นานาเรื่องราวการจัดการความรู้ (๑๗)
สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จัด “HA สัญจร”เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ภายหลังจากที่ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำกระบวนการ
การจัดการความรู้เข้ามาประยุกต์ใช้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันของกลุ่มโรงพยาบาล
เมื่อประมาณ ปลายปี 2547 ส่งผลให้ทั้งแพทย์ และพยาบาล
รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เปลี่ยนวัฒนธรรมการเรียนรู้ไป จากเดิมที่เคยหวงความรู้
ปกปิดความผิดพลาด และไม่กล้าที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้
เป็นการกล้าที่จะเปิดเผยเคล็บคับ เทคนิคสำคัญ และความรู้ใหม่ๆ
ซึ่งกันและกันแบบกัลยาณมิตร
มีโรงพยาบาลที่ผ่านการประเมินก่อนคอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษากับโรงพยาบาลที่ยังไม่ผ่านการประเมิน
ช่วยเป็นกำลังใจให้กันและกัน
และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันทุกครั้งจะควบคู่กับการศึกษาดูงานเพื่อดูของจริง
ทำให้เห็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
นั่นคือผู้มาเยือนรื้อค้นเอกสารในแฟ้มในห้องศูนย์ประสานงาน อัดสำเนา
ถ่ายภาพไว้กันครึกโครมโดยที่เจ้าของความรู้นั้นไม่มีทีท่าหวงแม้แต่น้อย
รูปแบบการจัดการความรู้ที่สสจ.พระนครศรีอยุธยานำไปประยุกต์ใช้แล้วมีหน้าตาเป็นอย่างไร
สิ่งที่แน่นอนคือไม่เหมือนกับที่อื่นๆ
เพราะจุดเด่นของการจัดการความรู้ในเครือข่ายโรงพยาบาล
จ.พระนครศรีอยุธยา
อยู่ที่การดูของจริงกันทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกิจกรรม
HA สัญจร โดยมีการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลเป็นเป้าหมาย
และมีการจัดการความรู้เป็นเครื่องมือไปสู่เป้าหมาย
ชื่อโครงการจึงไม่ใช่เป็นการทำเรื่องการจัดการความรู้
แต่เป็นการทำเรื่องการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล หรือ
Hospital/Healthcare Accreditation (HA)
ทั้งนี้จุดเริ่มต้นของการนำการจัดการความรู้เข้ามาใช้ในกระบวนการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นคุณประกิจ
โพธิอาศน์ นักวิชาการสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่าว่า
ได้แนวคิดจากการไปร่วมการสัมมนาจากมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติที่อาจารย์
วิจารณ์ พานิชไปพูดให้ฟัง และที่สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้
(สคส.) ที่บ้านภู่หว่าน จ.นครปฐม
แล้วกลับมามองย้อนดูในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันของกลุ่มโรงพยาบาลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งมีอยู่เดิมแล้วว่า ที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนกันอยู่เดิมก็จริง
แต่ไม่ค่อยได้อะไรจากการแลกเปลี่ยน
จึงเริ่มนำกระบวนการการจัดการความรู้เข้ามาสอดแทรกในกิจกรรมการแลกเปลี่ยนที่ทำกันอยู่เดิมระหว่างโรงพยาบาลในจังหวัดให้เกิดเป็นเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ทั้งนี้เครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของ สสจ.พระนครศรีอยุธยา
จะถูกแบ่งกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามประเด็นที่โรงพยาบาลมักจะไม่ผ่านการประเมิน
HA จากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (พรพ.)ใน 5
ประเด็นย่อยๆ ด้วยกัน คือ กลุ่มการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน
กลุ่มการเฝ้าระวังการติดเชื้อในโรงพยาบาล
กลุ่มการบริหารความเสี่ยง กลุ่มดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน (EMS) และ
กลุ่มองค์กรพยาบาล ซึ่งแต่ละกลุ่มเปรียบเสมือนชุมชนนักปฏิบัติ
(Community of Practice,CoP) ย่อยๆ ลงไป
ซึ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันใน 5 ประเด็นข้างต้น
จะมีสมาชิกที่เป็นเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันทั้งจังหวัดรวม 16
โรงพยาบาลคือ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลท่าเรือ
โรงพยาบาลนครหลวง โรงพยาบาลบางไทร โรงพยาบาลบางบาล โรงพยาบาลบางปะอิน
โรงพยาบาลบางปะหัน โรงพยาบาลผักไห่ โรงพยาบาลภาชี โรงพยาบาลลาดบัวหลวง
โรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลเสนา โรงพยาบาลบางซ้าย
โรงพยาบาลอุทัย โรงพยาบาลมหาราช และโรงพยาบาลบ้านแพรก
โดยแต่ละชุมชนจะเลือกประธานและเลขาฯ กันเอง
พร้อมกับนัดหมายแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแบบเดือนเว้นเดือนสลับกันไป
ส่วนกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ส่วนใหญ่จะแลกเปลี่ยนกันด้วยทฤษฎี
ขั้นตอนนี้ สสจ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำเครื่องมือ ธารปัญญา
มาเป็นเครื่องมือโดยใช้วิธีตั้งคำถามหลังการประเมินตนเองว่า
“ให้ช่วยเล่าหน่อยว่าทำไมถึงประเมินตนเองให้อยู่ระดับนั้นๆ”
ทำให้คนเล่าเริ่มเล่าเรื่องโดยที่ไม่ยึดติดฤษฎี
“HA สัญจร” อีกหนึ่งรูปแบบ KM
สสจ.กรุงเก่า
และเพื่อขยายผลเส้นทางสู่ความสำเร็จในนโยบายพัฒนาคุณภาพเครือข่ายหน่วยบริการ
Primary Care Unit (PCU)
และเมืองไทยแข็งแรงจึงมีการนำการจัดการความรู้มาใช้
ยังส่งผลให้เกิดรูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใหม่ๆ คือ “HA สัญจร”
ซึ่งเกิดจากแนวคิดว่าใน 16
โรงพยาลนั้นมีโรงพยาบาลที่มีศักยภาพน่าจะผ่านการประเมินของสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลในปี
2548 อยู่อีกจำนวน 4-5 แห่ง
และหากนำกระบวนการจัดการความรู้เข้าไปช่วยก็น่าจะทำให้ผ่านการรับรองง่ายขึ้น
จึงก่อเกิดกิจกรรม HA สัญจรขึ้นโดยมีแผนจะสัญจรไปตาม 5
แห่งที่คาดการณ์ว่าน่าจะผ่านการประเมินในปี 2548
โดยใช้รูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และดูของจริง
ซึ่งจะให้เจ้าภาพเป็นผู้กำหนดเรื่องที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้
และส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นที่โรงพยาบาลนั้นๆ ต้องการคำแนะนำ
และข้อเสนอแนะจากเพื่อนต่างโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลที่เข้าร่วมกิจกรรม
HA สัญจรนี้
จะไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มโรงพยาบาลที่คาดว่าจะผ่านเกณฑ์การประเมินในปี
2548 เท่านั้น แต่จะมีสมาชิกเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันทั้ง 16
โรงพยาบาล ร่วมเดินทางมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย
ตามไปดู “HA สัญจร”
ที่โรงพยาบาลภาชี
ทั้งนี้ตัวอย่างของการดำเนินกิจกรรม HA สัญจร ที่โรงพยาบาลภาชี
จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา
มีได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้กันในเรื่องบทบาทและการจัดการในศูนย์ประสานงานการพยาบาล
ซึ่งมีการยกกรณีตัวอย่างการดูแลผู้ป่วยวัณโรคของทีม PCT ( Patient
Care Team) ,การดูแลผู้ป่วย MI และการจัดการปัญหาความคลาดเคลื่อนทางยา
และบทบาทของศูนย์ประสานงานการพยาบาล
โดยรูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของ “HA สัญจร”
คือลำดับแรกจะให้โรงพยาบาลที่เป็นเจ้าภาพ เป็นผู้เล่าก่อน
โดยเล่าถึงกระบวนการคุณภาพพร้อมกับยกตัวอย่างที่เป็นข้อผิดพลาด
วิเคราะห์ ปัญหา และสาเหตุอย่างไม่ปิดบัง และกระบวนการแก้ไข
จากนั้นก็จะสอบถามไปยังผู้ร่วมแลกเปลี่ยนทันทีว่ามีข้อเสนอ
หรือมีตัวอย่างเรื่องเล่าใดบ้างที่จะแนะนำ
ซึ่งทำให้บรรยากาศในการแลกเปลี่ยนสนุกขึ้น เป็นกันเอง
ที่สำคัญโรงพยาบาลที่เคยผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพมาแล้ว
จะถูกเรียกว่าเป็น “พี่เลี้ยง” จะแนะนำ ติ ชมทุกครั้งทุกประเด็น
พร้อมกับเสนอแนะเรื่องข้อควรระวัง จุดอ่อน
จุดแข็งในเรื่องคุณภาพของแต่ละประเด็นที่ถูกนำมาแลกเปลี่ยน
และมีนพ.ยุทธพงษ์
จากโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยามาเป็นวิทยากรแนะนำในภาพรวม
ทำให้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนั้นมีความเข้มข้นในเนื้อหาขึ้นไปอีก
เมื่อครบทุกประเด็นแล้วในช่วงบ่ายก็จะใช้กระบวนการดูงาน
แบบให้เห็นของจริง โดยเจ้าภาพคือโรงพยาบาลภาชี
จะเป็นผู้นำทางไปดูกระบวนการทำงาน และรูปแบบคุณภาพทั้งที่เป็นวิธีการ
และเอกสารในสถานที่ทำงานจริง เมื่อเดินผ่านจุดไหน เจ้าหน้าที่ที่ประจำ
ณ จุดนั้นก็จะให้คำแนะนำแก่ผู้มาเยื่อน
ขณะที่ผู้มาเยื่อนก็จดจ่อสอบถามด้วยความอยากรู้ ส่วนเจ้าภาพก็ยินดี
อธิบายถึงขั้นตอนการทำงาน และตอบคำถามอย่างละเอียด
ทำให้ผู้มาร่วมแลกเปลี่ยนเห็นภาพ
เห็นของจริงชัดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนในช่วงเช้า นอกจากนี้งานเอกสาร
และแฟ้มงานสำคัญๆ ต่างก็ถูกนำออกมาเปิดเผยกันแบบไม่หวง
เจ้าภาพเปิดโอกาสให้โรงพยาบาลอื่นๆ รื้อ ค้น ถ่ายรูป
ศึกษาเอกสารได้แม้กระทั่งเอกสารที่น่าจะเป็นความลับก็ตามที
จากนั้นเมื่อเดินดูของจริงครบทุกประเด็นแล้วก็กลับมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อ
โดยการแลกเปลี่ยนในช่วงบ่ายนี้จะถูกแบ่งเป็นกลุ่มย่อยเพื่อแลกเปลี่ยนลงลึกในแต่ละประเด็นโดยโรงพยาบาลเจ้าภาพจะเป็นผู้จดบันทึกเป็นขุมความรู้ไว้
และปิดท้ายการแลกเปลี่ยนด้วยการทำ Action After Review (AAR)
หรือการเรียนรู้หลังการทำงานว่ามาแลกเปลี่ยนกันวันนี้ได้อะไร
และถ้าจะจัดต่อไป น่าจะปรับปรุงหรือเพิ่มเติมอะไร
อย่างไรก็ตาม
ซึ่งคุณอารีย์ ฉิมชนะ หัวหน้ากลุ่มงานสนันสนุนวิชาการ
ด้านพัฒนากำลังคนฯ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ระบุว่ารูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแบบนี้นับเป็นครั้งแรกที่สสจ.เปลี่ยนบทบาทจากการเป็นผู้สั่งการมาเป็นผู้สนับสนุน
ซึ่งเป้าหมายในการจัดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบนี้ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงจนเกินจะไปถึง
โดย สสจ.คาดหวังเพียงให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเนื้องานกัน
แล้วสามารถนำไปพัฒนางานต่อไปได้ก็เพียงพอแล้ว
KM ในกลุ่มสถานีอนามัย
นอกจากนี้กลุ่มของสถานีอนามัย
ก็ได้มีการนำกระบวนการการจัดการความรู้เข้าไปใช้พัฒนาคุณภาพเช่นกัน
โดยมีการจัดให้ทีมผู้ประสานงานของสถานีอนามัยทุกแห่งในจังหวัดมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
ซึ่งกลุ่มนี้จะจัดเป็นกลุ่มที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
เพราะคุยแล้วเห็นภาพในพื้นที่ชัดเจน
อีกทั้งในกลุ่มนี้จะจัดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ควบคู่ไปกับการอบรม
พร้อมทั้งจะมีคนสรุปประเด็นสำคัญ เติมเต็มให้กันและกันด้วยการแนะนำ
โดยใช้งานเยี่ยมบ้านของเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยมาร่วมเป็นชุมชนคนปฏิบัติงานที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
ก่อนที่จะแลกเปลื่ยนกันก็จัดกระบวนการให้เขาได้รับทราบว่า KM
คืออะไร ทำกระบวนการอย่างไร
โดยประยุกต์ใช้แนวทางการอบรมของอาจารย์ประพนธ์และอาจารย์ทรงพล
มาเป็นแนวทางอบรมให้ และสร้างเครื่องมือที่เรียกว่า
ธารปัญญางานเยี่ยมบ้าน แล้วเก็บไว้เป็นคลังความรู้
การนำการจัดการความรู้ ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับผู้ใช้
ของกลุ่มงานพัฒนากำลังคนฯ
ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยานี้
เป็นเรื่องน่าชื่นชมอย่างยิ่งที่ไม่ยึดติดในเครื่องมือใดๆ
และที่สำคัญเครือข่ายการจัดการความรู้ในกลุ่มโรงพยาบาลทั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้
ยืนยันว่ากำลังค้นหากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในรูปแบบที่เหมาะสมกับเครือข่ายมากที่สุด
และกำลังทดลองกระบวนการแลกเปลี่ยนในหลายๆ รูปแบบ จึงแน่ใจได้ว่าอนาคต
เราอาจได้เห็นรูปแบบการจัดการความรู้ที่เป็นแบบฉบับของเครือข่ายโรงพยาบาล
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในไม่ช้าอย่างแน่นอน
คุณอารีย์ ฉิมชนะ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ถนนอู่ทอง ต. หอรัตนไชย
อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
โทร.035-241967 โทรสาร035-244332
E-mail: [email protected]
ไม่มีความเห็น