ตลาดนัดกับความสุขทางใจที่เกิดขึ้น


นานเลยไม่ได้บันทึก ช่วงนี้ขยันเอามากๆ ตอนเย็นหลังเลิกงานก็กลับบ้านมาขุดร่องผักบุ้งเพื่อหว่านร่องต่อๆไป เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 พ.ย. 51) ได้ไปเดินตลาดนัดวันอาทิตย์กะว่าไปเลือกเดินดูถุงเท้าสักคู่ และกางเกงยีนส์สักตัว แต่เดินผ่านแผงขายซีดี(ก๊อป) ก็แวะดูมีหลายเพลงที่อยากได้เลย กะว่าจะซื้อเหมือนกัน แต่ก็อดใจจนได้ เดินผ่านร้านถุงเท้าก็เลือกดูได้มา 1 คู่ สมใจอยากจะว่าไปแล้วก็ใช้ถุงเท้าเปลืองเหมือนกันนะเนี่ย เฉลี่ยแล้วซื้อเดือนละ 1 คู่ได้ มีใช้ทีละ 3 คู่เอง ไม่รู้เป็นไรถุงเท้ามันชอบขาดนิ้วชี้ประจำเลย พอขาดข้างนึงแล้วเราก็ไม่อยากใส่มันล่ะเลยต้องทิ้งไป

 

ผ่านร้านกางเกงยีนส์ก็เลือกดูไม่ถูกใจสักร้านเลย เป็นอันว่าไม่ได้กางเกงยีนส์ ใส่จนกางเกงเปื่อยแล้ว คงจะต้องได้เร็วๆนี้ล่ะ มีแค่ 2 ตัวเอง และหลังจากนั้นก็เดินไปยังโซนของกิน มีของกินเพียบเลย ชมพู่แดงก็อยากกิน ชมพู่เขียวก็น่าอร่อย  น่ากินทั้งนั้นเลย

 

พอเดินผ่านร้านขายเนื้อหมู ใจนึงก็แว๊บขึ้นมา เอ..ยายมีอะไรไว้ทำกับข้าวกินเลยซื้อหมูไปไว้ให้ยายทำกับข้าวกิน ครึ่งโล ก็ 40 บาท ลืมบอกไป ตอนนี้ผมอยู่กับยาย 2 คน แม่นั้นไปดูแลยายอีกคนซึ่งไม่สบายอยู่ ยายก็อายุ 86 ได้แล้วมั้งแกยังแข็งแรงอยู่เลย ลุกขึ้นมาทำกับข้าวกินเองทุกวัน หุงข้าวด้วยถ่านด้วยฟืนนี่ล่ะ ใส่บาตรตอนเช้าทุกวัน (ผมยังนอนไม่ตื่นเลย) ส่วนผมนั้นก็หากินในตลาดเอง

 

พอได้หมูก็เดินต่อ ไปอีกนิดก็เจอศิลปินตาบอดสองผัวเมีย ผมก็ล้วงเอาเงินในกระเป๋าสะพายออกมา หยิบมาได้ 2 เหรียญ เหรียญ 5 กับเหรียญ 10ตอนแรกก็ลังเลอยู่ว่าจะให้เหรียญไหนดี ไปๆมาๆใจมันคิดช้ากว่ามือ ผมหย่อนทั้ง 2 เหรีญลงไปในกระป๋อง แล้วใจมันก็คิดขึ้นมาเลยว่า เขาทำงานกัน 2 คนนิ คนนึงร้องเพลง คนนึงเล่นกีต้าร์ ก็ให้ 2 เหรีญเลยเป็นไรไป หลังจากนั้นก็ยืนฟังเพลงอยู่พักนึง จนจบเพลงแม้เพลงจะไม่ได้ไพเราะเหมือนต้นฉบับเขาที่ผมฟังก็ตามก็เขาก็ร้องด้วยใจ ทุกครั้งที่ผมเจอขอทาน ถ้าหากว่าเขาไม่ได้นั่งได้นอนเฉย แต่มีการร้องเพลงผมก็จะให้เงินเสมอ เพราะถือว่าเขาก็ทำงานอย่างหนึ่งของเขาคือเขาร้องเพลง ให้ความบันเทิง ความเพลิดเพลินแก่คนผ่านไปผ่านมา ถึงแม้มันจะไม่ได้สนุกอย่างในผับในบาร์ก็ตาม

 

และผมก็ได้ซื้อ ปลาทูอีก 1 เข่งให้ยาย เดินออกจากตลาดนัดวันนั้นผมรู้สึกดีหลายๆอย่าง ที่ผมได้คิดถึงคนอื่นมากกว่าที่จะคิดถึงตัวผมเอง วันนั้นผมก็แวะที่ตลาดซื้อข้าวขาหมูไกินซะ 1 กล่องมันก็ไม่กินท้องเท่าไรหรอก แต่มันก็อิ่มใจที่บรรยายไม่หมด เดี๋ยวเอาไว้เขียนเรื่องผักบล็อกหน้าละกันครับ มีเรื่องเล่าอีกเยอะเลยที่ไปเจอมา

หมายเลขบันทึก: 222964เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2008 21:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

แวะมาอ่านบทความคนมีความดีคิดถึงคุณยาย ค่ะ 

*สวัสดีค่ะ

*แวะมาตลาดนัดกับความสุขทางใจ

ขอบคุณค่ะ

คุณนี่..ขี้เหนียวเหมือนกันนะให้เงินขอทาน 2 เหรียญ ต้องยืนฟังเพลงจนจบกลัวไม่คุ้มหรือไงคะ แฮะ แฮะ ล้อเล่นน่า.....ขอให้มีความสุขนะคะอ่านแล้วรู้ว่าคุณเป็นคนดีมากเลยที่คิดถึงยาย

คุณหมอนอิง - ยังดีไม่พอหรอกครับ ทุกๆวันถึงแม้จะซื้ออะไรมาไว้ในตู้เย็นให้ยายทำกิน แต่สิ่งที่ผมไม่ได้ทำคือ นั่งกินข้าวกับยายล่ะครับ ยายยังกินข้าวคนเดียวอยู่เลย เอาไว้ถ้าว่างจากงานบ้างผมก็จะนั่งกินข้าวกับยายบ้าง เมื่อก่อนก็กินข้าวกันทุกวันหลังๆงานเยอะล่ะครับ เลยห่างหายไป

สวัสดีค่ะ คุณ temus

ถ้าว่างๆช่วงวันที่ 5 - 7 พวกเราจะไปภูทับเบิกอีกรอบนะคะ

และก็จะเป็ฯครั้งที่ 14 ของอ้อมด้วย

ยังไงถ้าว่างๆไปเจอกันที่นู้นนะคะ

ว่าแต่ตอนนี้ที่เพชรบูรณ์อากาศเป็นยังไงบ้างค่ะ

ตอนที่เพชรบูรณ์อากาศคงที่ หนาวเล็กน้อยล่ะครับ ไม่มากนัก สบายๆ 5-7 ธันวา ผมคงจะบายไม่ได้ไปไหนล่ะครับ เพราะ 1 คือตรงวันที่ 5 ธันวา งานนี้ไม่ได้ไปไหนแน่นอน และคืนวันที่ 7 อยู่เวรสำนักงานล่ะครับ ยังงัยก็เก็บภาพสวยๆมาให้ชมบ้างนะครับ

  • สวัสดีครับ
  • แวะมาทักทายครับ

ดีจังเลยค่ะ

หาความสุขทางใจมาเพิ่มอีกนะค่ะ

ดีจังเลยค่ะ

หาความสุขทางใจมาเพิ่มอีกนะค่ะ

แวะมาเยี่ยมเยียนและทักทายครับ

เรียน คุณtemus

ผลของให้การให้ จงได้รับผลตอบแทน คือ ความสุขทางใจ

ที่ใครๆ ก็ไม่สุขปาน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท