กลยุทธ์การทำให้คุณ ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยไม่รู้ตัว


ข้อสังเกตจากสิ่งที่เกิดขึ้น

มีผู้ตั้งข้อสังเกตไว้ดังนี้ครับ

1.รู้ข้อมูลไม่เท่ากัน
ข้อมูลข่าวสารมีมากมาย ทั้งข่าวจริงและข่าวลือ ใช้การเข้าถึงข้อมูลที่แตกต่างกันให้เป็นประโยชน์ในการดึงคนที่เป็นกลาง ให้เข้าเป็นฝ่ายเดียวกัน

2.หยิบบางประเด็น เบี่ยงเบน
เลือกประเด็นที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายตัวเอง หยิบมาเปิดประเด็น เขียนบรรยายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เปิดประเด็นในแง่มุมที่ผู้ที่ไม่ได้เกาะติดข่าวสาร หรืออ่านบทวิเคราะห์มามากนัก ให้เขารับข้อมูลในประเด็นนั้นได้ เชื่อถือได้ทันที


3.สร้างกระแส บอกว่า เวบนั้นก็ว่า ทำนองนี้
ทำการตอกย้ำข้อมูลของฝ่ายตนให้น่าเชื่อถือ โดยแจ้ง link ไปยังเวบที่มีเนื้อหาทำนองสนับสนุนฝ่ายของตนเอง ให้เข้าไปคลิกอ่านกระทู้ และความคิดเห็นต่างๆดูเอง

4.ความจริง เลือกหาแหล่งที่สนับสนุนกระแส มากกว่า 10
ทำการสะสมเวบที่มีข้อมูลสนับสนุนฝ่ายตน ยิ่งเป็นกระดานข่าว หรือ บล็อกที่เขียนเนื้อหาในทำนองนั้นบ่อยๆ ยิ่งเข้าทาง ในการดำเนินการในข้อต่อไป

5.เปิดประเด็นใหม่ ตอกย้ำความชอบธรรมไปเรื่อยๆ
จากข้อ 4 เลือกประเด็นที่จะใช้ตอกย้ำ นำไปดำเนินการตามข้อ 2-3 อีกครั้ง ทำไปเรื่อยๆ บ่อยๆครั้ง เพื่อสร้าวแนวร่วม ให้เกิดเป็น ข้อที่ 6


6.มีคนเข้าร่วมวง เอาประเด็นไปขยายผล
เมื่อมีคนเข้าร่วม โดยการตั้งประเด็นใหม่ ในกระดานข่าว หรือบล็อก เวบนั้นก็จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการในข้อที่ 3-4 เพื่อนำมาใช้ขยายผลในข้อที่ 5 ต่อไป


7.หยิบประเด็นอีกฝ่าย ที่น้ำหนักเบา เอามาให้อ่าน
ทำการสร้างความมั่นใจ หาประเด็นที่จะให้ฝ่ายตนสามารถแสดงความคิดเห็นหักล้างมาเผยแพร่ให้กลุ่มของตน วิพากษ์อย่างเต็มที่ เพื่อผลในข้อ 8

8.สร้างความมั่นใจให้คนเข้าร่วมวง เชื่อมั่นว่า ตัวเองถูกแล้ว
เมื่อคุณผ่านกระบวนการในข้อ 7 จนคุณเป็นฝ่ายนั้นเต็มตัวแล้ว เมื่อมีความคิดเห็นที่แตกต่าง คุณจะแสดงความคิดเห็นของคุณออกมาแย้งอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีกี่กระทู้ออกมาก็ตาม


9. ร่วมเป็นเครือข่าย
ทำการหยิบประเด็นของฝ่ายตรงข้าม มาเติมเชื้อไฟให้คุณมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น จนถึงกับขยายวงไปแสดงความคิดเห็นในเวบไซต์ที่มีความเห็นทีแตกต่างกับของคุณ หรือร่วมในการส่ง SMS ทาง ทีวี

จนถึงตอนนี้ คุณก็กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายหนึ่งแบบไม่รู้ตัวแล้วครับ
และอาจจะเป็นคนที่สร้างกระบวนการในข้อ 3-4 อย่างที่เคยได้รับรู้มาก


10. เมื่อพบกับกลุ่มเครือข่ายเดียวกันมากยิ่งขึ้น.... แสดงความคิดเห็นพ้องต้องกันบ่อยครั้ง ยิ่งจะทำให้มีส่วนร่วมสร้างกระบวนการในข้อ 1-9 เพิ่มมากขึ้น กองหนุนก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

 

คำสำคัญ (Tags): #การเมือง
หมายเลขบันทึก: 23147เขียนเมื่อ 10 เมษายน 2006 11:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
จริงแท้แน่นอนครับ นายบอน และอีกประเด็นหนึ่งตามความคิดของผมนะครับ คือในด้านการศึกษาที่วิธีปฏิบัติไม่สอดคล้องกับนโยบายที่เขียนไว้ในแผนฯ 8 และแผนฯ 9 ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน แต่กระทรวงศึกษาธิการกลับไม่ใช่กระทรวงเกรด A เพราะเอางบประมาณมาเป็นตัวชี้วัด การพัฒนาคนในระดับรากหญ้าให้เข้าถึงการศึกษา(แม้เพียงขั้นพื้นฐาน)ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก(รู้มากปกครองยากหรืออย่างไร)ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ การเรียนในระดับอุดมศึกษาค่าเล่าเรียนก็แพงมาก โดยเฉพาะในระดับปริญญาโท - เอก ก็ได้แต่หวัง(ลึกๆ)ว่าคงจะดีขึ้นในแผนฯ 10 นะครับ
เห็นด้วยครับ ที่ว่า การปฏิบัติไม่สอดคล้องกับนโยบาย ได้เห็นหัวข้อที่ได้มีการกล่าวถึงใน แผน 10 แล้ว ก็อยากให้มีความเป็นไปได้จริงๆ แต่ไม่รู้ว่า ในปัจจุบัน จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ

บางที ใครบางคนอาจจะไม่อยากให้มีคนรู้อะไรมากๆนักก็ได้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท