ประวัติพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์
เป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดที่ได้มีการก่อตั้งก่อนที่จะมีพระราช
บัญญัติพรรคการเมืองโดยก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 โดยมี
นายควง อภัยวงศ์ เป็น หัวหน้าพรรคคนแรกและ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
เป็นเลขาธิการพรรคคนแรก ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่
ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการต่อสู้ทางการเมืองใน
ระบอบประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่องซึ่งพอจะจำแนกออกได้เป็น 4 ยุค
กล่าวคือ
ยุคที่หนึ่ง (2489-2501) : ยุคแห่งการสร้างพรรค
และสร้างประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ ในระยะต้นสภาพการเ
มืองของประเทศไทยมีความผันผวนเนื่องจากอยู่ใน ระหว่าง การเริ่มต้น
การดำเนินงานทางการเมืองอยู่ในวงแคบพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการดำเนินการ
ทางการเมืองที่ สำคัญสรุปได้ดังนี้ *
ปฏิบัติหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านรัฐบาลนายปรีดี พนมยงค์
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐบาลรับเชิญของคณะรัฐประหาร พ.ศ 2490
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านรัฐบาลแห่งกลุ่มจอมพล สฤษดิ์
ธนะรัชต์
ระหว่างปี 2501-2511
บทบาททางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ได้หยุดชั่วคราว เมื่อ
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำการยึดอำนาจการปกครอง
และเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จในปี 2501
ยุคที่สอง (2511-2519) : ยุคแห่งการฟื้นฟูพรรค
และเชิดชูประชาธิปไตย
ภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2511
ทางพรรคฯได้มีการ ดำเนินการทางการเมืองที่สำคัญดังนี้
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านรัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจร
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2518
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นฝ่ายค้านรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2519
ยุคที่สาม (2522-2533) : ยุคแห่งการปรับปรุงนโยบาย
และเข้ามีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมือง ในปี พ.ศ. 2521
ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ และจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 22
เมษายน 2522
นับเป็นการเข้าสู่ยุคที่สามทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งทางพรรคฯ ได้มีการดำเนินการทางการเมืองที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านรัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์
ชมะนันท์
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ (1, 2, 3,
4, 5)
* ปฏิบัติหน้าที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ
ยุคที่สี่ (ปลายปี 2533-ปัจจุบัน)
:ยุคแห่งการเป็นรัฐบาลของประชาชนและฝ่ายค้านที่มี ประสิทธิภาพ
ในวันที่ 12 ธันวาคม 2533
พรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรค
ร่วมรัฐบาลพลเอกชาติชายชุณหะวัณซึ่งหลังจากนั้นได้เกิดผันแปรทางการเมืองอย่างรุนแรงนำ
มาถึงเหตุการณ์ยึดอำนาจของ“คณะ รสช.” และเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ”
ในที่สุด
ท่ามกลางวิกฤติการทางการเมืองในยุคที่สี่นี้พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามามีบทบาทในการ
ต่อต้านเผด็จการเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนจนกระทั่งเหตุการณ์สงบและนำไปสู่การเลือก
ตั้งในเดือนกันยายน 2535
ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะขาวสะอาดมีส.ส ได้รับเลือกตั้ง
มากที่สุดเป็นจำนวน 79
คนและได้เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีนายชวน
หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนดำเนินการบริหารบ้าน
เมือง มาเป็นระยะเวลา2ปีครึ่งจนมาถึงกลางปี2538
ซึ่งมีเหตุการณ์พลิกผันทางการเมืองจน นำมาสู่
การยุบสภาทำให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กรกฏาคม2538
ซึ่งสมาชิกพรรค ประชาธิปัตย์ได้ รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นส.ส 86
คนและดำเนินการทางการเมืองเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา
ซึ่งทางพรรคได้พิสูจน์ถึงการเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีประสิทธิ
ภาพต่อสู้กับการปกครองประเทศที่ไม่โปร่งใส จนในที่สุดนายบรรหาร
ศิลปอาชาต้อง ประกาศ ยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 17
พฤศจิกายน 2539 จากการดำเนินการทางการเมืองที่ต่อเนื่องตลอดระยะเวลา
60 ปี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ต่อสู้
กับระบอบเผด็จการเดิมมาในหลายยุคสมัยบางครั้งแสดงบทบาทในฐานะพรรคฝ่ายค้าน
บางครั้งแสดงบทบาทในฐานะฝ่ายรัฐบาลแต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะมีบทบาทและฐานะอย่างไรในการต่อสู้
ทางการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ยังคงยึดมั่นการดำเนินการทางการเมืองในระบอบประชาธิป
ไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขยึดถืออุดมคติ 4
ประการของพรรคยืนหยัดพิทักษ์รักษา
ผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่และมุ่งมั่นสร้างสังคมที่เป็นธรรมให้บังเกิดขึ้นด้วยจิตใจและ
การอุทิศตัวในหลักการแห่งความซื่อสัตย์สุจริต
นายแน่มาก ๆๆ ไอ้นกกรงหัวจุก ฮ่า ฮ่า ฮ่า