ผมขอเขียนอะไรบางอย่างให้ผู้ที่เคยเรียกกันว่าเพื่อน เพราะหากแม้นว่าทุกอย่างที่เราทั้งสองเคยร่วมกันทำมานั้นมันมีความหมายพอ นี่ก็คงเป็นเสมือนมาลัยพวงสุดท้ายที่ผมเองพอจะถักทอมันเพื่อให้แก่มิตรภาพของเรา ก่อนที่กลิ่นมันจะจืดจางและเลือนหายไป
ผมไม่ได้หวังที่จะให้ทุกอย่างกลับคืนมาดีดังเดิม เหมือนดังเช่นก่อนเคย แต่ทว่าหวังเพียงให้เป็นสิ่งเตือนสติและย้ำอยู่เสมอว่าเราทั้งคู่เคยเป็นมิตรที่ดีต่อกันมา และผมเองก็ยังไม่ทราบแน่จนถึงบัดเดี๋ยวนี้ว่าเราห่างกันเพราะอะไร แต่ก็ยังยอมรับการตัดสินใจของเขาเสมอว่า “เธอคงมีความคิดและเหตุผลที่ดีพอ”
จำได้ว่าครั้งแรกที่เรารู้จักกันนั้นก็ไม่ได้สนิทสนมกันมากเท่าไหร่นักหรอก ดุออกจะไปคนละขั้วด้วยซ้ำ เพราะเราก็มาจากที่หนึ่ง เธอเองด้วยซ้ำที่เป็นเจ้าของพื้นที่ของ ม.สารคาม แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักกันก็คือเรียนห้องเดียวกัน แต่นั่นก็คงจะไม่ทำให้เราสนิทกันได้แน่หากไม่มีคำว่า “กิจกรรม” คำนี้มีความหมายและลึกซึ้งกับผมเองมาโดยตลอด เพียงการทำกิจกรรมร่วมกันที่คณะและได้มีโอกาสอันดีที่เราได้ร่วมงานกันอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบนเวที ล่างเวที หรือแม้แต่ค่ายต่างๆ จนนับไม่ถ้วนนั้น เราทั้งสองแทบจะบอกว่าเป็นคู่หูที่เข้าใจกันมากที่สุด หลายครั้งหลายคราที่เราเป็นที่ระบายความรู้สึกอัดอั้นให้แก่กันโดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนอื่นคนไกลเลย
หลายคนมองเราในแง่ที่แปลกออกไปแต่นั่นก็ไม่นานนักหรอก... เพราะความจริงเราเสมือนพี่น้องกันด้วยซ้ำ (ความรู้สึกเรา) เธอเองก็เคยบ่นให้ผมฟังบ่อยๆว่า เธอเหนื่อยและอยากจะหยุดกกิจกรรมทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อเราให้กำลังใจกัน ทุกอย่างก็เข้าที่ได้ดี เอาเป็นว่ามีปัญหาอะไรเราก็ร่วมกันรับรู้ช่วยกันมา
ครั้งเมื่อเราเป็นที่รู้จักกับสาธารณะชนทั้งหลายอย่างกว้างขวางออกไปนับว่าไกลพอควร จึงได้เกิดปรากฏการณ์ กลุ่มอิสระขึ้น ภายไต้ชื่อ “กลุ่มไหล” และแรงขับเคลื่อนจากพี่ๆ กองกิจการนิสิต เราทั้งคู่ก็ยังเป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนครั้งนั้น ไม่นานเลยที่เรายังนั่ง ยังหัวเราะ และรอยยิ้มที่ส่งให้กันอย่างจริงใจและมีความสุข
เพียงไม่กี่อึดใจที่ก้าวผ่านมา ในเวลาที่กลุ่มก้อนที่เราตั้งขึ้นมาด้วยกันกำลังเฟื่องฟูอย่างถึงที่สุด เธอเองกลับห่างหายจากเราทุกคนไป ทั้งๆที่ตัวเธอยังอยู่ แล้วนี่จิตใจที่เป็นผู้เอื้อเฟื้อ และเป็นมิตรเธอหายไปไหน หรือว่าพระยามัจจุราชได้กลั่นแกล้งจำแลงเอาความสัมพันธ์ของเราทั้งหลายไป หรือว่าเธอเองพยายามทดลองจิตใจเราบ้าง มันยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดมากขึ้น เมื่อมีใครต่อใครถามถึงเธอผู้เคยร่วมสุข ร่วมทุกข์กับเรามา
ยอมรับว่าครั้งแรกที่เธอมีความเปลี่ยนไปนั้นผมเองก็นึกโกรษและน้อยใจมาก หรืออาจจะว่ามากที่สุดก็ได้ เพราะเราบอกแล้วว่า ถ้าเราผิดเราจะยอมขอโทษทุกอย่าง แต่นี่เราก็ยังไม่รู้ และแล้ววันนี้เราก็ยอมแพ้ใจตัวเองที่กลับไปคิดถึงเธอมิตรที่เรายากจะลืมเลือน หากแม้นเวลาสามารถย้อนกลับคืนไปได้ สิ่งแรกที่ผมตั้งใจจะแก้ไขคือมิตรภาพระหว่างเรา และเชื่อว่ามันคงไม่เป็นอย่างนี้หากแม้นเธอได้เข้าใจอะไรบางงอย่างที่ถูกต้อง ปากที่เคยแข็งว่า “ไม่” เมื่อครั้งก่อนมาถูกความอิดออดของหัวใจกัดเทาะจนจะหมดแก่นอยู่วันนี้วันพรุ่ง
หากขอพรจากที่ใดก็ได้สักข้อ สิ่งที่ผมอยากจะขอคือ ขอให้ความสัมพันธ์เราทั้งสอง และผองเพื่อนกลับมาเหมือนเดิมจะได้ไหม ไม่มีคำว่ามิตรภาพใดจะยิ่งใหญ่กว่าคำว่า “เพื่อน” และไม่มีเพื่อนคนใดที่จะลืมเพื่อนได้ลง แม้เธอจะลืมฉัน แต่ขอให้เธอรับรู้ทีเถอะว่า ฉันยังจดจำวันเวลาที่ดี ของเราไว้เสมอ
.................................... นิรันดร์ของผองเพื่อน..........................................
คิดฮอดพี่นาง,แม่ป้า,น้าสาว
คิดฮดเขาเด้เนี๋ยเนาะ
เราเชื่อว่าเขาคงคิดเหมือนกับเธอนั้นแหละ
เรารู้ตัวอยู่หรอกว่าเกิดขึ้นเพราะเรา
เรามาเร็วเกินไป
เพียงแค่เราได้ออกอัลบั้มชุดเดี๋ยวเท่านั้น
เราก็ก้าวกระโดเข้ามาในกลุ่มของพวกเธอ
ทำให้กลุ่มของพวกเธอทั้ง 3 ที่ทำกิจกรรมที่ดีๆ ด้วยกันตลอดมา
กลับมาระหองระแหงเพราะเรา
เราหวังว่าเขาคงได้อ่านนะ
เหอะๆๆๆ
อิอิ...ขอล๊า...เก๋ๆ...
รู้สึกอยากเจอตัวเป็นๆของสมปองจัง พูดถึงคนอื่นเก่งจัง หุๆๆ