เปียกน้ำสงกรานต์บนรถสองแถว

เรื่องเล่าจากสารคาม

ประสบการณ์ช่วงสงกรานต์แบบนี้ มีใครหลายคนได้สัมผัสบ้างเอ่ย
ที่ ม.มหาสารคาม เวลาที่นิสิตนักศึกษาที่ไม่มีรถส่วนตัว เดินทางเข้ามหาวิทยาลัยจะต้องนั่งรถสองแถวเข้าไป

วิทยาเขตจะห่างจากถนนใหญ่เข้าไป 3 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมือง 9 กิโลเมตร

แต่ใช่ว่าจะอยู่พื้นที่ชนบท เพราะมีบ้านเรือนอยู่ตลอด 2 ฝั่งถนน
เพียงแต่เค้าไปตั้งวิทยาเขต ในพื้นที่นอกตัวเมือง เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา

สงกรานต์หยุดหลายวัน วันนี้ เค้าตั้งโอ่ง กาละมัง สายยาง ปืนฉีดน้ำ ประเดิมกันแล้วเด้อ

ถนนทางเข้า มหาวิทยาลัย ที่มีชุมชนบ้านเรือนตั้งเรียงราย 2 ฝั่งถนน ก็จะมีโอ่ง มาเด็กมาตั้งวงรอสาดน้ำ

รถสองแถววิ่งผ่านมา .... เด็กๆ สาดน้ำใส่รถ....ตูม

รถสองแถว จะมีคนนั่งอยู่เต็ม บางส่วนก็จะยืนอยู่ทางขึ้น ซึง่ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มๆ..
สาวๆก็จะนั่ง
เมื่อรถวิ่งผ่าน เด็กๆ จะเล็งสาดน้ำเข้าไปในช่อง ให้โดยสาวๆ ได้ร้องกรี๊ดกร๊าดแบบไม่รู้ตัว
พวกหนุ่มๆที่ยืนอยู่ จะมองเห็นกลุ่มที่ยืนรอสาดน้ำอยู่ไกลๆแล้ว
พอรถสองแถววิ่งไปถึง เด็กๆสาดน้ำเข้ามาปุ๊บ หนุ่มๆจะรีบเบี่ยงตัวหลบปั๊บ บางคนหลบได้ไว ไม่โดนน้ำสาด บางคนก็โดนถากๆ
แต่สาวๆที่นั่งในรถ โดนเข้าเต็มหน้า เต็มกกหู เสื้อผ้าเปียกมะลอกมะแลก

หลังจากโดนสาดไป 1ครั้ง คราวนี้ สาวๆจะเริ่มระวังมากขึ้น
พอรถสองแถวจะผ่านวงสาดน้ำ สาวๆรีบก้มหลบ เอามือปิดหูทันควัน

อันนั้นน่ะ พอตั้งรับทัน
แต่ที่เหนือความคาดหมาย คือ รถน้ำ.. รถกระบะที่มีโอ่งน้ำบนรถ ขับตระเวณไปตามที่ต่างๆ เมื่อวิ่งผ่านมาเจอรถ 2 แถว แล้วสาดน้ำใส่ ตูม.....ทันที

กว่าจะออกจากมหาวิทยาลัย เจอสาดไม่ต่ำกว่า 5 ด่าน ยิ่งช่วงแดดร่มลมตก ไม่ต่ำกว่า 10 ด่าน ยิ่งภายในตัวเมืองมหาสารคาม มีอีกหลายด่าน...

สงกรานต์เลยเริ่มเปียกมะลอกมะแลก คลายร้อนกันไปเลย

[บุญมี]

ก็ช่วยกันส่งเสริมประเพณีในทางที่ถูกที่ควรหน่อยก็แล้วกัน ไม่ใช่สนุกตัวเองแต่สร้างความเดือดร้อนหรือเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลอื่นหรือถือโอกาสทำอนาจารจับต้องของสงวนคนอื่นเขา อย่างนี้ถือว่าเลวมาก ผู้ปกครองหรือผู้ใกล้ชิดควรห้ามปรามหรือแนะนำเขาด้วย เพราะถ้าคนอื่นเขาทำกับลูกหลานญาติพี่น้องตัวเองก็คงรับไม่ได้เช่นกัน และมันจะสืบทอดไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในทางที่ไม่ดีไม่งามสมกับความเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันดีงามนี้ด้วย