บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) กับผู้ป่วยยาเสพติด
(ตอนที่2)
นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
มีแนวทางให้หลักประกันด้านการรักษาพยาบาลด้วยการจัดให้มีหน่วยบริการประจำครอบครัวที่อยู่ใกล้บ้านไว้ให้ประชาชนไปรับบริการได้อย่างสะดวก
แต่หากเมื่อใดที่มีการย้ายหรือเปลี่ยนที่พักอาศัยใหม่
ตามแนวทางหลักประกันสุขภาพก็มีบริการเปลี่ยนสิทธิบัตรทอง
เพื่อเอื้อต่อการรับบริการทางการแพทย์ที่ต่อเนื่องภายใต้การคุ้มครองสิทธิการรักษาพยาบาล
ณ
หน่วยบริการที่ตั้งอยู่ในเขตใกล้เคียงกับที่พักอาศัยหรืออยู่ในเขตรับผิดชอบตามทะเบียนบ้านที่ย้ายมาใหม่
มีการตั้งคำถามว่า ทำไมต้องเปลี่ยนสิทธิบัตรทองด้วย
คำตอบก็คือ หากท่านมีการย้ายที่อยู่อาศัย
หรือย้ายทะเบียนบ้าน
แล้วเกิดภาวะการเจ็บป่วยที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม
แต่ท่านมีสิทธิบัตรทองอยู่ที่หน่วยบริการตามภูมิลำเนา
ท่านจะสามารถใช้สิทธิบัตรทองได้เฉพาะกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยแบบฉุกเฉิน
การเจ็บป่วยรุนแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ไม่เกิน 2
ครั้งต่อปี และหากท่านเกิดเจ็บป่วยในภาวะปกติ
โรคที่ไม่จำเป็นต้องรักษาอย่างเร่งด่วน
ท่านจะไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวและจากการติดตามผลการคุ้มครองสิทธิการรักษาพยาบาลในผู้ป่วยคุมประพฤติที่ถูกส่งตัวมาจากสำนักงานคุมประพฤติในหลายจังหวัดที่เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูในสถาบันธัญญารักษ์
พบว่าผู้ป่วยคุมประพฤติจะประสบปัญหาการส่งต่อผู้ป่วยทางการแพทย์ในกรณีการใช้สิทธิรักษาพยาบาลในภาวะปกติไม่ได้
นอกจากนี้ยังพบปัญหาในเรื่องการใช้สิทธิการรักษาพยาบาลในภาวะเร่งด่วน
(กรณีฉุกเฉิน) ที่เกินสิทธิ คือ เกินกว่า 2
ครั้งต่อปี
ทำให้เกิดอุปสรรคในการประสานงานที่มีหลายขั้นตอน
เกิดความล่าช้าจนส่งผลต่อภาวะสุขภาพหรือภาวะของโรคที่รุนแรงขึ้น
กลุ่มงานสังคมสงเคราะห์จึงได้เพิ่มศักยภาพในการดูแลคุ้มครองสิทธิการรักษาพยาบาลผู้ป่วยยาเสพติดคุมประพฤติ
โดยจัดทำโครงการ “
การขอเปลี่ยนหน่วยบริการในการเข้ารับการรักษาภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
”
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยได้รับบริการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องในการคุ้มครองสิทธิการรักษาพยาบาล
ณ
หน่วยบริการที่ตั้งอยู่ในเขตใกล้เคียงกับสถาบันธัญญารักษ์
โดยให้เห็นถึงประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับคือ
1.
ผู้ป่วยสามารถได้รับบริการขั้นพื้นฐานทางการแพทย์
ที่ได้รับความคุ้มครองตามสิทธิทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินได้
2.
ผู้ป่วยจะได้รับการอำนวยความสะดวกในการรับบริการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
สะดวก รวดเร็ว และทันเวลา
3. ผู้ป่วยได้รับบริการกิจกรรมทางการแพทย์
โดยประหยัดค่าใช้จ่าย
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความประสงค์จะขอเปลี่ยนหน่วยบริการในการเข้ารับการรักษาพยาบาลภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ผู้ป่วยสามารถดำเนินการได้ ดังนี้
1. แจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ประจำตึกผู้ป่วย
2. เขียนใบสมัครพร้อมหลักฐาน ตามรายการต่อไปนี้
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ป่วย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วย
(ในกรณีที่ไม่สามารถหาเอกสารดังกล่าวได้ กลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ จะประสานกับเทศบาลตำบลประชาธิปัตย์ เพื่อขอคัดสำเนาหลักฐานของผู้ป่วยมาประกอบการขอเปลี่ยนหน่วยบริการฯ ) ผู้ป่วยส่งเอกสารมาที่กลุ่มงานสังคมสงเคราะห์
3. เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ดำเนินการขอเปลี่ยนหน่วยบริการฯโดยไปขึ้นทะเบียนที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นหน่วยบริการใกล้เคียงกับสถาบันธัญญารักษ์ และประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนในกรณีที่ผู้ป่วยมีความประสงค์จะย้ายสิทธิกลับก็สามารถติดต่อได้ที่ รพ. ของรัฐที่ผู้ป่วยเคยมีสิทธิเดิมอยู่ก่อนผู้ป่วยก็จะสามารถได้รับการดูแลด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ภายหลังที่ผู้ป่วยกลับไปอยู่ที่ภูมิลำเนาของตนเอง
จากการทำโครงการ การขอเปลี่ยนหน่วยบริการในการเข้ารับการรักษาภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านี้ สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยได้รับบริการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง สะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถได้รับการคุ้มครองตามสิทธิ์ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินได้
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Anonymous Anonymous ใน สังคมสงเคราะห์
คำสำคัญ (Tags)#uncategorized
หมายเลขบันทึก: 23542, เขียน: 11 Apr 2006 @ 11:30 (), แก้ไข: 29 May 2012 @ 18:12 (), สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ, ความเห็น: 2, อ่าน: คลิก
กรณีผู้ป่วยคุมประพฤติ น่าจะกำหนดเป็นนโยบายร่วมกันของ ทั้ง Fast และบำบัดด้วยยาที่ผู้ป่วย
ควรต้องดำเนินการย้ายหน่วยบริการบัตรทอง เพื่อป้องกันปัญหาการในการ Refer เมื่อมีโรคแทรกซ้อน ทุกราย
หรือถ้ากำหนดเป็นนโยบายไปแล้วช่วยบอกด้วยนะครับ