่อเข้าห้องน้ำอยู่เช่นเดิม
เพราะวันนี้ดันกินกาแฟดำเข้าไปทั้งมื้อเช้าและเที่ยง ...ลูกๆทั้งหลายก็เรียกร้องจะออกมาสู่โลกภายนอก....ฮิ..ฮิ..

 

 

บทความต่อเนื่อง
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (1) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (2) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (3) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (4) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (5) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (6) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (7) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (8) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิตในปี '45 (9) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิต ในปี '45 (10) (ที่นี่)
เนื่องจาก...เริ่มวิปัสสนาครั้งแรกของชีวิต ในปี '45 (11) (ที่นี่)

 

แนะนำบันทึกเพิ่มเติม 
หลังจากกลับจากวิปัสสนา "ธรรมกมลา" ปี ๒๕๕๒

 

หมายเลขบันทึก: 238822เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2009 18:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2014 11:11 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท