วันนี้เป็นวันครู แม่ต้อยเลยอยากจะเขียนอะไรสักอย่างเกี่ยวกับคุณครู เรื่องราวของคุณครูที่เป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต ในการอุทิศตนในการทำงานนี้ เป็นภาพความทรงจำที่นานแสนนาน แต่ว่าภาพนี้ยังติดในความทรงจำอยู่ตลอดเวลา
เมื่อย้อนกลับไปตอนที่แม่ต้อยยังเป็นเด็กชั้นประถม ( นานมากๆทีเดียว ) แม่ต้อยจำได้ ว่าคุณครูประจำชั้นของแม่ต้อย ท่านช่างทำงานหนักเสียเหลือเกินท่านจะทำหน้าที่สอนพวกเราทุกอย่าง ในสมัยก่อนพวกเราจะมีคุณครูประจำชั้นเท่านั้นไม่มีครูสอนรายวิชาเหมือนในปัจจุบัน
ดังนั้นคุณครูของแม่ต้อยจะรับผิดชอบ สอนทุกวิชาและสอนทั้งวัน ท่านจะคลุกคลีกับนักเรียนจนรู้จักพวกเราอย่างดีว่าใครนิสัยอย่างไร เรียนเก่งวิชาไหน วิชาไหนที่ไม่เอาไหนเลย แต่ละคนเป็นลูกเต้าหลานใคร บ้านอยู่ที่ไหน มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง เป็นต้น เรียกว่าท่านรู้จักลูกศิษย์อย่างหมดจดทั้งเนื้อทั้งตัว
การที่ท่านอยู่กับพวกเราตลอดเวลา ท่านจึงฝึกกิริยามารยาท การพูดจา พวกเราทุกคนมีความเกรงกลัวคุณครูของเรามากแต่ในขณะเดียวกันเรามีความรักคุณครูของเราเหลือเกิน เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกล้ำ แม่ต้อยยังจำได้ถึงสายตาที่เป็นห่วงเป็นใย ราวกับเราเป็นลูกในใส้ของท่านเลยที่เดียว หากเราไม่เข้าใจในบทเรียน หรือบางครั้งเราจะดื้อดึงตามประสาเด็กๆ คุณครูมีความอดทนที่จะฝึกฝนพวกเรา และทำสิ่งทุกอย่างที่จะสร้างให้เราเป็นคนดี ท่านจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ แม่ต้อยยังนึกสงสัยว่าท่านทำได้อย่างไร
ที่ประทับใจไม่มีวันลืมคือ วันหนึ่งคุณครูท่านนี้ไม่สบายมาก หมอออกความเห็นว่าท่านต้องหยุดการสอนสักสองสามวัน แต่เนื่องจากในระยะนั้น เป็นเวลาที่พวกเราใกล้สอบไล่ ท่านจึงขนหยูกยาและเบาะที่นอนสำหรับนอนพักมาด้วยที่ห้องเรียน ใช้บริเวณหลังห้องเรียนเป็นที่พักรักษาตัวเอง ให้หัวหน้าชั้นของเราทำหน้าที่ควบคุมการฝึกทำโจทย์โดยท่านจะนั่งเพื่อให้คำแนะนำที่หลังห้อง แม่ต้อยจำได้ว่าพวกเราต้องเปลี่ยนกันเข้าไปดูแล และรินน้ำให้ท่านกินยาตามเวลา เช็ดตัวในยามที่ไข้ขึ้นสูงตามที่หมอแนะนำ
มีครั้งหนึ่งที่แม่ต้อยไม่สบายมากเลย ไข้ขึ้นสูงมาก ต้องหยุดการเรียนสองสามวัน เย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน คุณครูท่านนี้ได้ขี่จักรยานมาเยี่ยมอาการที่บ้านด้วยความปราณี และด้วยความห่วงใย
จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อมีการให้นักเรียนเขียนเรียงความเรื่อง” อาชีพที่ข้าพเจ้าอยากเป็น” แม่ต้อยก็จะบอกทุกครั้งว่าแม่ต้อยอยากเป็นครู อยากเป็นครูอย่างที่แม่ต้อยได้เห็น ได้เรียนรู้ในตอนนั้น
คุณครูของแม่ต้อยจึงเป็นภาพที่งดงามติดตา และแม้ว่าในชีวิตนี้แม่ต้อยจะไม่ได้มีโอกาสได้มีอาชีพตามที่ใฝ่ฝันไว้ได้ก็ตาม แต่แม่ต้อยมีน้องสองคนได้เป็นคุณครู และแม่ต้อยเองได้ดำเนินชีวิตโดยใช้แนวทางของคุณครูหลายๆท่านที่ได้อบรมบ่มฟักให้แม่ต้อยได้ดำเนินชีวิตมาจนในปัจจุบันนี้
แม่ต้อยเคยได้เรียนรู้จากคุณครูท่านหนึ่งว่าคำว่าครู มาจากคำว่า”ครุ” ซึ่งแปลว่าหนัก นั่นหมายความว่าเป็นผู้ที่มีภาระอันหนักในอันที่จะสร้างให้คนเป็นคนดี เป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต เป็นภาระกิจที่สำคัญและสูงส่ง
แม่ต้อยจึงขอคาระวะคุณครูทุกท่านในโอกาสวันครูนี้ ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
เคารพครูด้วยคนค่ะ
ขอให้คุณครูทุกท่านมีความสุขครับ
สวัสดีค่ะ..
ร่วมน้อมคารวะครูกับแม่ต้อยด้วยค่ะ
ร่วมบูชาคุณครูด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ แม่ต้อย...แม่ต้อยก็เป็นครูของพอลล่าคนหนึ่งค่ะ
ครูน่านับถือจริงค่ะ