ดีใจด้วยคุณเทียนน้อยคิดที่นำความรู้ที่ได้รับมาใช้กับเด็กเสียที เพราะส่วนใหญ่ก็จะพบว่าครูไปเข้ารับการอบรมไม่ค่อยมั่นใจที่จะนำความรู้มาใช้กับเด็กเท่าไร อาจจะกลัวผิดพลาด ไม่เป็นไรหรอกค่ะ (เพราะผิดเป็นครู) พูดถึงการออกแบบการเรียนรู้แบบ Backward Design ได้มีโอกาสได้ฟัง Wiggin พูดถึงการออกแบบการเรียนรู้ที่เข้าใจได้ง่ายทีเดียว เขายกตัวอย่างการสอนขับรถยนต์ เริ่มแรกการตั้งเป้าหมาย เราทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เป้าหมายคือการให้ผู้เรียนขับรถเป็น แต่เป้าหมายของ Wiggin คือการให้ผู้เรียนขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นการที่ผู้เรียนขับรถยนต์ได้ สอบใบขับขี่ได้ ไม่ได้บรรลุถึงเป้าหมายในการสอนขับรถยนต์ เป็นเพียงขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ผู้เรียนต้องฝึกปฏิบัติจริงจนชำนาญในการขับขี่จึงจะขับขี่ได้อย่างปลอดภัย จะเห็นการตั้งเป้าหมายที่เรามุ่งหวังให้นักเรียนเกิดความเข้าใจที่คงทนของ Wiggin ว่าสามารถเจาะลึกไปถึงภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้ทะเลลึกได้ ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าครูเรามองเป้าหมายในการจัดการเรียนการสอนได้ไม่ลึกซึ้งเท่าที่หลักสูตรต้องการ เป็นเพราะเราไม่เคยชินต่อการกำหนดเป้าหมายด้วยตนเอง Wiggin บอกว่า เริ่มต้นครูต้องเป็นผู้ทำให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง แล้วให้เด็กฝึกปฏิบัติ ขณะที่เด็กฝึกปฏิบัติครูจะเป็นผู้คอยดูแล ให้ความช่วยเหลืออยู่ห่าง ๆ (เป็นผู้อำนวยการให้เกิดการเรียนรู้) ครูจึงเป็นเหมือนนั่งร้านที่ใช้ในการก่อสร้าง เมื่อเด็กเริ่มทำได้แล้ว ครูจะต้องรื้อนั่งร้านออก และเป็นผู้ยืนดูให้เด็กปฏิบัติได้เองอย่างเต็มตัวจนชำนาญ Wiggin ได้สรุปขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้ง่าย ๆ 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1. I do , you see 2. You do , I help 3. You do , I see หวังว่าคุณเทียนน้อยคงได้แนวคิดในการออกแบบการเรียนรู้บ้างนะคะ แล้วได้ผลอย่างไรเขียนมาแลกเปลี่ยนก้นบ้างนะคะ
สวัสดีคะ ศน.เอื้องใบไผ่
ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะนะคะ
หนูจะไปใช้ดูค่ะ แต่ก่อนอื่นคงต้องเขียนแผน
การจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ Backward Design เสียก่อน
จำได้ว่า อาจารย์เคยนำมาเสนอและให้เรียนรู้ค่ะ จะพยายามนะคะ
มี 3 ขั้นตอน
1. I do , you see
2. You do , I help
3. You do , I see
ขอบคุณค่ะ