ศึกษาดูงานโรงเรียนดรุณสิกขาลัย : ตอนที่ 1 ศึกษาดูงานอย่างไรถึงไม่ได้งาน


การศึกษาดูงานที่โรงเรียนดรุณสิกขาลัย

          หลังจากที่ผมกลับมาจากการประเมินโรงเรียนพระราชทานมาในวันที่ 21 มกราคม 2552  เช้าวันที่ 22 มกราคม 2552 ตีสี่ ผมก็ออกเดินทางไปศึกษาดูงานต่อ ที่ โรงเรียนดรุณสิกขาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี  โดยมีคณะเดินทางไปทั้งหมด 20 คน ประกอบไปด้วยผู้บริหารโรงเรียน ศึกษานิเทศก์ และ ครูวิชาการ

          ไปถึงที่โรงเรียนดรุณสิกขาลัย ประมาณ เก้าโมงเช้า  พบว่ามีคณะศึกษาดูงานมาจากหลายหน่วยงาน คือ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย   ศูนย์การแพทย์หัวหิน   บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่    สพท.ลำปาง  สพท.ตราด   สสอน.  และ  ผู้ปกครอง

          วิทยากร คือ คุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา  และ คณะครู  จากการฟังบรรยาย  การสอบถาม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคุณพารณและคณะครู  และ การสังเกตการณ์เรียนการสอนจริงในห้องเรียน   ได้พบกับความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่าในการนำมาใช้พัฒนาการเรียนการสอนได้หลายอย่างครับ จึงขอนำมาเสนอเป็นตอนๆ 

          ตอนที่ 1 ขอเสนอแนวคิดเดิมๆของการศึกษาดูงาน  คือ ดูงานมาแล้วไม่ได้ได้งาน

          ผมคาดการณ์ล่วงหน้าเอาไว้ว่า น่าจะต้องมีผู้ศึกษาดูงานบางคน  ไปดูงานเพียงแค่เปลือก คือ ดูที่สิ่งก่อสร้าง  วัสดุอุปกรณ์  บุคลากร และ องค์ประกอบภายนอก  ซึ่งความคาดการณ์ของผมก็เป็นจริงครับ   เพราะ

          1.  มีผู้บริหารบางคน ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคุณพารณว่า  โรงเรียนของเขานั้นทำไม่ได้หรอก เพราะงบประมาณมีจำกัด คุณพารณ ก็คงจะเสียความรู้สึกกับความคิดพวกนี้เต็มที  ท่านบอกว่า มันอยู่ที่ การบริหารจัดการ ไม่เกี่ยวกับงบประมาณ 

          2. คำถามในการศึกษาดูงาน   ยังคงเป็นคำถามประเภทนี้

          -  ครูที่นี่ เงินเดือนเท่าไร

          - ผ่านการประเมินจาก สมศ. หรือยัง

         - โรงเรียนของเขาจะทำบ้าง ต้องทำอย่างไร

          - การศึกษาที่ผ่านมาล้มเหลว จะพัฒนาการศึกษาอย่างไร

          3. หลังจากศึกษาดูงานเสร็จ คณะศึกษาดูงานที่ผมเดินทางไปด้วยบางคน    สรุปว่า  ทำไม่ได้อย่างเขา เพราะ ของเราขาดสื่อ ขาดเงิน  ขาดวัสดุอุปกรณ์   ของเขาเด็กน้อยครูมาก  ของเราเด็กมากครูน้อย  ขาดครูผู้เชี่ยวชาญ ขาดครูวิชาเอก ขาดผู้ชำนาญการ

          คือ ขาด  ไปหมดครับ  ก็เลยไม่ต้องทำอย่างเขาหรือทำอย่างเขาไม่ได้

      โดยไม่สนใจที่จะศึกษาจาก วิธีคิด และ วิธีการ ของเขา

         

         

         

หมายเลขบันทึก: 236842เขียนเมื่อ 23 มกราคม 2009 04:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)
  • ธรรมสวัสดีโยมอ.smallman~natatee
  • ก่อนไปบิณฑบาตรแวะมาเรียนรู้ก่อน
  • ธรรมรักษา

สวัสดียามเช้าค่ะ ท่านรองฯ

งบประมาณก็เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารฯค่ะ แต่ไม่ใช่สำคัญที่สุด

การบริหารจัดการที่ดี เราทำได้ตามอัตภาพ และบริบทของโรงเรียน

เป้าหมายสำคัญอยู่ที่ตัวผู้เรียน คุณภาพของนักเรียน ไม่ใช่ความสวยงามของวัตถุ

ผู้บริหารและครูผู้สอนต้องเสียสละ ทั้งกาย ใจ เวลา และทรัพย์สินเล็กๆน้อยๆ

ขอบคุณท่านรองฯที่นำประสบการณ์มาถ่ายทอดให้คิดนะคะ

สวัสดีครับ อาจารย์ small man~natadee

 

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นว่า

สิ่งที่ "ขาด" มากที่สุดคือ

"วิธีคิด" ของผู้บริหารครับ

ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะนำมาซึ่ง

การ "ขาด" ทุกสิ่งทุกอย่าง

อย่างที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้

สวัสดัครับท่านรอง

ไปดูงานที่ไม่ได้งาน เพราะขาดวิธิคิด ไปติดอยู่ความไม่พร้อม

ภาษาพวกผมเราบอกว่า "ทำไปเรียนไป การเรียนร้ที่ยังไม่พร้อม" หรือว่าหัดในไถ หานใจในปี่ครับท่าน

สวัสดีค่ะท่าน ผอ.

  • ครูอ้อย เคย คิดว่า..ขาดเงินแล้วจะทำอะไรได้
  • แต่ พอ ขึ้นมายืน บนขั้นบันไดที่ 1 ครูอ้อยรู้ว่า..เงิน เป็นองค์ประกอบเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวจักรสำคัญเลย

ครูอ้อย จะเรียนรู้กับท่าน ผอ.ต่อไป  เผื่อว่า..จะมีโรงเรียนที่สร้างด้วยตัวเอง....ฝันฝันฝัน

สวัสดีค่ะท่านรองฯ

  • ก่อนที่ผู้บริหารหรือใคร ๆ จะคิดได้
  • ท่านผู้นั้นจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ ก่อน อย่างน้อยก็ได้อ่าน ได้ศึกษามาแล้ว
  • ไม่ใช่มารู้เอาตอนปลาย ๆ หรือฟังเขามา  เห็นเขาพูดอะไรใหม่ ๆกลัวตกเทรนด์ก็พูดตาม อยากจะทำตามแต่..รู้ไม่ลึก  อันนี้ก็อันตรายค่ะ
  • ทำให้ไม่ทราบจะคิดอะไร

 

P นมัสการครับ

      ขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงครับที่เข้ามาเยี่ยม

P คุณnu11ครับ

     เป้าหมายสำคัญอยู่ที่ตัวผู้เรียนจริงๆครับ ไม่ควรไปมุ่งที่เงินทองวัตถุ

                ขอบคุณมากครับ

Pคุณณภัทร๙ครับ

      ที่ขาดคือ "วิธีคิด" ของผู้บริหาร

                   ดีมากครับ

                            ขอบคุณครับ

 

P ท่านบังหีมครับ

        ขาดวิธีคิด  ยึดติดอยู่กับความไม่พร้อม     ดีมากเลยครับ

                    ขอบคุณครับ

Pครูอ้ยครับ

       เงิน ไม่ใช่เรื่องสำคัญ   ดีมากครับ

Pพี่คิมครับ

      เป็นความคิดเห็นที่ดีครับ

      คือ ไปดูงานอะไร ต้องศึกษามาก่อน ไม่ศึกษา จึงไม่มีวิธีคิด

                    ขอบคุณมากครับ

คนอีสานเขาเอิ้น " อย่าเพิ่นไปห่มผ้า ท่าไข้ " ครับ ท่าน รอง

สวัสดีค่ะ ท่านรองฯ

  •   จริงค่ะ ฟังมานานแล้วค่ะ ตามที่ท่านรองฯ สรุป  ทำไม่ได้อย่างเขา เพราะ ของเราขาดสื่อ ขาดเงิน  ขาดวัสดุอุปกรณ์   ของเขาเด็กน้อยครูมาก  ของเราเด็กมากครูน้อย  ขาดครูผู้เชี่ยวชาญ ขาดครูวิชาเอก ขาดผู้ชำนาญการ ขาดๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ไม่ต้องทำ ท่านรองฯเคยเขียนไว้ค่ะ
  • ไชโย... ประเทศไทย คนไทย สบายๆ ประเทศไทยไม่ใช่ของเราคนเดียว ไม่เห็นต้องคิดให้ปวดสมอง เสียเวลา อิอิๆ อีกแล้วค่ะ ท่านรองฯ
  • คนแก่เห็นมาเยอะ ก็เหมือนคนที่เป็นโรคอะไรที่จำเป็นต้องผ่าตัด เพื่อจะได้หายจากโรคแต่ก็กล้าๆกลัวๆ หลอกกันเองไปวันๆ กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว รอวันตายอย่างเดียว ถ้าไม่ตายก็ทรงๆทรุดๆ ไม่ดีขึ้น
  • ทำไงดีคะท่านรองฯ

       

Pคุณหนุ่มกรครับ

 อย่าเพิ่นไปห่มผ้า ท่าไข้ "

                  ขอบคุณมากครับ

 

Pครูลี่ครับ

    คิดดี ทำดี กำหนดที่ตน  ผ่อนปรนที่คนอื่น..ครับ

การดูงาน  มีคุณค่าในการเรียนรู้ และอยู่ที่ว่า จะรู้จักนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทหรือสภาพจริงที่เป็นอยู่รึเปล่า เพื่อเพิ่มพูนความคิด และพัฒนาตนเอง พัฒนางานต่อไป

ขอบคุณค่ะ

ขอท่านรองฯ....สุขภาพแข็งแรงนะคะ  :) :)

Pขอบคุณคุณสายธารมากครับ

     สดใส แข็งแรง วันตรุษจีนนะครับ

สวัสดีค่ะท่านรอง

อาทิตย์หน้าหนูก็ต้องไปศึกษาดูงานกับเขาบ้างแล้วค่ะ

ดูงานต้องได้งาน วิธีคิด และวิธีการ

ถ้าเราพร้อมที่จะเรียนรู้และซึมซับสิ่งดีๆ

ไปดูงานก็ต้องได้งาน

ไปเกี่ยวข้าวก็ต้องได้ข้าว

ไปหาปลาก็ต้องได้ปลา.....ไปทำอะไรได้อย่างนั้น...

ถ้าไม่ได้แสดงว่าไม่ได้ไปจริง หาจริง ทำจริง

ขอบคุณค่ะท่านรองหนูจะไปศึกษาดูงานจริงๆนะคะ อิอิอิ

Pคุณเทียนน้อยครับ

    การศึกษาดูงานเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ครับ

    ไปดูงาน ยังไงๆ ก็ต้องได้อะไรมาบ้างอย่างแน่นอน

     ถ้าไม่ติดที่รูปลักษณ์ภายนอก

     อย่าลืมนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

                      ขอบคุณครับ

เคยได้ไปดูงานที่ดรุณสิกขาลัย บอกได้คำเดียวประทับใจการบริหารงานมาก ๆ

เป็นโรงเรียนที่ไฝ่ฝันอยากไปทำมาก

แต่ว่าไม่อยากจะอยู่ในกทม.แล้ว อยากไปดำเนินการอยู่ต่างจังหวัดคะ

ขอบคุณ อาจารยต้อยมากครับ

อาจารย์ภาวนา วงศ์โสม

เรียน อาจารย์ small man เพิ่งเข้ามาอ่านความคิดเห็นในการไปศึกษาดูงานของอาจารย์ ส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้จริงๆ ดูแล้วนำไปเปรียบเทียบกับบริบทของตนเอง แล้วท้อ เคยให้กำลังใจและเสนอแนะว่า ดูแล้วนำเอาสิ่งที่ดี แล้วนำมาปรับตามบริบทของเราเอง อย่าไปลอกเลียนแบบของเขามา ทั้งหมด ให้ทำตามกำลังของเรา เราอาจจะเคยเจอกันที่ ดรุณสิกขาลัยมาแล้วก็ได้ค่ะ ขอบคุณความคิดดีๆจากอาจารย์ จะเข้ามาเรียนรู้ด้วยค่ะ ภาวนา

อาจารย์ภาวนาครับ

การไปดูงาน ถ้าเราใจกว้าง และ คิดจะทำจริงๆ ก็คงเอามาใช้ได้ทั้งนั้นนะครับ ทำตามบริบทของเรา

ขอบคุณครับ

มีอีกข้อ ท่านรอง

ขอถ่ายเอกสารได้ป่ะ.?

Ico48ครู ป 1   ครับ

    555   ตามนั้นครับ  ..

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท