วันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี จัดเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย...ผู้เขียนในฐานะที่คลุกคลีกับกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมมาตลอด..ตั้งแต่สมัยผูกคอซอง เรื่อยมาจนจบอุดมศึกษา ก็จะเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันโครงงาน แข่งขันการประดิษฐ์วัสดุเหลือใช้ แถมค่ายสิ่งแวดล้อมมีที่ใดไม่เคยพลาด ชอบมากค่ะ...แม้การเรียนระดับอุดมศึกษาจะยากง่ายอย่างไร ขอเถอะ ขอร้อง ขอแป๋มไปด้วย อาจารย์บอก..ได้เลย ปิดภาคเรียน...อาจารย์ขา ขอแป๋มไปด้วยนะคะ อิ อิ ในฐานะนิสิตพี่เลี้ยงเด็กนักเรียนค่ายสิ่งแวดล้อมค่ะ
จบการศึกษามาเป็นครูก็ไม่วายที่จะเป็นตัวตั้งตัวตีในการพานักเรียนทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงๆจังๆ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทั้งขั้นเบสิก คือ การจัดตั้งชุมนุมที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสิคะ เท่าที่จำได้ก็มี ชุมนุมวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม ชุมนุมสวนพฤกษศาสตร์ ชุมนุมรักวิทย์รักษ์โลก ชุมนุมบันทึกธรรมชาติ ชุมนุมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ชุมนุมสิ่งแวดล้อมชุมชน....เฮ้อ เหนื่อย ก็วนๆ อยู่นี่แหละค่ะ แล้วแต่นักเรียนจะเลือกหรือตั้งชื่อขึ้นมา ครูแป๋มก็จะถูกเชิญไปเป็นที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำ แค่นี้ก็สุขใจแล้วค่ะ. ชุมนุมก็อาจจะแคบไปในความคิดเด็ก ก็เลยพากันสมัครเป็นอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งครูและนักเรียน คราวนี้จิตสาธารณะทุกคนบรรเจิดแน่ ประเดิมปีนี้ด้วยการไปปลูกป่าชุมชนที่วัดใหม่สุนทร ใกล้ๆโรงเรียนนั่นเอง. ยังค่ะ ยังไม่พอ หลายคนคิดประดิษฐ์นวัตกรรมที่จะลดภาวะโลกร้อน บำบัดมลภาวะทั้งทางน้ำ ทางอากาศ และบนบกด้วย. อย่างนี้ต้องส่งเสริมค่ะ ครูแป๋มอำนวยความสะดวก เพื่อหาเวทีให้เด็กได้แสดงฝีมือที่เกิดจากแนวคิดอันบริสุทธิ์ของพวกเขา โดยครูจะไม่ไปเจ้ากี้เจ้าการสั่งโน่นนี่ เพราะมันเป็นการไปตีกรอบความคิดของเด็กเกินไป แต่หากจะกู่ไม่กลับต้องนำเขากลับมาพิจารณาว่าด้วยปัจจัยต่างๆเท่าที่มีอยู่นี้ จะสามารถเป็นไปได้กี่เปอร์เซ็นต์(สร้างเยาวชนนักวิจัยไปในตัว) สิ่งที่ทำนี้จัดเป็นโครงการเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่อยอดไปเป็น การนำความรู้สู่ชุมชน ซึ่งจะเป็นการฝึกความเป็นผู้นำและรู้จักการประสานงานกับผู้ใหญ่จะเป็นพื้นฐานให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพในอนาคต...
แม้วันนี้ครูแป๋มจะห่างจากงานสิ่งแวดล้อมไปบ้าง ด้วยภาระทางด้านการเรียนซึ่งอยู่ในช่วงของการทำดุษฎีนิพนธ์ นอกเหนือจากงานประจำที่ปฏิบัติการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ถึง 21 คาบ บวกคาบกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมลูกเสือเนตรนารี และกิจกรรมชุมนุม เข้าไปอีก 3 คาบ รวมแล้ว 24 คาบซึ่งก็ถือว่าเอาการเหมือนกัน สำหรับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาประจำอำเภอที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนในฝัน โรงเรียนต้นแบบโรงเรียนในฝัน โรงเรียนส่งเสริมประชาธิปไตยดีเด่น โรงเรียนสิ่งแวดล้อมดีเด่น และรางวัลอะไรต่อมิอะไรมากมายหลายระดับ ล่าสุดก็คือรางวัลโรงเรียนพระราชทานขนาดใหญ่ ที่เป็นความคาดหวังของผุ้ปกครองชุมชนที่ส่งบุตรหลานมาเรียน. แต่สำหรับครูแป๋ม ไม่ว่าจะเป็นรางวัลใดก็แล้วแต่ก็ไม่ควรละเลยการปลูกฝังคุณธรรมของมนุษย์ที่พึงมีพึงกระทำลงไปด้วย ความสำเร็จวันนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุดแห่งการพัฒนาตนเองและสังคม. สิ่งที่ต้องทำต่างจากสิ่งที่ควรทำมากมายนักหากพิจารณาให้ดี เฉกเช่นการพัฒนานักเรียนไม่ควรแบ่งแยก...ให้ความสำคัญกับเด็กเก่งมากเกินไป...เหลียวกลับมามองเด็กห้องท้ายที่เขาเองก็อยากจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับเด็กห้องอื่นๆเหมือนกัน ครูแป๋มขอเลือกค่ะ....เลือกที่จะดูแลเด็กห้องท้าย ให้กำลังใจพวกเขา แนะนำการแสดงออก คำพูดคำจา การเข้าหาครูบาอาจารย์ มารยาทที่ดีที่เด็กควรทำเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่...ฯลฯ ครูแป๋มรู้ว่าได้ทำสวนทางกับความรู้สึกของใครอีกหลายคน แต่เชื่อเถอะค่ะ ว่าเมื่อถึงวันนั้น เด็กห้องท้ายเหล่านี้แหละ จะก้าวสู่คนคุณภาพเช่นกันกับเด็กแผนวิทย์อีกหลายต่อหลายคน (บางคนอาจดีกว่า เพราะภูมิคุ้มกันของเขามีมากกว่า...ล้อเล่นค่ะอย่าซีเรียส) ติดตามผลงานของเด็กห้องท้ายจากบันทึกเรื่อง "เด็กห้องท้าย" นะคะ สวัสดีวันสิ่งแวดล้อมไทยค่ะ........
การฝึกความเป็นผู้นำและรู้จักการประสานงานกับผู้ใหญ่จะเป็นพื้นฐานให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพในอนาคต
แวะมาอ่านและทักทาย
มีความสุขเสมอๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ คุณสายธาร
กำลังใจที่ดี บวกแววตาใสๆเปี่ยมด้วยความสงสัยของเด็ก ช่างมีอิทธิพลต่อจิตใจครูคนนี้ มากเหลือเกินค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
สวัสดีค่ะ
* ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ครูแป๋มค่ะ
สวัสดีค่ะ กำลังใจที่ดีนำไปสู่พลังใจให้เกิดการพัฒนา ขอบคุณในกำลังใจที่มีให้กันเสมอๆนะคะ
ดีครับครูแป๋ม เจอครูแป๋มแล้วคิดถึงครู
สวัสดีค่ะ
"เจอครูแป๋มแล้วคิดถึงครู" หากสามารถเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่นั้นได้ ก็ขอขอบคุณนะคะ
อ้างถึงครูแป๋มกล่าวในตอนหนึ่ง
โดยครูจะไม่ไปเจ้ากี้เจ้าการสั่งโน่นนี่ เพราะมันเป็นการไปตีกรอบความคิดของเด็กเกินไป แต่หากจะกู่ไม่กลับต้องนำเขากลับมาพิจารณาว่าด้วยปัจจัยต่างๆเท่าที่มีอยู่นี้ จะสามารถเป็นไปได้กี่เปอร์เซ็นต์(สร้างเยาวชนนักวิจัยไปในตัว) สิ่งที่ทำนี้จัดเป็นโครงการเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่อยอดไปเป็น การนำความรู้สู่ชุมชน ซึ่งจะเป็นการฝึกความเป็นผู้นำและรู้จักการประสานงานกับผู้ใหญ่จะเป็นพื้นฐานให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพในอนาคต...
ชื่นชมกับความรู้ครูสรรค์สร้าง
วางแนวทางวิธีคิดจิตส่งเสริม
ความสามารถเด็กหนุนเป็นทุนเดิม
เป็นผู้เริ่มการเรียนรู้...สู่สังคม
อ้างถึงครูแป๋มกล่าวในตอนท้าย
ครูแป๋มขอเลือกค่ะ....เลือกที่จะดูแลเด็กห้องท้าย ให้กำลังใจพวกเขา แนะนำการแสดงออก คำพูดคำจา การเข้าหาครูบาอาจารย์ มารยาทที่ดีที่เด็กควรทำเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่...ฯลฯ ครูแป๋มรู้ว่าได้ทำสวนทางกับความรู้สึกของใครอีกหลายคน แต่เชื่อเถอะค่ะ ว่าเมื่อถึงวันนั้น เด็กห้องท้ายเหล่านี้แหละ จะก้าวสู่คนคุณภาพเช่นกันกับเด็กแผนวิทย์อีกหลายต่อหลายคน (บางคนอาจดีกว่า เพราะภูมิคุ้มกันของเขามีมากกว่า...ล้อเล่นค่ะอย่าซีเรียส) ติดตามผลงานของเด็กห้องท้ายจากบันทึกเรื่อง "เด็กห้องท้าย" นะคะ สวัสดีวันสิ่งแวดล้อมไทยค่ะ........
เป็นความฝันอันกระจ่างสว่างเลิศ
ที่ก่อเกิดผลงานใหม่ในโลกกว้าง
ไม่ละเลยเด็กห้องท้ายหมายจัดวาง
เป็นแบบอย่างเสมอภาคหากรู้เรียน
ชื่นชมคุณครูมากครับ
สวัสดีค่ะคุณสุวัฒน์
ทุกสิ่งที่กล่าวมาเป็นความรู้สึกลึกๆจากใจแป๋มทั้งหมด หาได้ลอกเลียนแบบมาจากที่ใด นั้นเพราะแป๋มได้ใกล้ชิดและสัมผัสพวกเขาจริงๆ ดังนั้นการทำดุษฎีนิพนธ์ของแป๋มจึงกลั่นมาจากหัวใจขอครูประสานกับหัวใจของเด็ก ด้วยหวังว่าในภายภาคหน้า เมื่อเขาเติบใหญ่ การร่วมกันทำงานกับครูคนนี้ อาจทำให้เขานึกย้อนมาอยากมอบความปรารถนาดีให้กับเยาวชนรุ่นหลังๆ ดังเช่นที่พวกเขาเคยได้รับ...ก็ได้แต่หวังค่ะ..
ขอบคุณกำลังใจที่ให้แป๋มสมำเสมอนะคะ
ครูแป๋ม
หวัดดีค่ะครูแป๋ม หนูอ่านเรื่องเด็กห้องท้ายแล้ว รู้สึกซาบซึ้งใจครูแป๋มมากคะ
แม้แต่วันสิ่งแวดล้อมไทยครูแป๋มก็เขียนถึงเด็กห้องท้ายไว้มากมาย หนูอ่านแล้วน้ำตาไหลคะ
ทุกวันนี้พวกเราสนใจและรักการเรียนมากๆจากการสอนของครูแป๋มค่ะ