ขอบคุณครอบครัว Gotoknow ที่ให้ฉันได้พักพึ่งพิงอาศัยอยู่อย่างมีความสุขในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา
หนึ่งปี…ในครอบครัว Gotoknow
Learn…care...share...shine ฉันค้นพบได้จริงในครอบครัวนี้
วันนี้ในปีที่แล้วตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ เวลาเที่ยงวันพอดีฉันยังไม่รับประทานอาหารกลางวัน เพราะอยากสัมผัสโลกใบใหม่ ที่ชื่อ “gotoknow” ฉันไม่รู้จักมาก่อนว่า gotoknow คืออะไร อยู่ที่ไหน สำคัญอย่างไร และทำไมต้อง gotoknow ไม่คุ้นหูเลย แต่ฉันต้องเป็นสมาชิกของ gotoknow ให้ได้ ผู้ที่ให้ความกรุณาช่วยเหลือฉัน เป็นครูคนแรกของฉัน คือ อ.วิชัย ศรีสมบัติ ศึกษานิเทศก์ กลุ่มงานประกันคุณภาพการศึกษา กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต ๑ ผู้มากด้วยน้ำใจและมิตรภาพ
การที่ฉันต้องร้องขอครูวิชัย เพราะไม่ได้เข้ารับการอบรมเรื่องการสร้างบล็อก ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๐ เนื่องด้วยศึกษานิเทศก์ทุกคนได้โจทย์มาว่า “ทุกคนต้องมีบล็อกเป็นของตัวเอง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ” ฉันติดราชการไม่ได้เข้าอบรม ดังนั้นจึงต้องขวนขวายเองตามหลังพี่ๆ ครูวิชัยเริ่มสอนหลักสูตรแรก คือ การสมัครสมาชิก และแนะนำรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ซึ่งฉันก็บันทึกไว้อย่างละเอียด ได้แก่ การกรอกข้อมูลผู้สมัครและการส่งรูปเพื่อไว้ที่หน้าประวัติว่าต้องมีขนาด...ต้อง...และต้อง...ฉันยังไม่รู้จักคำว่า blog ไม่รู้จักคำว่า planet ไม่รู้จักคำว่า log in ไม่รู้จักคำว่ารหัสสุ่ม และอีกหลาย ๆคำ แต่ฉันก็รับคำครูวิชัยว่า “..เจ้า ๆ ” อยากให้การสมัครเสร็จโดยเร็วไวและความตั้งใจของฉันก็มีมากเกินกว่าจะหยุดหรือห้ามไม่ให้ทำต่อได้
ฉันเริ่มสร้างรูปของตัวเองขนาดตามกำหนด หลังจากทานข้างกลางวันเสร็จ ต้องแอบทำเพราะล่วงเลยเวลาทำงานมาแล้ว และกำลังตื่นเต้นสำหรับวิชาชีวิต วิชาใหม่ รูปที่ทำได้ คือรูปนี้ค่ะ(รูปแรก)สวยที่สุดแล้ว ถามครูวิชัยอยู่เหมือนกันว่าต้องใช้ด้วยหรือ ครูวิชัยบอกว่าใช่ ต้องใช้ชื่อจริงๆ รูปจริงๆ ความเป็นคนว่านอนสอนง่ายก็พร้อมทำตามค่ะ ยิ้มร่าเชียว.. (ถ้าทราบมาก่อนว่าใช้ชื่อเล่นๆได้ ไม่ต้องบอกข้อมูลทั้งหมดก็ได้ ก็คงทำแล้วค่ะ ถอยหลังไม่ได้ซะแล้วตอนนี้..สายไปเสียแล้วเจ้าค่ะ)
รูปแรกค่ะ.. รูปที่สองค่ะ(ไม่ยิ้มเลย)
เพื่อนๆหลายท่านอาจจำได้ แต่เดี่ยวนี้ลบแล้วเพราะมีคุณครูสาวน้อยคนหนึ่งบอกว่า ”ศน.ขา..รูปของศน.ดูแล้วน่าจะอายุประมาณ 30 ต้น ๆ เท่านั้นเอง” ทำให้ฉุกใจคิดว่า เอ ! จะถูกว่าไหมหนอว่าหลอกลวงผู้อ่านเรื่องอายุ รู้สึกกังวลอีกแล้ว จริงๆแล้วภาพนี้บันทึกวันที่ 14 มิถุนายน 2548 ครั้งที่อบรมเป็นวิทยากรหลักสูตรใหม่ จะว่านานก็ไม่ใช่จะว่าใหม่ก็ไม่เชิง จึงขวนขวายหารูปใหม่ ที่จะให้ดูสมวัยตามจริงแต่คง Concept เดิมคือ ดูดีหน่อยเพื่อคนอ่านจะได้สนใจบ้าง ก็หาได้รูปนี้(รูปที่สอง)ใช้อยู่หลายเดือนค่ะ แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนอีกแล้วเป็นครั้งที่สาม คือภาพ ณ ปัจจุบัน เพราะต้องการให้เข้ากับบุคลิกของตัวเองที่ชอบยิ้มเป็นชีวิตจิตใจ คงจะใช้ไปตลอดที่อยู่ในครอบครัวอันอบอุ่นนี้ค่ะ(ดูข้างบนเอานะคะ..ยิ้มสวยเช่นกัน..ภาพสวยที่สุดแล้วค่ะมากกว่าตัวเป็นๆ..อิๆ)
ฉันเริ่มใช้ชีวิตในโลกใบใหม่อย่างตื่นเต้น ก้าวเดินอย่างล้มลุกคลุกคลาน ลองผิดลองถูก ร้องขอความช่วยเหลือจากคุณครูและเพื่อนๆ ศึกษาจากบันทึกต่างๆ ของเพื่อนๆและผู้รู้
4. วัชราภรณ์ วัตรสุข เมื่อ จ. 19 พ.ย. 2550 @ 08:18 461905 [ลบ] "อ้าว ! นึกว่าทำถูกแล้ว แต่รูปยังไม่มาเลย..ท่านผู้รู้ช่วยบอกด้วยค่ะ..ทำอย่างไรให้รูปปรากฏด้วยคะ"
5. วิชัย ศรีสมบัติ เมื่อ จ. 19 พ.ย. 2550 @ 14:17 462268 [ลบ] อ่านแล้วทั้งสามตอน...ชอบเหมือนที "ครูตุ๊กแก " ชอบ" ปัญหารูปที่ยิ้มสวย ๆ ท่าทางใจดี ยังไม่ขึ้นนั้นไม่เป็นไร แต่ "มือที่สาม" ต้องมีต่อและอย่าลืมนะครับสำหรับรูปอยากให้ลองอีกครั้งโดย login (เข้าระบบ)ให้เรียบร้อยก่อน ก่อนที่จะคลิกเพื่อแสดงความคิดเห็น...ลองอีกครั้งดีไหม
ความมุ่งมั่นและความตั้งใจของฉันมีเกินร้อย ฉันเอา “ใจ” ของฉันใส่ลงไปในการพิมพ์งานทุกครั้ง ฉันขยันอ่าน ขยันเขียน และบันทึกอย่างมีความสุข ติดอยู่นิดเดียวตรงที่งานประจำค่อนข้างเยอะและมีต่อเนื่อง จึงทำให้ผลงานเขียนและการทักทายเพื่อนบ้านค่อนข้างขาดเป็นห้วงๆ ฉันจึงเหมือนลูกหลานปลายแถวในครอบครัวนี้ เพราะฉันทำตัวของฉันเองด้วยเหตุผลดังกล่าว อย่างไรก็ตามฉันก็พยายามทำตัวเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวเท่าที่จะทำได้ ฉันสร้างบ้านเล็กๆ ตั้งหลายหลังค่ะ ณวันนี้ฉันมีบ้านเล็กๆน่ารักๆ อยู่ ๔ หลัง ในครอบครัวใหญ่แห่งนี้
บ้านหลังที่ ๑ ฉันตั้งชื่อว่า “บ้านภาษาไทย” ฉันตั้งใจพูดคุยกับเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย สื่อและเทคนิคการสอน การวัดและประเมินผล การสอนซ่อมเสริมนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านการเขียนภาษาไทย และเรื่องสัพเพเหระเกี่ยวกับภาษาไทย
บ้านหลังที่ ๒ ชื่อ “วิจัยภาษาไทย เทิดไท้องค์ราชัน” ฉันรักการทำงานอย่างเป็นระบบ ดังนั้นจึงรักการวิจัยด้วย และฉันก็ได้ตั้งปณิธานไว้แล้วว่า จะตามรอยพ่อ และทำเพื่อพ่อ.. พ่อคงให้อภัยและไม่ถือโทษ เพราะฉันไม่ได้ดูแลบ้านหลังนี้เท่าที่ควร เนื่องจากสะดุดความรู้สึกอยู่หลายๆเรื่อง เข้าทำนอง..ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน..พอแตกใบอ่อนเป็นมะลิลา.. อย่างไรก็ตามฉันจะรีบเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ้านหลังนี้โดยเร็ว เพื่อให้น่าอยู่ดังเดิม
บ้านหลังที่ ๓ ชื่อ “Home School” บ้านหลังนี้ฉันสร้างขึ้นด้วยใจรักที่มีต่อครอบครัวก้านตองเป็นสำคัญ หากเปรียบเหมือนบ้านพักตากอากาศก็คงคล้ายๆอยู่ แต่ฉันไม่ได้เพียงต้องการตากอากาศยามที่ใจต้องการเท่านั้น ฉันต้องการให้เป็นแหล่งพักพิงที่อบอุ่นสำหรับ”บ้านเรียนก้านตอง” ตลอดไปตราบที่ครอบครัวก้านตองยังคงจัดการศึกษารูปแบบบ้านเรียน (Home School) สำหรับน้องก้านตองอยู่
บ้านหลังที่ ๔ ชื่อ “คลินิกเพื่อใจเพื่อนครู” ฉันสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยความต้องการของเพื่อนบ้านที่เป็นคุณครูในเรื่องที่กำลังเดือดเนื้อร้อนใจ และต้องการคำพูด คำอธิบาย ไขข้อข้องใจ พร้อมทั้งปลอบประโลมใจในการคลายความทุกข์ได้เหมือนคุณหมอ แต่ก็ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง เพราะฉันไม่ได้เป็น expertness ในทุกเรื่องราว ฉันได้รับความกรุณาเอื้ออาทรจากคุณหมอภาษาตัวจริงและเพื่อนบ้านที่น่ารักช่วยเป็นคุณหมอ ที่สำคัญคือหมอกับคนไข้แว๊บๆหาย..พอๆกัน ต่อไปคงได้ต้องเชิญให้คุณครูเป็นคนไข้เยอะๆ เจ้าของบ้านที่เป็นหมอก็จะได้ทำงานอย่างสมภาคภูมิบ้าง
มีเพื่อนบ้านที่แสนดียืนยันค่ะ ว่าฉันขยันจริง…ครูพี่อ้อยเข้ามาคอมเม้นต์ ใน blog บันทึกชีวิต หัวข้อ “หนึ่งเดือนแล้วค่ะ” สิริพร กุ่ยกระโทก เมื่อ 17 ธ.ค. 2550 493494 “เขียนแบบนี้ หากครูอ้อยเป็นกรรมการ ครูอ้อยเทคะแนนให้หมดเลยค่ะ หนึ่งเนื้อหาได้ A สองขยันหมั่นเพียร ได้ A สามขยันอ่านได้ A สี่เจ๊าะแจ๊ะ ได้ A เขามีอะไรอีก ฮึ! กรรมการท่านอื่นๆ ..น่ารักจริงน้องรัก” ฉันตกใจกับคำว่า “เจ๊าะแจ๊ะ” หมายถึงอะไรนะนี่ ฉันไปพูดอะไรไปไม่ดี ไม่เหมาะสมหรือเปล่า แต่เอ! ถ้าไม่ดี ทำไมพี่อ้อยให้ตั้ง A แน่ะ พี่อ้อยต้องมองบวกแน่นอน คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน (บันทึกนี้ปิดไปแล้วค่ะ..มีเหตุผลเล็กน้อย..อิๆ)
ความรู้สึกของฉันในการเรียนรู้ มีหลากหลายเชียวหละ ฉันตกใจและเครียดเมื่อพิมพ์บันทึกได้เยอะแยะมากมายแล้วเว็บหลุด งานที่ฉันกลั่นกรองมาจากสมองแบบสดๆ ไม่มีร่างไว้..หมดเลย ฉันแทบร้องไห้ตั้งหลายครั้ง บางครั้งต้องออกไปทำงานอื่นก่อนแล้วกลับมาเรียบเรียงความคิดใหม่ เริ่มพิมพ์ใหม่อีก เพราะฉันไม่รู้มาก่อนว่าพิมพ์ไว้ข้างนอก แล้ว Copy มาวางก็ได้
ฉันน้ำตาตกแบบว่าร้องไห้จริงๆ เมื่อฉันไปเยี่ยมเพื่อนบ้าน อ่านบันทึกของเพื่อนๆ แล้วอยากพูดคุยด้วย เขียนบันทึกตอบไปบนพื้นฐานของการทำไม่เป็น สุดยอดของความเสียใจ เพราะฉันไม่รู้จักคนที่ฉันคุยด้วย ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรบ้าง โผล่ไปแต่ชื่อบ้าง โผล่ไปแต่หน้าบ้าง บางครั้งพิมพ์ตั้ง ๕ บรรทัดแต่โผล่ไปบรรทัดเดียว บางทีมีเครื่องหมายโค้ดต่างๆติดออกไปด้วย ฉันไม่ได้อาย แต่ฉันเสียใจที่ไปทำให้บันทึกของเขาเสียหาย ฉันได้ข้อคิดว่า “แก้ไขตัวเองได้ แต่ไปแก้ไขคนอื่นไม่ได้” เพราะฉันไม่ทราบว่าในการคอมเมนต์เมื่อบันทึกแล้วแก้ไขไม่ได้ ต้องเป็นเจ้าของบันทึกจึงจะลบได้ ในบางครั้งอยากจะมัดนิ้วมือติดไว้กับแป้นพิมพ์ก่อนที่จะกดบันทึก ก็ฉันเป็นคนมือไวจริงๆนี่นา ขาดการไตร่ตรองก่อน แต่พอนานวันเข้าก็เริ่มรอบคอบขึ้น คุณความดีนี้ขอยกให้คุณครูธ.วัชชัย ครูภาษาไทยตัวจริงเสียงจริงที่กรุณาเป็นหมอภาษาคอยบอกกล่าวโดยตลอดเรื่อยมา
ฉันปลื้มใจมากที่มีเพื่อนๆมาทักทายและเยี่ยมเยียน มีความสุขมากเมื่อเพื่อนๆชมว่าบันทึกสวย ภาคภูมิใจเมื่อเพื่อนๆชมเนื้อหาที่นำเสนอและบอกให้เขียนต่อ ฉันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ความผูกพัน ความเอาใจใส่ มิตรภาพและสายใยรัก ที่ผู้ใหญ่ที่เคารพหลายท่านกรุณามอบให้ รวมทั้งเพื่อนๆ ที่ฉันไม่รู้จักตัวตน ได้ส่งให้ผ่านตัวอักษรที่ฉันสามารถสัมผัสได้ถึง ..ทุกความรู้สึก..
ฉันทึ่งในภูมิรู้ของเพื่อนๆ ที่เป็นเจ้าของแต่ละบันทึก ที่รู้จริง รู้ลึกนำเสนองานเขียนที่เป็นงานคุณภาพจริงๆ ทำให้ฉันได้รับรู้เรื่องราวต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ฉันไม่จำเป็นต้องเขียนอย่างเดียว ฉันแวะเวียนไปอ่านบันทึกของเพื่อนๆคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง อ่านไปเรื่อยๆ จนบางคืนเกือบค่อนสว่าง เพราะฉันรักการอ่านเป็นทุนอยู่แล้ว บางครั้งเมื่อเพื่อนใหม่มาเยี่ยมฉัน ฉันยังไม่รู้จักเขา ฉันก็ไปอ่านเรื่องราวของเขาเพื่อทำความรู้จักแต่เรื่องราวของเขาแต่ละบันทึกเป็นเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดฉันไว้แบบติดแน่นถอนตัวออกมาไม่ได้เลย เรื่องนั้นก็ดี เรื่องนี้ก็น่าอ่าน โอ้โฮ! บางครั้งเป็นคืนเป็นวันเชียว แทบเสียงานตั้งหลายครั้งค่ะ..
ฉันไม่กล้าพูดคุยกับเจ้าของบันทึกหลายๆบันทึก เพราะรู้สึกไม่กล้า บางเรื่องราวของท่านผู้อาวุโสกว่าทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิและประสบการณ์ ที่เป็นหลักพึ่งพิงในครอบครัว บางบ้านฉันก็รู้สึกเกรงใจ ทั้งๆที่เจ้าของบ้านอ่อนวัยกว่า แต่ด้วยฉันไม่ได้ทักทายด้วยตั้งแต่เริ่มแรก ความเกรงใจจึงมีต่อเนื่อง ฉันจึงเพียงขอเข้าไปอ่าน เข้าไปเรียนรู้ ทำความรู้จักแบบเงียบ ๆ เพียงเท่านี้ก็พอใจแล้ว บางครั้งฉันก็คิดว่าตัวเองทำไม่ค่อยถูกต้องเหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่กล้าอีกนั่นแหละ ...อย่างไรก็ตามฉันก็คิดว่าเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวนี้อยู่
แรก ๆ ฉันสัมผัสได้ว่าครอบครัวนี้ยังแบ่งเป็นกลุ่มครอบครัวเล็กๆอีกหลายกลุ่มทีเดียว โดยแต่ละกลุ่มก็จะมีสมาชิกที่ค่อนข้างสนิทสนมกลมเกลียวกันอยู่ บางครอบครัวค่อนข้างใหญ่และหนาแน่น รักกันจริงๆ ห่วงหาอาทรกัน แบ่งปันกัน ฉันเฝ้ามองดูอยู่ห่าง ๆ ด้วยความชื่นชม ในความรักใคร่กลมเกลียวกัน แต่อาจเนื่องด้วยภาระงาน หรือหน้าที่การงานของแต่ละท่าน หรือเหตุผลใดๆ ก็ไม่ค่อยแน่ใจ ในระยะหลัง ๆ ฉันจึงเริ่มเห็นว่า ครอบครัวเล็ก ๆ ค่อยสลาย กลายเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวเดียว ทุกคนผูกเชื่อมใจถึงกันหมด อีกทั้งมีสมาชิกใหม่ของครอบครัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กิจกรรม tag ที่คนในครอบครัวช่วยกันจัดขึ้น ทั้ง tag คิดเอย..คิด(ไม่)ถึง ที่คุณหมอเบิร์ดเริ่มถักทอ และ tag ความลับ ไม่แน่ใจค่ะ..ว่าน้องมะปรางเปรี้ยวหรือไม่ที่ริเริ่ม ยิ่งระบุว่าอย่างน้อย ๕ คน จึงทำให้พี่น้องในครอบครัวต่างรีบส่งสายใยรักถึงกันอย่างพัลวัน จนกระทั่ง ณ บัดนี้ก็ยังมีเพื่อนๆ พี่น้องหลายท่านกำลัง tag บอกความลับกันอยู่ ชื่นใจค่ะ..กับกิจกรรมนี้ พูดถึงคุณหมอเบิร์ดแล้วคิดถึงจังค่ะ..คุณหมอหายไปไหนคะ (ขออนุญาตส่งสายใยแห่งความรักความคิดถึง..ถึงคุณหมอแทนเพื่อนๆค่ะ)
ณ วันนี้..เวลานี้ ครบขวบปีพอดี ฉันมีความสุขในครอบครัว Gotoknow ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวนักก็ตาม แต่ฉันก็จะไม่ทำให้ครอบครัวเกิดความเสียหายหรือเดือดร้อน ฉันค้นพบแล้วว่า Learn…care...share...shine มีที่นี่จริง ฉันพบ :
ครูชีวิตที่ดี : พ่อครูทนัน พ่อครูบาสุทธินันท์ อาจารย์พลเดช วรฉัตร ศาสตราจารย์วิชาญ อาจารย์ลุงเอก อาจารย์JJ ท่านผอ.ประจักษ์ ท่านอาจารย์ศศินันท์ อาจารย์คนไร้กรอบ นพ.วัลลภ คุณครูพิสูจน์ ดร.สุพักตร์ อ.handy อ.คุณลุงอัยการชาวเกาะ อ.คุณหมอคนชอบวิ่ง คุณครูพี่อ้อย ลุงหนานพรหมมา และ ...ฯลฯ....ย้ำ ๆค่ะว่ามีอีก แต่อาจกล่าวนามไม่ครบ* ทุกท่านสอนวิชาชีวิตให้ลูกๆหลานๆเพื่อนๆ น้อง ๆ ในครอบครัวแห่งนี้ได้นำเป็นแบบอย่างและแนวทางได้อย่างยอดเยี่ยม
เพื่อนชีวิตที่ดี : ครอบครัวของเราเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน คุณหมอภูสุภา น้องเอกจตุพร ครูธ.วัชชัย อ.ขจิต คุณหมอเบิร์ด พี่ชายลิงล้านนา พี่เหมียว น้องคนไม่มีราก อ.วสวัตดีมาร อ.แผ่นดิน อ.กวินทรากร(ชอบชื่อนี้ค่ะ) พี่อักษร คุณครูพรรณา คุณครูกั๊ตจัง อ.นารี ครูพี่เอื้องแซะ ดร.ธวัชชัย น้องมะปรางเปรี้ยว ป้าแดง ท่านหัวหน้าลำดวน คุณป้าจุ๋ม คุณหมอเจ๊แซ่เฮ คุณหมอมัทนา อ.wwibul น้องครูปู น้อง poo ครูตุ๊กแก ครูโย่ง ครูเอ ครูแอน น้องต้อมเนปาลี อ.อึ่งอ๊อบ น้องดาวลูกไก่ชื่นชมยินดี อ.แอมแปร์ คุณหมอไก่ น้องครูแอ๊ว น้องครูมิม น้องครูแนน คุณหมอแก้วอุบล คุณนายดอกเตอร์ คุณคนโรงงาน น้องพอลลา อ.paew คุณโอ๋-อโณ อ.สิทธิรักษ์ อ.รักษ์นะ อ.อ้อยควั้น อ.ลูกหว้า อ.อาลัม อ.ยูมิ คุณใบไม้ย้อนแสง ครูข้างถนน คนพลัดถิ่น คูณเกษตรอยู่จังหวัด ผศ.วศิน ดร.ซิว ครูส้ม ครู KruToy อ.palyon อ.ดร.ประพนธ์ คุณหมอไก่ ครูสุนันทา ครูบ้านใหม่น้ำจุน และ ....ฯลฯ....ย้ำ ๆค่ะว่ามีอีก แต่อาจกล่าวนามไม่ครบ* เพราะยังไม่ได้ติดตามอ่านเรื่องราวของเพื่อนใหม่ค่ะ เห็นแล้วค่ะว่ามีเพิ่มตั้งเยอะอยู่ ปีหน้าถ้ายังอยู่จะกล่าวนามให้ครบเชียวค่ะ..(ทวนความจำของตัวเอง) ท้ายสุดก็สมาชิกตัวน้อย ๆในครอบครัวที่น่ารักของพวกเรา โก๊จิจังและน้องหนุมานชาญสมร..ที่มาแรงแซงทางโค้งเข้าไปนั่งในหัวใจของปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา..กันเรียบร้อยแล้ว และก็แน่ใจว่าทั้งสองจะเป็นสมาชิกที่ดีเยี่ยมของครอบครัว Gotoknow ต่อไปในอนาคตได้แน่นอน
ข้อคิดชีวิตที่ดี..ฉันพบมากมายในแต่ละบันทึกที่สามารถเป็นครูชีวิตของฉันได้ ฉันชอบของพ่อครูทนันที่พูดถึงเรื่องราวของชีวิตได้กระทบใจดีแท้..(อยู่ในกล่องคอมเมนต์ที่ ๑ ค่ะ)