64.เล่าด้วยภาพ ไม้กลายเป็นหินที่ฉันเห็น .เกิด.. เปลี่ยนแปลงและดับไป
หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ฯ บ้านตาก จังหวัดตากกรุณาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และเป็นกันเอง ได้พาเราเข้าชม และเป็นไกด์แนะนำพวกเราได้อย่างสนุกเพลิดเพลิน ท่านได้กรุณาเล่าถึงการค้นพบ กรรมวิธีการขุด การรักษา ปัญหา แนวคิดการดำเนินงาน แผนการในการพัฒนา รวมทั้งการบริหารการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ย้อนดูวันวาน อย่างมีความหมาย เมื่อฉันและครอบครัว
ท่องไปในโลกกว้างที่ภาคเหนือของประเทศไทย
มีสิ่งมหัศจรรย์ที่เราพบหลายอย่าง อันนำไปสู๋การศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นสมองทั้งซ้ายและขวาให้ทำงานอย่างมีสมรรถภาพ อย่างต่อเนื่อง และเพื่อประเทืองปัญญา ในวัยที่ไม้บานเต็มที่รอวันเปลี่ยนแปลง
ฉันและครอบครัวได้เข้าชมสิ่งที่ฉันคิดว่ามันเป็นประโยขน์ ที่จะนำไปถ่ายทอด และกระต้นให้เด็กน้อยๆ เกิดสำนึกรักบ้านเกิด รักธรรมชาติ เรียนรู้กฏการเปลี่ยนแปลง การอยู๋ร่วมกัน อย่างมีความสุข อีกประการหนึ่งฉันมีความเห็นว่า หากต้องการเรียนรู้เรื่องใดก็ตาม เราต้องศึกษา เรียนรู้ สัมผัสด้วยตัวเราเอง จึงจะเป็นสุขที่รู้ และยังสามารถนำความรู้ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนได้ตรงตามข้อเท็จจริง
ในหนังสือสุขภาวะองค์รวมแนวพุทธ ภาวะที่ปลอดทุกข์และเป็นสุข ในระบบชีวิตแห่งธรรมชาติ และสังคม ไอที ที่บรรยายโดยพระพรหมคุณาภรณ์ ( ป.อ. ปยุตโต) ฉันพบบทความหนึ่งที่ตัดตอนมาจากหนังสือ ความสุขที่สมบูรณ์ : ธรรมกถาของ พระธรรมปิฏก (ป.อ.ปยุตโต) ในข้อที่ 2 ท่านกล่าวว่า ไม่ละทิ้งสุขที่ชอบธรรม
และได้กล่าวถึงสุขมีหลายระดับคือ
1.สุขแบบแย่งกัน
2.สุขแบบไปด้วยกัน หรือสุขแบบประสาน
3.สุขแบบอิสระ
ซึ่งฉันได้น้อมนำมาพิจารณาตามที่ท่านได้อธิบายไว้ และฉันได้ถอดบทเรียนตามความเห็นส่วนตัวดังนี้
1. สุขแบบแย่งกัน เธอได้เธอสุข แต่ฉันทุกข์ เพราะฉันแย่งไมได้ ฉันได้เธอทุกข์ เธอแย่งไม่ได้ ของหมดก่อน ซื้อไม่ทัน เหมือนไปเที่ยวครั้งนี้เลย เป็นสุข ที่แย่งกันเที่ยว แต่ฉันและครอบครัวก็พยายามเลี่ยง เพราะฉันเป็นโรคแพ้ที่ๆมีคนแน่นๆ เวลาเธอได้ที่พัก ฉันไม่ได้ ก็ทุกข์ ฉันได้ที่พักฉันดีใจเป็นสุข แต่เธอเป็นทุกข์ทุกข์ เข้าห้องน้ำก็แย่งกัน เพราะต่างคนต่างปวด แย่งกันซื้อของลดราคา ของมีโปรโมชั่น อาหารอร่อยก็แย่งกันจองคิว มักพบเห็นตามห้างดัง สุขนี้ เป็นสุขที่เกิดขึ้นแล้วมักตามมาด้วยปัญหา เพราะไม่เอื้อต่อกัน ทำให้อยู่ในสังคมได้อย่างลำบากใจ เป็นความสุขแบบเอาอย่างเดียว
2.สุขแบบไปด้วยกัน เธอทำได้..ฉันสุข ฉันทำได้..เธอสุข เป็นความสุขที่พัฒนาจากจิตใจ เธอสอนให้ฉันเก่ง เธอมีความสุข ฉันเก่งตามที่ใจต้องการฉันก็มีความสุข เป็นบุญที่ได้เจอกัน รู้จักกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีความสงบ ร่มเย็น สังคมมีสุข เป็นความสุขที่เกิดจากความรัก ความเมตตา อยากให้ อยากช่วย แล้วพัฒฯมาเป็นความสุขแบบอิสระ
3.สุขแบบอิสระ พระพุทธเจ้าสอนว่าเรามีความสุขตามชอบธรรมแล้ว ไม่ต้องละทิ้งสุข แต่ให้พัฒนา เป็นความสุขจากคุณธรรม ไม่ประมาท ให้รูเท่าทันสังขาร รู้เท่าทัน อนิจจังสังขารไม่เที่ยง มีเกิด มีดับ แม้มีทุกข์ก็ไม่สามารถมาทำอะไรจิตใจเราให้เจ๊บปวด ไม่มาบีบคั้นเรา เราจึงเป็นอิสระจากความรู้สึกนั้นๆ
ฉันเลอะเทอะนอกประเด็นหลักไปแล้ว เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันก็เลยไป
ความหมายของคำว่า "ไม้กลายเป็นหิน " และ "Petrified "
คำว่า "ไม้กลายเป็นหิน" ตามพจนานุกรมศัพท์ธรณีวิทยา ไม่ได้บัญญัติมาจากคำ ศัพท์กลาง ๆ จาก "Petrified Wood" แต่มาจากคำศัพท์ค่อนข้างจำเพาะ คือ "Silicified Wood" ซึ่งหมายถึง ไม้กลายเป็นหินที่เกิดจากสารละลายซิลิกาเข้าไปแทนที่เนื้อไม้อย่างช้า ๆ คือ แทนที่โมเลกุลต่อโมเลกุล จนกระทั่งแทนที่ทั้งหมด โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและโครงสร้าง ปกติ ซิลิกาในเนื้อไม้นี้จะอยู่ในรูปของโอปอหรือคาลซิโดนี (Chalcedony) (คณะอนุกรรมการจัดทำพจนานุกรมธรณีวิทยา, 2530) เห็นได้ว่า ความหมายข้างต้นน่าจะเป็นความหมายของคำว่า " ไม้กลายเป็นหินเนื้อซิลิกา" ดังนั้น คำว่า "ไม้กลายเป็นหิน" จึงน่าจะมาจากศัพท์ "Petrified Wood" หรือ "Wood Stone" มากกว่า เนื่องจากเป็นคำกลาง ๆ ที่ไม่ระบุชนิดของสารละลายที่เข้าไปแทนที่ในเนื้อไม้ เพราะในสภาพที่เป็นจริงจะพบสารละลายได้หลายชนิด เช่น สารละลายของเหล็ก และ / หรือแมงกานีสไฮดรอกไซด์ สารละลายแคลเซียมไบคาร์บอเนต (ปูน) เป็นต้น ยกเว้นกรณีที่ต้องการเน้นชนิดของสารประกอบหรือแร่ส่วนใหญ่ จึงอาจใช้คำว่า "Silicified Wood, Agatized Wood, Opalized Wood, Calcified Wood" เป็นต้น
คำว่า Petro - และ Petr- เป็นภาษากรีก หมายถึง หิน (Stone หรือ Rock) ดังนั้น Petrified โดยรูปคำศัพท์ จึงหมายถึง "turned into stone" และความหมายในทางธรณีวิทยา หมายถึง "To convert organic material such as wood or bone into stone" (Stokes,1966) ดังนั้น คำว่า "Petrified" จึงหมายถึงการกลายสภาพของวัตถุอินทรีย์ เช่น ไม้ หรือ กระดูกไปเป็นหิน
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลความหมายจาก คุณประเทือง จินตสกุล
สถาบันวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา
. 
ความเห็น (21)
น่าทึ่งมากนะคะ ไม้กลายเป็นหิน
สุขไปด้วยกันดีกว่านะคะ โลกเราจะได้น่าอยู่ค่ะ
ไม้ กลายเป็น หิน ได้ฉันใด "ใจ" ก็ฉันนั้น
จากคน "ใจไม้ไส้ระกำ" กลายเป็น "คนใจหิน"
(คนละเรื่องเดียวกันเลยนะครับ 555...)
เป็นเรื่องน่าศึกษา และน่าคิดค่ะ ใช้เลยค่ะ
สุขไปด้วยกันกับgotoknow เค้าคิดได้ไงไม่รู้นะคะ
พี่ครูต้อยลองท่องเว๊บอื่นๆ ยังไม่สุขไปด้วยกันดั่งเว็บนี้เลยคะ
ต้องขอบคุณเค้านะคะ ที่ทำให้สังคมนี้ขับเคลื่อนไปด้วยการแบ่งปัน
เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
ยังมีอีกระบบคืออาราโอเกะ แต่ก็ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง
โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก แต่เราก็ไม่อาจเรียนรู้ได้หมด
gotoknowก็เหมือนจะช่วยร่นระยะทางให้ได้มากทีเดียว
เป็นกังวลอย่ว่า ตายแล้ว เกิดใหม่ต้องมาเรียนก.ไก่ ข.ไข่ กันใหม่
555+
สวัสดีค่ะ น้องsmallman
รูปนี้รับปีใหม่นะคะ ชิ่วๆเลยค่ะ
สบายๆ สดใส และเท่ห์ไปอีกแบบ
แล้วคนใจหินกลายเป็นธุลีมั่งได้ไหมเอ่ย
น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน.....อิอิ
เรียนน้องsmallman
เอาสิงโตมาฝาก 5+
สวัสดีค่ะ
*เคยเห็นต้นใหญ่ๆ ยาว เหมือนกันแต่ไม่ที่สุดในโลก..นับถือๆๆๆ
* ขอบคุณค่ะที่นำมาฝาก
* ให้สุขกายสุขใจนะคะ
เห็นแล้ว ก็ขอให้มีความสุข ที่สุดในโลกเช่นกันนะคะ
หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ ที่ได้มีโอกาสรู้จักท่านสุขแบบนี้ค่ะ ที่เราเห็นเป็นทางหินเหมือนใครมาจับเรียงรายนั่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาตินะคะ คุณน้ำเขาพัดพามาจากภูเขาข้างหลังค่ะ บางครั้งภัยธรรมชาติก็สร้างสรรค์ความงาม และชำระจิตใจมนุษย์เรานะคะ
ผมเพิ่งไปตากเหมือนกันแต่เสียดายไม่ได้ไปดูต้นไม้กลายเป็นหิน ผ่านไปไหว้หลวงพ่อทันใจ แล้วมุ่งตรงไปเชียงใหม่ เชียงราย ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่เผยแพร่ขอให้krutoi มีความสุขปีใหม่ และตลอดไปครับ
- สวัสดีค่ะคุณครูต้อย คิดถึงมากมาย ไม่ได้คุยกันเลยค่ะ
- ที่บ้านตากยังมีต้นไม้ต้นไหญ่ๆ ขนาดหลายคนโอบ น้องดาวเคยไปเมื่อตอนเด็กๆ ไม่รู้ยังมีอยู่ไหมค่ะ หรือจะกลายเป็นหินไปด้วยแล้วนะคะ
นั่นนะ ใช่เลยน้องดาว พี่ก็ไปตามดู เพราะเคยเห็นภาพถ่ายของพ่อตอนพ่อยังหนุ่มๆ ไปกับเพื่อนๆที่ทำงาน แต่พี่ก็ยังหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าจะไปถามใครเหมือนกัน ที่บ้านตากยังมีต้นไม้ใหญ่ๆอยู่นะคะ แต่ใหญ่ขนาดหลายตนโอบพี่ยังไม่เห็นเหมือนกัน คงอยู่ในป่าลึก ไปกราบนมัสการพระธาตุที่บ้านตากมาด้วยค่ะ
ซ้ายมือยังมีรูปองค์หลวงพ่อทันใจ ประดิษฐานให้ได้กราบไหว้ บูชา ขอพรอีกค่ะ พี่ได้ไปเดินเวียนเทียนรอบๆ องค์พระธาตุ
ทุกครั้งที่มีโอกาสไปกราบไหว้องค์พระเจดีย์ หรือองค์พระธาตุ พี่ก็จะถือโอกาสเดินเวียนเทียน ทำสมาธิ 3 รอบ ทุกที่ค่ะ ขอให้น้องดาวรับพร รับกุศลนี้ด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะ
- ขอให้มีความสุขกับการทำงาน
- วันราชการ..วันแรก..แห่งปีค่ะ
- ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
สวัสดีครับ krutoi มหาอ่านแล้วมีประโยชน์ดี และยังว่า มหา โชคดีที่นับถือพุทธศาสนา เพราะเป็นศาสนาที่เป็นประชาติปตรัยไม่บังคับปฏิบัติดีก็ได้บุญ ไม่ปฏิบัติก็ได้
- สวัสดีปีใหม่คะ
- พิมจัง เจ้าคะ
ขอบคุณค่ะ สนุกในวันปีใหม่ สอนแบบใหม่ อิอิ
พุทธศาสนาของเราเป็นธรรมชาติ ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
คำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่บังคับใคร ไม่กำหนดเวลา ต้องเรียนรู้เอง
อยากรู้มากก็เรียนมาก ปฏิบัติมาก ดูพระสงฆ์ของเราเป็นตัวอย่างครูต้อยชอบมากท่านปฏฺบัติธรรมแล้วยังเผยแผ่ ชี้นำทางให้เราได้เรียนรู้ปฏิบัติตามที่ท่านพบ สาธุ อนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณน้องพิมจังค่ะ รูปน่ารักมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ krutoi ขอบคุณมากนะค๊ะที่แวะไปทักทาย
- ต้นไม้ใหญ่ในบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาดหมอกยังคงมีเหลืออยู่หลายต้นค่ะ ส่วนต้นที่เห็นอยู่คือต้นพระเจ้าห้าพระองค์ เป็นไม้เด่นของที่นี่ พบอยู่บริเวณปากทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกตาดหมอก ค่ะ
- ได้อ่านเรื่องไม้กลายเป็นหิน และความสุขที่สมบูรณ์ ซึ่งได้กล่าวถืงสุข 3 ระดับแล้ว อยากให้โลกเรามีสุขแบบที่ 2 และ 3 เยอะๆ จังค่ะ
น้องฐิติพรคะ
ภาพต้นไม้ใหญ่ที่ถ่ายมาฝาก ต้นใหญ่นะคะ
เห็นแล้วประทับใจไม้ใหญ่ที่บ้านตากหมอก
น่าทึ่งจริงๆ มีภาพเอามาลงอีกนะคะ
ขอบคุณค่ะ
พี่ไปดูมาแล้วค่ะ ยินดีด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ
ตามมาอ่าน "ไม้กลายเป็นหิน"
แต่...อย่าให้ใจคนกลายเป็นหิน...นะคะ
มาชวนไปอ่านนิทานกล่อมฝัน บันทึกของปลายฟ้าด้วยค่ะ
จะได้นอนฝันดีค่ะ
http://gotoknow.org/blog/childendream
ขอบคุณค่ะ
จะตามไปเดี๋ยวนี้ค่ะ ครูต้อยคนใจอ่อน อิอิ