การเพาะเลี้ยงกุ้งของไทยอยู่ในภาวะแข่งขันสูง
ที่เกิดจากปัจจัยเชิงลบหลายประการ อาทิ เช่น
พัฒนาการของเทคโนโลยีการเดินทางการสื่อสาร
ทำให้สามารถขนส่งสินค้าระหว่างทวีปได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ทำให้ผลผลิตกุ้งทะเลจากทุกประเทศสามารถขายแข่งขันกันในตลาดโลกได้
ราคาพลังงานและปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นทุกวัน
กระแสความต้องการอาหารที่ปลอดภัยเพื่อการบริโภคของมนุษย์
ความสนใจของผู้คนที่มากขึ้นทุกขณะในเรื่องน้ำเสียที่มีผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อม
การกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ
กลยุทธ์ทางการค้าที่มีการสร้างกระแสเพื่อปั่นราคาผลผลิต
การใช้เทคนิคทางการขายจูงใจให้มีการใช้ปัจจัยการผลิตอย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น
เป็นต้น
การพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในลักษณะมุ่งผลตอบแทนเชิงธุรกิจนั้น
จะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับแนวทางการทำการเกษตรกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ
การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี
และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดการระบบให้เข้ามาตรฐานสากลที่ว่าด้วยสุขอนามัยและความปลอดภัย
(ISO 18000) ผลผลิตปลอดภัย
กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานจะต้องไม่ใช้สารเคมีอันตราย
มาตรฐานสากลว่าด้วยสิ่งแวดล้อม
กระบวนการผลิตต้องไม่ส่งผลเสียหายต่อสภาพแวดล้อม
ต้องใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
และสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งผลิตสินค้าเกษตรกรรมชนิดนั้นๆ ได้
ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยต่อสุขอนามัยของตนเองในการประกอบอาชีพแล้ว
การใช้ทรัพยากรจะเป็นไปอย่างยั่งยืน
สภาพนิเวศได้รับการดูแลและสิ่งแวดล้อมโดยรวมได้รับการฟื้นฟู
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปพร้อมกันด้วย
ท้ายที่สุดเกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้
เอกสารประกอบ : คู่มือเทคนิคฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเลมาตรฐาน Code of
Conduct
ไฟล์นำเสนอ : คู่มือเทคนิคฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเลมาตรฐาน Code of
Conduct
ดิฉันกำลังจะลงทุนเลี้ยงกุ้งประมาณ 80 ไร่ไม่ทราบว่าต้องลงกุ้งเท่าไรถึงจะไม่แน่นเกินไปและที่แถว ๆ ปากท่อน้ำเค็มมากไม่ทราบว่าพอมีคำอธิบายหรือข้อชี้แนะเพิ่มเติมให้ค่ะ
คือมีญาติทำธุระกิจตัวนี้อยู่บ้างแล้วและจะขยายกิจการเพิ่มแต่วิธีการเลี้ยงยังไม่ได้มาตราฐานดิฉันจึงเรียนมาปรึกษาเพื่อที่จะได้ฟาร์มเลี้ยงกู้งที่มาตราฐานและปลอดภัยกับผู้บริโภคค่ะ /ขอคำชี้แนะนำด้วยค่ะ อยากได้ตารางการจดบันทึกการเลี้ยงกุ้งหรือการให้อาหารกุ้งด้วยค่ะ
สอบถามเพิ่มเติมหน่อยครับ
ไม่ทราบว่าคุณอาศัยอยู่จังหวัดไหน อยู่เขตพื้นที่ที่เหมาะสมหรือไม่ คุณสามารถปรึกษาเบื้องต้นที่สำนะกงานประมงจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ได้ ทางสำนักงานฯ สามารถให้คำแนะนำได้ครับ
ลองดูหลักเกณฑ์มาตรฐาน จีเอพี สำหรับโรงเพาะฟักและฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล คุณลองศึกษาดูว่าสามารถปฏิบัติได้ไหมครับ
1. การเลือกสถานที่
- มีการคมนาคมสะดวก และอยู่ในที่น้ำท่วมไม่ถึง
- อยู่ใกล้แหล่งน้ำที่มีคุณภาพ และไม่อยู่ในอิทธิพลของแหล่งกำเนิดมลภาวะ
2. การจัดการเลี้ยงทั่วไป
- อุปกรณ์และโรงเรือนต้องอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ดี
- มีการวางผังฟาร์มเลี้ยงที่ถูกต้องตามหลักการเลี้ยงกุ้งทะเล
- มีการเตรียมน้ำ ดินและตะกอนเลนก่อนการเลี้ยงกุ้งอย่างเหมาะสม
- มีปล่อยกุ้งที่มีคุณภาพดี ความหนาแน่นและอายุที่เหมาะสม
- มีการติดตั้งเครื่องเพิ่มอากาศอย่างเหมาะสมและมีการจัดการรักษาคุณภาพน้ำและดินที่ดี
3. อาหาร การให้อาหารและปัจจัยการผลิตกุ้งทะเล
- เลือกใช้อาหารกุ้งที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
- เก็บอาหารกุ้งไว้ในที่ร่ม เย็นและไม่ชื้นแฉะ
- มีวิธีการจัดการให้อาหารที่มีประสิทธิภาพ ให้อาหารสดในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
- ปัจจัยการผลิตที่ใช้เสริมสร้างความแข็งแรงของกุ้งและ/หรือรักษาคุณภาพน้ำจะต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
4. การจัดการสุขภาพ และการแก้ไขปัญหาโรคกุ้ง
- ตรวจคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงอยู่เป็นประจำ
- มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคกุ้งที่มีประสิทธิภาพ
- เมื่อต้องการรักษาโรคกุ้งควรใช้ยาปฏิชีวนะที่อนุญาตให้ใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
5. สุขอนามัยฟาร์ม
- มีการทิ้งและกำจัดขยะปฏิกูลจากฟาร์มอย่างถูกวิธี
- เก็บรักษาปัจจัยการผลิต วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ในลักษณะที่ดีไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่เป็นพาหะของโรค
- มีห้องสุขาที่ถูกต้องตามหลักอนามัย
- น้ำที่ใช้เลี้ยงกุ้งมีปริมาณแบคทีเรีย (Total coliform และ Feacal coliform) ไม่เกินค่าที่กำหนดไว้
6. การเก็บเกี่ยวผลผลิตและการขนส่ง
- เกษตรกรต้องวางแผนการจับและจำหน่าย โดยเน้นการรักษาความสด และความสะอาด
- มีรายงานผลการสุ่มตรวจยาปฏิชีวนะตกค้างในผลผลิตกุ้ง และมีใบกำกับการจำหน่ายสัตว์น้ำ
7. การจดบันทึกข้อมูล
- มีบันทึกการจัดการเลี้ยง การให้อาหาร การใช้ยาและสารเคมีที่ถูกต้องสม่ำเสมอ มีความทันสมัย