ต้นไม้ในวัดชลประทานฯ มีคติธรรมติดอยู่เกือบทุกต้น มีต้นหนึ่งเขียนว่า "คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อ"
ผมอ่านแล้วก็คิดสงสัยว่าการมี "สติ" คืออะไร แล้วก็ตอบตนเองว่าคือการที่เราเห็นตัวตนหรืออัตตาของเรานั่นเอง นั่นคือเมื่อใดที่เรากำลังเห็นความรู้สึก ความคิด พฤติกรรมของเราที่กำลังเกิดขึ้นหรือกำลังแสดงออก เมื่อนั้นเราก็มีสติ เช่น เห็นว่าเรากำลังพูดแทรกคนอื่นที่กำลังพูดอยู่ กำลังออกนอกเรื่อง เห็นว่ากำลังใจลอยไม่ได้อยู่กับเรื่องราวของคู่สนทนา เห็นว่ากำลังรู้สึกโกรธ กำลังจะแสดงความโกรธออกไป เห็นว่ากำลังกลัว ฯลฯ
ประสบการณ์การฝึกสติของผมในระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวัน ที่กำลังพยายาม "อยู่กับเนื้อกับตัว" ให้ได้ไม่ว่ากำลังทำอะไร ทำให้ผมได้เข้าใจขึ้นว่า ขณะที่เราสามารถมีสติเห็นตนเองในขณะที่อยู่ท่ามกลางผู้อื่นนั้น ทำให้เราสามารถเข้าใจตนเองได้มากขึ้น และพบว่า ยิ่งเราเข้าใจตนเองได้มากขึ้นเท่าไร เราก็จะสามารถเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้นเท่านั้น จากนั้นเราจึงจะสามารถทำสิ่งที่เรียกว่า "เอาใจเขาใส่ใจเรา" ได้ตรงกับที่ใจเขาต้องการอย่างแท้จริงได้มากขึ้น ตอบสนองคนรอบข้างรอบกายอย่างที่เขาต้องการจริงๆ ได้ตรงขึ้น ขณะที่เราเองก็มีสติไม่หลงลืม "ใจ" เราเอง ว่าต้องการอะไรด้วย
ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่า เมื่อใดก็ตามที่เรากำลังรู้สึกว่าไม่เข้าใจใคร เรายิ่งต้องเอาใจใส่ตนเอง พยายามทำความเข้าใจตนเองให้มากขึ้น
ส่วนคำ "เจริญ" ในความหมายทั่วไปก็คงเป็นเรื่องเศรษฐกิจ-สังคมทั่วๆ ไป แต่เมื่อใส่คำว่า "ทุกเมื่อ" ลงไปด้วย เป็น "เจริญทุกเมื่อ" และคิดในความหมายที่ลึกขึ้น ก็น่าจะหมายถึง ผู้มีสติอยู่กับเนื้อกับตัวได้ทุกเมื่อ จะสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ขึ้น สามารถใช้ศักยภาพของความเป็นมนุษย์อย่างเต็มที่มากขึ้น เรียกว่า ไม่เสียชาติ(ที่)เกิด(เป็นมนุษย์)ที่มีสมองพิเศษจากสัตว์ทั้งปวง ศักยภาพที่ว่านี้ก็คือ ความสามารถใช้ปัญญาในการเข้าถึงธรรม(ความจริง ความดี ความงาม ทั้งปวง) อันเป็นความสามารถที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่แต่เรายังไม่ได้นำออกมาใข้อย่างเต็มที่.
สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
๑๙ ธ.ค.๒๕๕๒
Happy New Year 2552
เรียน ท่านอาจารย์
อรุณสวัสดิ์ครับท่านอาจารย์
สวัสดีค่ะ
ตามมาอ่านเรื่องราวดีดี จะได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น มันเป็นปัจจัยภายในค่ะ โยนิโสมนสิการ การรู้เท่าทันอย่างแยบคาย ขอบคุณค่ะ
ที่เข้าใจยากกว่าเข้าใจคนอื่น ก็คือเข้าใจตัวเองนี่แหละครับ
สวัสดีคะ
ข้อเขียนนี้ดีจริง
เข้ามาอ่านและพร้อมน้อมรับ
ไปเที่ยวมาเลยเจอข้อเขียนนี้แปะไว้ ขออนุญาติคัดลอกมาฝากเช่นกันคะ
.......................
ถ้าทำอะไรด้วยสติ ปัญญา มิใช่ด้วยความอยากหรือความหวัง
ก็ไม่มีการที่จะเป็นทุกข์ เพราะความผิดหวัง
ดังนั้น เมื่อสิ่งใดแสดงอาการต่อต้านในลักษณะที่เรียกว่าผิดหวัง
ก็รีบสลัดโยนทิ้งสิ่งนั้นออกไปเสียก่อน เพื่อไม่ต้องมีความผิดหวัง
แล้วก็ทำสิ่งนั้นต่อไปด้วย สติปัญญาล้วนๆ โดยไม่ต้องหวัง
จนกว่าจะประสบความสำเร็จ
.....................พุทธทาสภิกขุ