ทานข้าวส่งท้ายปีเก่ากันหน่อยนะคะ ^_^
End of Life Cost Care
เมื่อต้นเดือน ผมต้องไปบรรยายในหัวข้อ ค่ารักษาพยาบาล ๗ วันสุดท้ายของผู้ป่วยระยะสุดท้ายในโรงเรียนแพทย์ ให้ กลุ่ม UHOSNET หรือ เครือข่ายโรงพยาบาลของโรงเรียนแพทย์ ซึ่งตอนที่อาจารย์โทรศัพท์มาชวนนั้น แว๊บแรกผมค่อนข้างลำบากใจ เพราะไม่ว่างในวันดังกล่าว และค่อนข้างรู้สึกเป็นลบกับการบรรยายชื่อเรื่องนี้
แล้วผมก็รู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อเห็นรายละเอียดของวัตถุประสงค์ที่แจ้งมาตามหลัง โดยเฉพาะชื่อเรื่อง ถึงแม้จะเป็นภาษาไทยว่า ค่ารักษาพยาบาล ๗ วันสุดท้ายของผู้ป่วยระยะสุดท้ายในโรงเรียนแพทย์ แต่ภาษาอังกฤษ คือ End of Life CARE in Medical Schools
เป็นที่ทราบในวงการแพทย์ครับว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยโดยเฉพาะในช่วงสุดท้ายของชีวิต ยิ่งใกล้เสียชีวิตเท่าไร จะมีค่าใช้จ่ายเป็นสัดส่วนสูงมาก ทำให้มีคนหันมาสนใจแนวทาง การดูแลแบบประคับประคอง หรือ palliative care เพราะมีความเชื่อและมีการศึกษาหลายชิ้นบ่งบอกว่า สามารถลดค่าใช้ตรงนี้ได้ ถึงแม้จะมีข้อถกเถียงว่า การศึกษาดังกล่าวมีความลำเอียงในการเลือกกลุ่มศึกษา (selection bias)
แน่นอนครับ ผู้ที่รับผิดชอบในการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะผู้บริหารจึงหันมามองการรักษาแนวนี้มากขึ้นในปัจจุบัน
แต่สิ่งที่สำคัญมากๆ เป็นประเด็นหลักที่ผมหยิบยกขึ้นมาพูดในการบรรยายครั้งนี้ และอยู่ในใจของแพทย์ส่วนใหญ่ คือ การลดค่าใช้จ่าย จะต้องไม่ใช่วัตถุประสงค์แรกหรือเป้าหมายหลักของการดูแลแบบประคับประคอง หรือ palliative care ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ ความสุขสบายไม่ทุกข์ทรมานของผู้ป่วย
การเอาเรื่องลดค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องหลัก จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งโดยเฉพาะในประเทศที่ระบบการดูแลด้านนี้ยังไม่ดีพออย่างประเทศไทย เพราะ จะทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งไม่ได้รับการดูแลบรรเทาอาการต่างๆที่ควรจะเป็น ด้วยความเชื่อผิดที่ว่า การดูแลแบบประคับประคองคือไม่ทำอะไร และค่าใช้จ่ายไม่มาก ซึ่งไม่จริง
การดูแลแบบประคับประคองในผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ดี มีค่าใช้จ่ายพอสมควร เช่น การใช้ยาระงับปวดอย่างเพียงพอและพอเพียง และควรได้รับการจัดสรรทั้งงบประมาณและยาอย่างสมเหตุสมผล ไม่ควรมีความเชื่อผิดๆว่า ค่าใช้จ่ายไม่มาก
คำถามที่ว่า การดูแลแบบประคับประคองช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จริงหรือ เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลรักษาแบบเดิม ต้องถือว่าเป็นคำถามในอดีตไปแล้ว เพราะ ไม่ว่ามันจะลดค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ การดูแลตามแนวทางนี้ต้องเป็นการดูแลรักษามาตรฐาน (standard of care) ที่ผู้ป่วยทุกคนไม่ว่ายากดีมีจน ต้องได้รับเท่าเทียมกัน
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ที่เราต้องใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผลในสถานการณ์ที่งบประมาณและทรัพยากรมีจำกัด แต่ผลลัพธ์หลักที่ใช้ในการเปรียบเทียบจะต้องเป็น ความสุขสบาย ปราศจากอาการทุกข์ทรมานของผู้ป่วย ไม่ใช่ จำนวนเงิน
และผมก็ดีใจครับ ที่ในการประชุมวันนั้น เราคุยกันเรื่อง end of life care มากกว่า end of life cost
สวัสดีครับอาจารย์
ครับ
ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์เต็มศักดิ์ ผมรู้สึกดีกับ G2K ที่ทำให้ผมมีเพื่อนพ้องเยอะ ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว ที่จังหวัดยะลา มีกำลังใจด้วย ผมจะสู้ต่อเพื่อด้ามขวานของไทย
สวัสดีครับคุณครู
สวัสดีค่ะ อาจารย์ แวะมาศึกษาเรียนรู้ค่ะ อิอิ.. อาจารย์สบายดีไหมคะ
สวัสดีครับน้อง paula
ขอบคุณ ท่านอาจรย์ครับที่แวะไปให้กำลังใจ
ยินดีที่ได้รู้จักท่านรองครับ
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับอาจารย์หมอเติมศักดิ์
รักประเทศไทย ตำรวจเป็นมิตรใกล้ชิดประชาชน
สวัสดีครับท่านรอง รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์ หลังจากที่อบรมเผชิญความตายอย่างสงบที่โคราช หลังจากนั้นเราก็ได้ติดตามจัดพบปะกันโดยตลอด มีการ confrerence case มีการถอดบทเรียน เขียนเล่าเรื่องค่ะอาจารย์ ทำให้มีการเรียนรู้ร่วมกันจากกรณีต่างๆมากมาย มีกัลยานมิตรที่ดี มีเครือข่าย อาจารย์ได้ยินอย่างนี้ชื่นใจบ้างไหมคะ ทางโคราชเราจะขยันขันแข็งกันต่อไปค่ะ หนูขัดเกลาเรื่องเล่าเสร็จหนูจะส่งไปให้อ่านนะคะ
ขอบคุณครับคุณเติมศักดิ์
ขอให้ท่านและครอบครัวมีความสุขตลอดไปครับ
อย่าลืมช่วยกันตั้งจิตอธิษฐานให้เหตุการณ์ในภาคใต้สงบสุขโดยเร็วครับ
รักประเทศไทย ตำรวจเป็นมิตรใกล้ชิดประชาชน
สวัสดีครับ
ขอบคุณท่านรองครับ
ทานข้าวส่งท้ายปีเก่ากันหน่อยนะคะ ^_^
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณหมอ
สวัสดีปีใหม่ 2552 ฮะ พี่หมอเต็มศักดิ์
ขอให้ มีความสุขมากมาย ทุกวินาที นะฮะ
คุณครูทั้งสามและน้อง seen ครับ
.:*:*:*:*;.
*( '._.' )*
>")("< ....?..?...
,,,(")("),,, i WiSH
u r Safe
u r Happy
Every Minute, Every
Hour
Happy New Year : > 2009
สวัสดีปีใหม่ 2552 ค่ะ
มีความสุขในทุกๆวันนะคะ
โชคดี ตลอดปีและตลอดไป
J สุขภาพแข็งแรงค่ะ J
end of life care
เป็นคำกล่าวที่ น่าประทับใจ เคยมีประสบการณ์ชีวิต เกี่ยวกับ คำพูดนี้ด้วยค่ะ