ชาติหน้ามีหรือไม่ ? (ปายาสิราชัญญสูตร) ๔
ในครั้งก่อนนั้น (คลิกที่นี้) เจ้าปายาสิตรัสว่า ท้าวเธอเคยรับสั่งต่อบรรดาญาติมิตรซึ่งประพฤติอกุศลกรรมบถ (หรือทำชั่ว) ที่ใกล้จะตายว่าให้กลับมาบอกถึงสถานที่เกิดในโลกหน้าหรือช่วยส่งข่าวมาให้ทราบ แต่ก็ยังไม่มีใครกลับมาบอกหรือส่งข่าวมาบอกเลย ดังนั้น พระองค์จึงไม่เชื่อว่าโลกหน้ามีจริง... พระกุมารกัสสปทูลแก้ต่างโดยเปรียบเทียบว่านักโทษที่กำลังถูกประหารไม่อาจต่อรองเพื่อกลับมาบอกญาติมิตรฉันใด ญาติมิตรของเจ้าปายาสิก็ฉันนั้น เมื่อกำลังตกนรกเสวยกรรมกรณ์อยู่ก็ไม่อาจต่อรองกับนายนิรยบาลเพื่อกลับมาบอกท้าวเธอได้...
อย่างไรก็ตาม เจ้าปายาสิยังไม่เปลี่ยนความคิดเห็น จึงตรัสถึงเรื่องที่พระองค์เคยพิสูจน์มาแล้วว่า...
- ข้าแต่ท่านกัสสป ! ญาติสนิทมิตรสหายของเกล้าในโลกนี้ ที่งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม งดเว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ไม่มากไปด้วยความเพ่งเล็ง ไม่คิดปองร้าย มีความเห็นชอบ ก็มีอยู่...
- เมื่อคนเหล่านี้ป่วยหนักใกล้ตาย เกล้าได้เข้าไปแล้วพูดกะพวกเขาว่า มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง เที่ยวสอนว่า คนที่ประพฤติดังเช่นพวกท่าน กายแตกตายไปแล้วจะเข้าถึงสุคติ บังเกิดในโลกสวรรค์ ถ้าคำสอนของสมณพรหมณ์พวกนั้นเป็นจริงแล้ว เมื่อท่านตายไปเข้าถึงสุคติบังเกิดในโลกสวรรค์ ขอจงกลับมาบอก หรือช่วยส่งข่าวมาให้เราได้รับทราบ เพื่อที่เราจะได้เชื่อว่า โลกหน้ามีจริง สัตว์ที่ผุดเกิดมีจริง ผลกรรมดีชั่วมีจริง...
- ข้าแต่ท่านกัสสป ! คนเหล่านั้นรับคำของเกล้าแล้ว แต่ยังไม่เคยมีใครกลับมาบอก หรือแม้ส่งข่าวมาให้ได้รับทราบเลย ดังนั้น เกล้าจึงเชื่อว่า โลกหน้าไม่มี สัตว์ที่ผุดเกิดไม่มี ผลกรรมดีชั่วก็ไม่มี
ข้อพิสูจน์นี้ ต่างออกไปจากครั้งก่อน กล่าวคือ เจ้าปายาสิได้รับสั่งให้ญาติมิตรที่ประพฤติกุศลกรรมบถ (หรือทำดี) ที่ใกล้ตายให้กลับมาบอกหรือส่งข่าวให้ได้รับทราบ และเมื่อไม่เคยมีใครกลับมาหรือส่งข่าวมา ดังนั้น ท้าวเธอจึงยืนยันถึงความไม่เชื่อถึงโลกหน้าหรือชาติหน้าว่าจะมีจริง...
พระกุมารกัสสป จึงได้เปรียบเทียบให้ท้าวเธอเข้าใจโดยทำนองว่า...
- ดูกรบพิตร ! อาตมาจะเปรียบเทียบเพื่อความเข้าใจเรื่องนี้ นั่นคือมีบุรุษที่จมลงไปในหลุมคูถสกปรกจนท่วมศรีษะ พระองค์มีรับสั่งให้ช่วยบุรุษนั้นขึ้นมาจากหลุมได้ แล้วให้เอาซี่ไม้ไผ่ขูดคูถออกจากร่างกายของบุรุษนั้นจนเกลี้ยงเกลา แล้วให้เอาดินสีเหลืองขัดสีกายของเขาอีกสามครั้ง ต่อจากนั้นก็เอาน้ำมันชะโลมร่างกายของเขาก่อนที่จะลูบไล้ด้วยแป้งหอมชั้นเลิศให้สวยสุดผุดผ่องอีกสามครั้ง...
- ต่อจากนั้น พระองค์ก็รับสั่งให้ตัดผมปลงหนวดของเขา แล้วก็นำเอาพวงดอกไม้พร้อมทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องประดับอันเลอค่าให้เขาได้ตกแต่งสวมใส่ ก่อนที่จะนำเขาขึ้นสู่ประสาท แล้วบำรุงด้วยกามคุณห้า...
- ดูกรบพิตร ! เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว บุรุษนั้นจะยินดีกลับลงไปในหลุมคูถอันแสนสกปรกอีกหรือไม่ ?
เจ้าปายาสิ...
- บุรุษนั้นย่อมไม่ยินดีจะลงไปในหลุมคูถอันสกปรก ไม่สะอาด มีกลิ่นหมิ่น อีกครั้งอย่างแน่นอน
พระกุมารกัสสป...
- ฉันนั้นนั่นเทียว ! พวกมนุษย์เป็นผู้ไม่สะอาด มีกลิ่นหมิ่น น่าเกลียด เป็นสิ่งปฏิกูลสำหรับพวกเทวดาไกลไปถึงร้อยโยชน์ บรรดาญาติสนิทมิตรสหายของพระองค์ เมื่อตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดาในโลกสวรรค์ด้วยผลแห่งกรรมดีแล้ว จะกลับมาเพื่อทูลให้พระองค์ได้รับทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร
สรุปว่า พระกุมารกัสสปแก้ข้อพิสูจน์เรื่องคนทำดีไปเกิดในโลกสวรรค์แล้วไม่กลับมาบอก เพราะโลกมนุษย์เป็นเหมือนหลุมคูถอันสกปรก ซึ่งผู้ที่ขึ้นไปได้แล้ว ไม่ยินดีจะหวลกลับตกลงไปอีกครั้ง...
ฝ่ายเจ้าปายาสิ ยังมีความเห็นว่าโลกหน้า เทวดา หรือผลกรรมดีชั่วนั้นไม่มีจริง และมีเรื่องมายืนยันความเชื่อความเห็นของท้าวเธอ ซึ่งผู้เขียนจะนำมาเล่าในตอนต่อไป....
ความเห็น (4)
นมัสการครับ มาอ่าน เรื่องราวดีด้วยครับ
นมัสการค่ะพระอาจารย์
มาอ่านสาระดีๆที่มีมาฝากค่ะ
