สวัสดีด้วยความคิดถึงมากค่ะ น้องเอก : )
พี่แอมป์แวะมาบันทึกนี้เงียบๆสองสามรอบแล้วค่ะ ชอบบันทึกถึงบ้านของน้องเอกจัง อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความรักความอบอุ่นทุกบันทึก และที่ชอบที่สุดคือน้องเอกไม่เคยลืมปาย... บ้านเกิด..
"..บ้านเกิด.." พี่ชอบคำนี้นักละ ใครชวนไปอยู่ที่ไหนก็ไม่อยากไป ใจคิดถึงแต่บ้านอย่างเดียว บ้านของใคร..ใครก็รัก ยิ่งมีโอกาสจากบ้านไปต่างแดน ก็จะยิ่งรัก "บ้านเกิดเมืองนอน" ของเรามากขึ้น เพราะได้เห็นว่าที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านเรา เมืองไทยของเรายังอบอุ่นและเป็นเมืองที่ใจดีอยู่มาก และหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ไปตราบนานเท่านาน
สำหรับพี่แอมป์ ทุกบันทึกของน้องเอกเป็นแรงบันดาลใจอย่างดีนะคะ พี่แอมป์อ่านทุกบันทึก(ทันทีที่ได้แวะมา) ขอบคุณสำหรับการสร้างสานความรักและความเข้าใจ ในทุกที่ที่น้องเอกไปเยือน และลงมือทำงานที่น้องเอกรัก สิ่งที่มีค่าที่สุดในงานวิจัยของน้องเอกคือการหาคำตอบที่เริ่มต้นด้วยความรัก ความจริงใจ และจบลงด้วยการให้ความเข้าใจ... และสุดท้าย..คำตอบอาจจะอยู่ที่"ความ(จริงใจที่จะ)เข้าใจ"กันอย่างแท้จริง อย่างที่น้องเอกเคยกล่าวไว้
การอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบคม การถอดกลไกและสร้างโมเดลให้เห็นเบื้องหลังและที่มาที่ไปของปรากฏการณ์ เป็นเรื่องจำเป็นในการทำวิจัยเชิงสังคมศาสตร์ แต่สิ่งที่จำเป็นยิ่งกว่า คือการลงมือทำ(ร่วมกัน)ให้อะไรบางอย่างเป็นไปอย่างที่น่าจะเป็น เป็นไปและในทางที่ดีขึ้น...อย่างที่เราคิดว่าควรจะเป็น... ทำด้วยความเข้าใจ ด้วยความจริงใจ...ด้วยแรงของคนเล็กๆทุกคน
แม้จะเป็นจุดเล็กๆในสังคม แต่หากเราช่วยกันสร้างจุดเล็กๆให้เข้มแข็ง จาก เสียงเล็กๆ ก็จะกลายเป็นเสียงที่มีพลังขึ้นมาได้ ..อย่างน้อยก็ในใจคนเล็กๆอย่างพวกเรา : ) : )
สังคมใหญ่..ถึงอย่างไรก็ต้องประกอบด้วยคนเล็กๆมารวมตัวกันอยู่ดี..มิใช่หรือเล่า..
ขอบคุณสำหรับทุกบันทึกที่น้องเอกแลกมาด้วยเวลาชีวิตและตัวตนทั้งหมดอย่างที่น้องเอกเป็นนะคะ เราอาจหาอ่านเรื่องราวและปรากฏการณ์ต่างๆได้มากมาย แต่ไม่ง่ายนักที่จะได้อ่านเรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านจิตใจที่ดีงามอย่างแท้จริง
สุดท้ายนี้ พี่แอมป์ขอยืนยันว่าขณะที่พิมพ์ทุกคำตามที่ใจคิดนี้ พี่รู้สึกสบายอกสบายใจดี และแม้ว่าจะได้ใช้ที่ว่าง(ในบันทึก)ของน้องเอกไปเป็นจำนวนมาก ...ก็เชื่อว่าน้องเอกจะเข้าใจและทำใจได้ที่พี่แอมป์เข้ามาพูดอะไรยืดยาวไปตามใจตัวเช่นเคย : )
ขอให้น้องเอกทำงานที่น้องเอกรักอย่างมีความสุขเสมอ และขอให้ประสบผลสำเร็จในทุกสิ่งที่น้องเอกตั้งใจทำนะคะ
พี่แอมป์ค่ะ : )
--------------------------------------------------------------
สำหรับที่ว่างของผม (ซึ่งผมหมายถึง พื้นที่บนโลกออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้ผมแสดงความเป็นตัวตน)...ผมพยายามเสนอความเป็นไปของตัวเองด้วยการบรรยายผ่านอักษร หากใครอ่านก็คงได้สัมผัสวิธีคิดของผมว่า ผมคิดอย่างไร ผมทำอย่างไร กับสิ่งที่เกิดขึ้น ...เรียกว่าแทบไม่ต่างจากปถุชนท่านไหนๆเลย มีเศร้า เสียใจ ดีใจ หดหู่ แต่ที่ผมถอดบทเรียนกับตัวเองและเห็นว่าเป็นพัฒนาการที่ดีของผมก็คือ ความเข้าใจต่อชีวิตที่ลุ่มลึกขึ้น...เศร้าน้อยลง ดีใจน้อยลง รู้สึกวางเฉยกับเรื่องราวกระทบมากขึ้น
----------------------------------------------------------------------------
พี่แอมป์ครับ "ดอกไม้ทะเล"
บันทึก "กลับบ้านของเรา" ผมนั่งเขียนเงียบๆใช้เวลาเล็กน้อยในช่วงหยุดพักครับ พยายามเขียนออกมาให้ง่ายๆ ตามความรู้สึกช้าๆ ตั้งคำถามไว้กับตัวเองว่า เราคิดถึงบ้านอย่างไร?
เมื่อผมตั้งคำถาม ...ผมก็ได้คำตอบอย่างที่ผมรู้สึก บ้านคือที่พักพิงทั้งร้อน หนาว เย็น เมื่อไหร่ก็ตามเราดีใจเราก็คิดถึงบ้าน เมื่อเราเสียใจเราก็คิดถึงบ้าน "บ้าน" จึงเป็นที่รองรับทุกความเป็นไปของเราครับ
พี่แอมป์ครับ การงานของผม ก็เดินทางไปเรื่อยๆตามครรลองของงานครับ ในระหว่างทำงานก็มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็เรื่องธรรมดา แก้ไขให้หมดไป พร้อมกับเรียนรู้ไปเรื่อยๆ มีความสุขดี และผลของงานที่สำเร็จ เราก็พลอยมีความสุขไปด้วย
เรื่อง "งานวิจัยทางสังคมศาสตร์" เป็นศาสตร์ที่ชอบครับ เพราะมีโอกาสได้เข้าใจทุกชีวิตที่เราผ่านไป และจดจำนำมาเขียน เมื่อเราเขียนถึงเขา ก็เหมือนว่าเราเดินทางเข้าไปอยู่ใมมุมของเขา ยิ่งเราเขียนใช้เวลานานเท่าไหร่ เราก็ใคร่ครวญในความเป็นเขามากขึ้นเท่านั้น
งานวิจัย กับธรรมะ และเรื่องของชีวิต เป็นเรื่องเดียวกัน ผูกโยงกันได้เป็นเนื้อเดียว หากจะทำ KM นี่เลยครับ ของจริง พัฒนาทั้งคน ทั้งองค์กร และ สังคม
ผมเติบโตจากงานของผมนี่หละครับ...
ปีนี้เป็นปีที่ผมมีโอกาสได้ทำกิจกรรมดีๆ ที่เราใช้ชื่อว่า "กิจกรรมจิตอาสา" ผมมีโอกาสทำเพื่อคนอื่นและมีเพื่อนๆเข้ามาร่วมกันมากมาย เป็นความสำเร็จอีกชิ้นของปีที่มีความสุขมากๆครับ ขอบคุณที่พี่แอมป์ร่วสมเป็นหนึ่งในนั้น
ขอบคุณ และขอบคุณครับ สำหรับความห่วงใยที่มีให้เสมอมา...
เราจะเดินต่อไป..ครับ
----------------------------------------------------------------------
ใช่ครับ...เราต้องเดินกันต่อไป
นัยยะของการนำเรื่องราวการโต้ตอบฉันท์พี่ น้อง ในบันทึกสองฉบับนี้ ทำให้ผมได้ทะลุผ่านบางอย่างในตัวเอง ...ผมมีความสุขครับที่ได้รู้จักทุกคน และผมมีความสุขสำหรับชีวิตที่อยู่ท่ามกลางความหลากหลายของตนเอง
ผมเองก็เชื่อเเน่ว่า "เสี้ยวหนึ่งของผม" คงมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านบ้าง
ขอให้มีความรื่นรมย์ในทุกช่วงจังหวะก้าวเดินของชีวิตทุกท่านครับ
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
๒๐ ม.ค.๕๒
นนทบุรี