ตอนผมอยู่ที่งานเสวนา UKM 2/2549 วันที่ 7 เมษายน 2549 เวลา 15.30 น. เป็นเวลาที่เสร็จสิ้นการเสวนาแล้ว หลายคนกลับไปที่พักเพื่อเตรียมไปเที่ยวในเมืองกัน อ.ดร.จันทวรรณ ยังมีเรื่องคุยกับหลายท่านอยู่
ส่วนผมมีเหตุที่จะต้องกลับพิษณุโลก ขึ้นเครื่องเวลา 17.45 น. แต่จะต้องไปถึงสนามบินหาดใหญ่เวลา 17.15 น.
ระหว่างที่ผมกำลังรอเวลาให้ทางเจ้าภาพไปส่งที่สนาบบินก่อน 5 โมงเย็น ก็ได้ไปนั่งเช็คบันทึกใน GotoKnow อยู่ พอท่านอาจารย์จันทวรรณทราบว่าผมต้องรีบกลับพิษณุโลก ก็ถามในทำนองว่า "อยากไปเที่ยวมอ.ไหม อาจารย์จะพาไป เพราะอาจารย์ต้องกลับไปอยู่แล้ว มีสอน 6 โมงเย็น ชวนอาจารย์มาลินีและอาจารย์หนึ่งไปด้วย"
ผมอยากไปเที่ยวมอ.อยู่แล้ว เพราะหลายครั้งที่มาหาดใหญ่ ไม่เคยได้ไปเที่ยวมอ.สักที ผมขอเวลาไปเตรียมสัมภาระ และตกลง-ต่อรองกับเจ้าภาพเรื่องรถไปส่งสนามบิน ระหว่างนั้นก็ได้ติดต่ออาจารย์จากมน.2 ท่าน ปรากฏว่าท่านอาจารย์มาลินีไม่เปิดมือถือ ส่วนอาจารย์หนึ่งโทรกลับมาและขอร่วมทางไปด้วย
เรามีเวลา 1 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 16.00 น.-17.00 น. อาจารย์จันทวรรณจอดรถไว้ไกลจากโรงแรมที่พักประมาณ 100 กว่าเมตร เรา 3 คน (อ.จันทวรรณ,อ.หนึ่ง และผม) เดินเท้าไปขึ้นรถของอาจารย์จันทวรรณที่จอดไว้กลางแจ้ง ใช้เวลาปรับตัวกับความร้อนพอสมควร กว่าจะเดินทางเข้าไปในมอ.ได้ เวลาผ่านไป 20 นาทีแล้ว แต่ก็ไม่ผิดหวังกับบรรยากาศสวยๆ ภายในมหาวิทยาลัยอันมีเนื้อที่มากกว่า 1,600 ไร่ (แอบถามเรื่องพื้นที่จากพนักงานขับรถมอ.)
ระหว่างทางก่อนเข้ามอ. ท่านอาจารย์จันทวรรณ ก็ทำตัวเป็นไกด์ บรรยายเรื่องร้านอาหารในเมือง ว่ามีร้านไหนอร่อยบ้าง (ท่าทางอาจารย์จะเป็นนักชิมตัวยง) และได้เล่าอุปนิสัยส่วนตัวว่าชอบถ่ายภาพอยู่เหมือนกัน (ทั้ง 3 ท่านเป็นคนคอเดียวกันคือชอบถ่ายภาพคนอื่น)
ต่อไปก็ขอเล่าด้วยภาพที่ถ่ายมาได้ก็แล้วกันครับ
ภาพชุดแรก : หมายเลข ๑ ผมซึ่งนั่งอยู่ทางด้านหลังถ่ายภาพจากในรถออกไปนอกรถ ขณะที่อาจารย์จันทวรรณขับรถไปก็บรรยายสถานที่ผ่านไป, หมายเลข 2,3,4 ผลัดกันถ่ายภาพ โดยใช้ background เป็นอ่างเก็บน้ำ ที่มีตึกก่อสร้างใหม่ (ถ่ายภาพย้อนแสงไปหน่อย หน้าเลยมืดทุกคน) |
ภาพชุดสอง : วิวรอบอ่างเก็บน้ำ หมายเลข ๑ กับ ๒ แสดงให้เห็นอาคารรวงผึ้ง ส่วนหมายเลข ๓ และ ๔ ก็เป็นบรรยากาศรอบอ่างน้ำเหมือนกัน |
ขากลับเวลา 17.15 น. ท่านอาจารย์จันทวรรณก็มาส่งอ.หนึ่งกับผมหน้า วจก.(คณะวิทยาการ การจัดการ) ซึ่งมีรถจากทางมอ.มารับไปส่งที่สนามบินทันเวลาขึ้นเครื่องพอดี ขอขอบคุณพขร.และทีมผู้ประสานงานของมอ.ครับ :)
มอ. น่าอยู่นะคะ แต่สงสัย มน. จะน่าอยู่กว่า เพราะเพิ่งอ่านจากข่าวในประชาชาติธุรกิจเมื่อวานว่า ผลการสำรวจบอกว่า มน. เป็นมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดที่มีคนอยากเข้าเรียนมากที่สุดคะ
โธ่! น่าเสียดายจริงๆ สงสัยดิฉันปิดมือถือตอนประชุม พอเลิกประชุมก็ลืมเปิดไว้ น่าเสียดาย น่าเสียดาย แต่คิดอีกทีก็โชคดีที่ไม่ได้ไปด้วย เพราะวันนั้นทั้งวัน ท่านอาจารย์เทียมจันทร์ คู่หู คู่นอนของดิฉัน ไม่สบายทั้งวัน เนื่องจากโรคไมเกรน ปวดศีรษะตั้งแต่เช้า บอกให้นอน ไม่ต้องเป็นห่วง ท่านก็ยังสู่อุตสาห์ฝืนลงจากที่นอนช่วงใกล้ตอนที่ดิฉันนำเสนอ เพื่อมาเป็นกำลังใจ และแล้วก็ทนไม่ไหว ต้องกลับไปนอนต่อ ช่วงเย็นหลังประชุมแล้ว ดิฉันอยู่เป็นเพื่อนได้พักใหญ่ในห้องพัก ก็มีข่าวร้ายโทรเข้ามาที่มือถือของอาจารย์อีก บอกว่าบ้านที่พิษณุโลกโดนขโมยงัด รื้อข้าวของกระจุยกระจายหมดเลย ดังนั้น ระหว่างที่ท่านอาจารย์ทั้ง 3 ท่าน กำลังชื่นชมธรรมชาติยามเย็นที่ มอ. อยู่นั้น อาจารย์เทียมจันทร์และดิฉันก็มัวรีบจัดแจงเรื่องตั๋วเครื่องบิน เพื่อหาทางให้อาจารย์เทียมจันทร์ได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด ซึ่งในที่สุด ก็ได้เที่ยวบินตามหลังอาจารย์สมลักษณ์ไปเพียงชั่วโมงเดียว นี่แหละค่ะ เรื่องของเรื่อง มันเป็นอย่างนี้
ดิฉันจะรอ ทั้งท่านอาจารย์จันทวรรณและอาจารย์ธวัชชัย ที่ มน. อีกไม่นานคงได้พบกันนะค่ะ คราวนี้ไม่ยอมพลาดแน่ๆ
ของสูญหายไปเยอะไหมคะอาจารย์ โบราณเขาบอกว่า ฟาดเคราะห์ นะคะ ส่วนดิฉันและอ.ธวัชชัย จะไปเยี่ยม มน. แน่ๆ คะ ตอนนี้กำลังเร่งพัฒนาเวอร์ชันสองอย่างเต็มที่คะ
ขอบคุณท่านอาจารย์มาลินีครับ