ค่าปุ๋ยผู้ใหญ่บำรุง บอกว่าไม่ต้องจ่ายสักบาท เนื่องจากเอาวัวกับควายที่มีอยู่ 6 ตัว ไปผูกในนาทั้งปี เป็นโรงงานผลิตปุ๋ยชนิดเคลื่อนที่ได้
นายบำรุง ตลุตกำ ผู้ใหญ่บ้านบุทม ตำบลเมืองที อ.เมืองสุรินทร์
จ.สุรินทร์ ได้ทดลองใช้น้ำสกัดมูลสุกรในนาข้าว
หลังจากเข้าฝึกอบรมจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ซึ่งไปถ่ายทอดความรู้ถึงหน้าประตูบ้าน
ผู้ใหญ่บำรุง เลือกแปลงนาที่อยู่ติดหมู่บ้าน พื้นที่ประมาณ
8 ไร่ เป็นหนูลองยา
เป็นนาที่ปลูกโดยวิธีการปักดำและเพิ่งจะเกี่ยวข้าวเสร็จในวันนี้เองครับ...เราจะได้รู้กันว่าผลผลิตข้าวจะเป็นอย่างไร
วิธีการเตรียมปุ๋ยน้ำสกัดมูลสุกร
ผู้ใหญ่บำรุง เล่าให้ฟังว่า นำมูลสุกรขุน ตากแห้ง 20
กิโลกรัม หุ้มด้วยตาข่ายไนล่อน แยกเป็นสองถุงๆ ละสิบกิโลกรัม
(เพื่อความสะดวกในการยก) ใส่ในถังหมัก เติมน้ำ 200 ลิตร
และที่ขาดไม่ได้คือเติมน้ำหมักชีวภาพ 5 ลิตร กับกากน้ำตาลอีก 2
ลิตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำสกัดมูลสุกร แช่น้ำหมักมูลสุกรไว้ประมาณ 24
ชั่วโมง จึงยกเอาถุงมูลสุกรออก ทิ้งไว้อีกประมาณ 7 วัน กรองน้ำไปใช้
โดยเจือจางน้ำสกัดมูลสุกรกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:20 ลิตร
สามารถฉีดพ่นในแปลงนาได้พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ เริ่มฉีดครั้งแรกเมื่อต้นข้าวมีอายุประมาณ
30 วัน และฉีดต่อเนื่องทุก ๆ 15 วัน จนถึงช่วงข้าวตั้งท้อง
(ฉีดให้ชุ่มทั่วใบ) เป็นการให้ปุ๋ยทางใบ
ความรู้ใหม่ที่เราไม่เคยทราบมาก่อน
> น้ำหมักชีวภาพหอยเชอรี่เป็นส่วนผสมด้วย
....
ส่วนแปลงนาของผู้ใหญ่บำรุง
แปลงนี้ฉีดน้ำสกัดมูลสุกรเพียงสองครั้งเท่านั้น
คือช่วงข้าวอายุประมาณหนึ่งเดือนกับอีกครั้งหลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ ผลผลิตที่ได้รับเป็นอย่างไร...รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้ใหญ่บำรุงคงแทนคำตอบได้ดี...
ผมลองสุ่มนับจำนวนต้นต่อกอ
ได้
16 ต้น นับเมล็ดข้าวต่อรวงได้ 165 เมล็ด
ผู้ใหญ่บำรุงเล่าให้ฟังอีกว่าเมล็ดข้าวแปลงนี้สวยกว่าแปลงอื่นๆ
ที่ไม่ได้ฉีดน้ำสกัดฯ ลักษณะลำต้นสูง ประมาณ 130 เซนติเมตร
ลำต้นแข็งแรง ไม่หักหรือล้มง่าย (ทำให้เกี่ยวง่ายกว่า) รวงยาว เมล็ดขาวใสกว่า
และน้ำหนักต่อรวงดีกว่า (วันนี้ยังนวดข้าวไม่เสร็จ
แต่ผู้ใหญ่บอกว่าเทียบกับปีที่แล้ว
ปริมาณข้าวที่ได้ปีนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 605 กิโลกรัมต่อไร่)
ผมแนะนำให้ผู้ใหญ่บำรุง
เก็บข้าวจากแปลงนี้ไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ในปีต่อไป
เนื่องจากดูลักษณะทางกายภาพ (ที่ตาสามารถมองเห็นได้)
พบว่ามีลักษณะของเมล็ดพันธุ์ดี โดยเฉพาะเมล็ดขาวใสท้องข้าวน้อย
หากนำไปสีจะมีเปอร์เซ็นต์ข้าวหักต่ำ
เป็นข้าวคุณภาพชั้นหนึ่งจะขายได้ราคาสูงกว่าข้าวทั่วๆ ไป
แต่จะขายข้าวได้กำไรไหม..ต้องมาคำนวณต้นทุนการผลิต
แปลงนา
8 ไร่ ผู้ใหญ่ต้องจ่ายเงินค่าเมล็ดพันธุ์ข้าวหนึ่งกระสอบใหญ่ ประมาณ
1,500 บาท
และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ดังนี้
จ่ายค่าไถ
1,600 บาท
ค่าปักดำ
1,600 บาท
ค่าจ้างฉีดน้ำสกัดฯ (2
ครั้ง) 300
บาท
ค่าจ้างเกี่ยว
3,000 บาท
ค่านวด
1,500 บาท
ค่าขนส่ง
550
บาท
ส่วนค่าปุ๋ยผู้ใหญ่บำรุง บอกว่าไม่ต้องจ่ายสักบาท
เนื่องจากเอาวัวกับควายที่มีอยู่
6 ตัว ไปผูกในนาทั้งปี
เป็นโรงงานผลิตปุ๋ยชนิดเคลื่อนที่ได้
รวมต้นทุนการผลิตทั้งหมด
11,950 บาท หรือ 1,494 บาทต่อไร่ (คิดต้นทุนได้กิโลกรัมละ 2.50
บาท) หากขายข้าวราคาท้องตลาดวันนี้
(13.50 บาทต่อกิโลกรัม) กำไรยังมีเหลือให้เห็นเป็นกอบเป็นกำ
"เพิ่มผลผลิตด้วยวิธีการให้ปุ๋ยทางใบ"
เป็นความรู้ใหม่ที่เราได้รับ สามารถเพิ่มคุณภาพผลผลิตข้าวไปพร้อมๆ
กับการลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมาก ในสภาวะวิกฤติรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ
สังคมและการเมืองร้อนๆ แบบนี้ หากชาวนาสามารถลดต้นทุนการผลิตได้
ถึงแม้ราคาข้าวจะตกต่ำแค่ไหน....ก็ไม่เดือดร้อน...เพราะถึงอย่างไรข้าวก็ยังมีอยู่เต็มยุ้งฉาง
ไม่ต้องซื้อข้าวเขากิน ผู้ใหญ่บำรุง ตลุตกำ
กล่าวทิ้งท้าย....