ทีมวิจัยผมมาปรึกษาเรื่องพัฒนาโครงการวิจัยผู้สูงอายุ ผมเลยคิดถึงคุณยายวง ผู้สูงวัยท่านหนึ่งที่ผมอยากเรียกว่าเป็นผู้ใจสว่างในโลกมืดกว่า 20 ปีในห้วงชีวิตยามชรา
เมื่อตอนวัยรุ่นกว่า 30 ปีแล้ว ผมได้เป็นเด็กวัด วัดเขาวังราชบุรี จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นวัดที่ญาติโยมมักกล่าวถึงว่าเป็นวัดที่เคร่ง ขณะนั้นเจ้าอาวาสคือหลวงปู่ พระครูภาวนานิเทศก์ ซึ่งเป็นที่กล่าวถึงกันว่าเป็นพระอาจารย์ที่สอนและให้การศึกษาอบรมเก่ง อีกทั้งเน้นพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดอย่างยิ่งแบบไม่มีข้อยกเว้น จึงจัดเป็นวัดที่โดดเด่นทั้งความเป็นสำนักปฏิบัติแนววิปัสนากรรมฐาน แหล่งการศึกษาพระปริยัติธรรม และให้การศึกษาอบรม กล่อมเกลาคนทุกกลุ่ม-ทุกระดับอย่างได้ผล
ระหว่างที่เป็นเด็กวัดอยู่ที่วัดราชบุรีนั้น มีแม่ชีสูงวัยอยู่ท่านหนึ่งชื่อยายวง อายุกว่า 80 ปี ท่านเป็นคนตาบอดตาใส สูงวัยมากกระทั่งตาเสื่อมสภาพ แม้ลืมตาอยู่แต่ก็มองอะไรไม่เห็นแล้ว ทว่า ยายวงกลับทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ไปไหนมาไหนบนวัดเขาวังได้ทั่ว และมีวิถีปฏิบัติในทุกวันที่แสนงดงาม ดำเนินชีวิตในสภาพที่มองไม่เห็นอยู่เกือบ 20 ปี ซึ่งตรงนี้นั่นเองที่เป็นความประทับใจของทุกคนที่เห็นกิจวัตรตลอดช่วงอายุขัยตอนปลายของคุณยาย โดยเฉพาะผม
ทุกๆเช้าและยามเย็น คุณยายวงจะออกเดินหลังงุ้ม มือขวาถือไม้กวาดทางมะพร้าว แล้วก็จะมีแบบแผนการทำกิจกรรมและปฏิบัติ เส้นทางที่ไป และสถานที่ที่ไป อย่างแน่นอนและแม่นยำ โดยผู้คนทั่วไป หากไม่ทราบมาก่อนก็จะไม่รู้เลยว่าทั้งหมดที่คุณยายทำนั้นคุณยายวงตามองไม่เห็น
ตอนเช้า คุณยายจะเดินค่อยๆกวาดลานวัดที่เป็นแนวทางเดินของพระจากแดนพระไปยังศาลาและทางเดินรอบพระอุโบสถ ก่อนจะวนกลับ ยายวงก็จะไปยังหิ้งบูชาพระซึ่งทำขึ้นจำเพาะให้เป็นของคุณยายวง อยู่ข้างพระอุโบสถและวางอยู่บนคาคบของต้นดอกแก้ว ยายวงจะกวาดลานวัดแถวนั้นแล้วก็นั่งลงที่เดิม หันหน้าไปยังพระประธานในพระอุโบสถซึ่งมีหิ้งบูชาพระบนต้นดอกแก้วอยู่เบื้องหน้าคุณยายพอดี
ผนังพระอุโบสถรอบด้านที่กางกั้นนั้น คนตาดีก็จะมองไม่เห็นเป็นอย่างอื่นไปได้นอกเสียจากผนังทึบอันว่างเปล่า ทว่า ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อคุณยายที่จะนั่งสวดภาวนาน้อมสักการะไปยังเบื้ององค์พระประธานในพระอุโบสถที่คุณยายคงเห็นอย่างแจ่มชัดอยู่เสมอ ไม่ใช่ด้วยตาซึ่งบอดไปนานแล้ว ทว่า ภาพพระประธานซึ่งคุณยายประทับฝังแน่นเป็นภาพพิมพ์ใจผ่านการเป็นผู้นั่งใกล้พระศาสนาและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทุกเมื่อเชื่อวันตลอดชีวิตนั่นเอง ที่ทำให้คุณยายเห็นอย่างแจ่มกระจ่างด้วยใจ
ภาพยายวง :
ที่วางแจกันและเครื่องบูชาพระของคุณยายวงวางอยู่บนต้นดอกแก้วข้างพระอุโบสถ
วาดภาพประกอบ :
วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เสร็จแล้วก็กราบ แล้วก็จะค่อยๆกวาดลานวัดต่อไป จากนั้นก็เดินไปยังด้านหน้ากุฏิหลวงพ่อ เมื่อไปถึงตรงบันไดขึ้นกุฏิก็นั่งประนมมือตรงไปยังหลวงพ่อ นั่งสวดมนต์ภาวนา หลวงพ่อก็จะหยุดและนั่งสงบนิ่งเหมือนกับภาวนาเพ่งความใส่ใจไปยังสิ่งที่คุณยายกำลังปฏิบัติไปด้วยทุกครั้ง ซึ่งเป็นอาการแสดงความเคารพต่อกันที่แสนงดงาม(1) เสร็จแล้วก็กราบ แล้วจึงเดินกวาดลานวัดกลับไปยังแดนของแม่ชี ทำอย่างนี้อย่างไม่มีผิดพลาด
ตอนเย็นก็จะทำอย่างนั้นอีก ทว่า เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างคือ คุณยายจะเดินเก็บดอกลั่นทมบนลานวัดไปด้วย บางส่วนก็ไม่ลืมที่จะนำไปกองบนหิ้งบูชาพระ แล้วก็ทั้งหมด ก็จะเก็บรวบรวมไปตากให้แห้งขายให้คนที่รับซื้อไปทำน้ำอบแป้งร่ำเพื่อนำสตางค์มาทำบุญ
ถึงแม้ตาบอดมองไม่เห็นและสูงวัยมาก แต่ยายวงก็ยากนักที่จะออกปากให้ใครช่วยเหลือ แล้วก็เป็นเรื่องที่แปลกที่คุณยายกลับมักทักทายคนได้ถูกต้องเสียเป็นส่วนใหญ่ เพียงได้ยินเสียงการเดินและตำแหน่งที่ได้พบปะกันเท่านั้น ท่านจดจำแบบแผนชีวิตของคนรอบข้างไว้ได้อย่างหมดจรด ยิ่งถ้ามีการพูดออกมา คุณยายเป็นจำได้อย่างแม่นยำ
ผ้าขาวที่คุณยายครองเป็นเครื่องนุ่งห่มของแม่ชีนั้น ด้วยความที่คุณยายชราภาพมาก และช่วยเหลือตนเองทุกอย่าง แต่มองไม่เห็น คุณยายเลยไม่สามารถเห็นอย่างที่คนภายนอกเห็น ว่าผ้าห่มที่คุณยายครองนั้นมันกลายจากสีขาวเป็นสีเทาหม่นมอมแมน แต่ก็ไม่มีใครรังเกียจคุณยาย
น้ำเสียงของคุณยายจะแจ่มใส สัมผัสได้ถึงความเบิกบานและบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ส่งออกมาจากข้างใน กระทั่งกล่าวได้ว่า ทั้งผมและคนทั่วไป มองเห็นมนุษย์ผู้ตัวใสสะอาด เบิกบานแจ่มใสซ้อนอยู่ในตัวคุณยาย คอยรักษาร่างที่ทรุดโทรมผุพังให้เขาทำหน้าที่ไปตามสภาพด้วยดี ความเป็นยายวงมีพลังบางอย่างอย่างนั้น
ยายวงเป็นคนเก่าแก่ ศรัทธาแก่กร้า และสมาทานบวชเป็นผู้นั่งใกล้พระศาสนานับแต่ในยุคหลวงพ่อองค์แรก คือหลวงปู่พระครูพรหมสมาจารย์ (สาลี ธรรมสโร)
จากที่ท่านเล่าให้ฟังย้อนหลัง รวมทั้งผู้คนที่รู้จักเล่าให้ฟัง ก็พอจะประมาณได้ว่า ยายวงเป็นโยมที่ศรัทธาในพระศาสนาและเลื่อมใสในวิถีปฏิบัติของวัดเขาวัง นับแต่ยุคหลวงปู่สาลี ซึ่งร่วมสมัยกับยุคสงครามโลกโน๊น คุณยายจึงมีโอกาสร่วมเป็นแรงงาน บุกเบิก และทำงานด้วยสองมือ สร้างวัดให้เป็นหลักฐานมั่นคงร่วมกับพระสงฆ์และญาติโยม นับตั้งแต่ยังเป็นวังร้างอยู่ในป่าเขา คุณยายเลยรู้จักก้อนหินแทบทุกก้อน ต้นไม้ทุกต้น ซึมซับอยู่ในความทรงจำ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการหล่อเลี้ยงชีวิตโดยธรรมและนำตนเองด้วยความทรงจำที่สร้างสมให้กับตนเองแบบน้ำซึมบ่อทรายระหว่างเส้นทางแห่งชีวิตนั้น มีพลังเพียงพอที่จะพาปัจเจกฝ่าข้ามขีดจำกัดทางกายภาพ และเป็นหนึ่งกับภาะสูงสุดของตนได้อย่างสมบูรณ์ หากสรุปบทเรียนวิถีชีวิตคุณยายวงก็คงจะได้อย่างนี้
ถึงแม้จะสามารถกินข้าวก้นบาตรและรับการดูแลจากคนอื่นได้อย่างแน่นอน แต่คุณยายวงก็หุงหาข้าวปลาอาหารกินเองด้วย ทว่า เนื่องจากคุณยายมองไม่เห็น กระบวนการต่างๆในการทำครัว หุงข้าว และทำข้าวปลาอาหาร ก็เลยจะทำให้ข้าว กับข้าว ขี้เถ้า และก้อนถ่าน ถูกจับมาปรุงผสมปนเปกันไปหมด แต่คุณยายก็ทำกินได้ เพราะเอารสชาดและการกินได้เป็นตัวตั้ง รูปลักษณ์ของอาหารจะเป็นอย่างไร ก็มองไม่เห็นให้เป็นอุปสรรค
ดอกลั่นทม หรือลีลาวดี
ลานวัดที่ปูลาดด้วยหินศิลาแลงและอาณาบริเวณวัดเขาวังราชบุรี บนเขาสัตนาถ
จังหวัดราชบุรี
ถ่ายภาพ : วิรัตน์ คำศรีจันทร์
ผมมีความสุข ที่จะได้ไปทำหน้าที่ทำครัว เตรียมอาหารใส่บาตร และจัดเตรียมสำรับถวายหลวงปู่ ซึ่งเป็นครัวแห่งเดียวกับที่คุณยายวงก็ต้องทำอาหาร ผมกับคุณยายจึงเป็นคนที่มักจะตื่นเช้าและกลับออกจากครัวทีหลังใครๆ คุณยายกับผมเลยตะโกนคุยกันอยู่เสมอ และเป็นเพื่อนสนิทสนมกันที่สุด บางครั้งคุณยายจะไม่คุยทักทายใคร และหากมีความจำเป็น ก็ไม่ค่อยรับความช่วยเหลือจากใครง่ายๆ ซึ่งเป็นวิถีปรกติของคนที่อบรมตนเองมาอย่างเข้มข้น ที่มักเรียนรู้การพึ่งตนเองก่อนและอยู่แบบเป็นภาระผู้อื่นให้น้อยที่สุด แต่สำหรับผมแล้ว คุณยายจะทั้งคุยทักทาย และยอมให้ผมดูแลสิ่งต่างๆให้อย่างไม่เกรงใจ
คุณยายชอบทำอาหารสูตรพิเศษอย่างหนึ่ง คือ แกงคั่วปลาทูใส่ยอดมะขามอ่อน ใส่น้ำกระทิซึ่งคั้นจากมือท่านเอง ซึ่งแน่นอนว่า มันจึงต้องปนเปขี้เถ้าลงไปด้วย แกงคั่วของคุณยายเลยมักจะเป็นสีมอๆ คุณยายจะทำอาหารสูตรเดิมๆอยู่อย่างนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง มีแปลกไปบ้างคือ อาจเติมสายบัวลงไปในบางวัน ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นสูตรพิเศษที่สุดแล้ว
หลายครั้ง ผมเห็นว่าแกงของคุณยายมันอาจจะปนไปด้วยขี้เถ้าสักครึ่งต่อครึ่ง ผมเลยอดไม่ได้ที่จะไปขลุกช่วยคุณยาย ทำโน่นทำนี่ คุณยายเลยเอ็นดูและเมตตาผมมาก ที่ชอบและอบอุ่นมากที่สุดเลยก็คือ พอช่วยคุณยายทำอะไรเสร็จ ก่อนจะอำลากัน คุณยายก็จะนั่งประนมมือ แล้วก็พูดให้ศีลให้พร ให้ความรู้สึกได้รับสิ่งอันเป็นมงคลที่สุดแก่ตนเอง
แต่วันหนึ่ง คุณยายก็เลื่อนขั้นการให้บำเหน็จรางวัลผมครับ คือ พอผมช่วยทำอาหาร คุณยายก็อยากเผื่อแผ่ฝีมือแกงคั่วครับ คุณยายบอกให้ผมชิมและจะทำเผื่อให้ด้วยหนึ่งมื้อ
ท่านทำด้วยความเมตตาจริงๆ ครับ ทว่า ผมเห็นกะตาอยู่ตลอดเวลาว่า กับข้าวคุณยายมันมักปนเปไปด้วยขี้เถ้า อีกทั้งเล็บ และมือไม้ของคุณยายก็ด๊ำ-ดำ พูดด้วยความสัตย์ก็คือ หากให้เลือกละก็ ผมทานไม่ลงครับ แต่ผมก็ผูกพันกับคุณยายมาก จะถือว่าท่านมองไม่เห็น แล้วก็ทำเป็นเออออ แต่ไม่ได้ทานจริงๆ ก็ทำอย่างนั้นไม่เป็น อีกทั้งทำอย่างนั้นกับคุณยายไม่ได้ ผมก็เลยต้องชิมและนั่งกินแกงคั่วปลาทูยอดมะขามอ่อนของคุณยาย
คำแรกก็ขนคอลุกครับ พูดอย่างไม่กลัวบาปกินหัวก็คือ อยากคายทิ้ง แต่ก็ทำไม่ได้ เลยนั่งเคี้ยวและทำกรรมฐานไปในตัว เคี้ยวจนได้รสหวานและรู้สึกว่ามันเป็นแกงคั่วไปในที่สุด คุณยายวงดีใจมาก และมักทำแกงคั่วปลาทูยอดมะขามอ่อนเผื่อผมไปด้วยเสมอ
ผมออกจากการเป็นเด็กวัดเขาวัง กระทั่งมาเติบโตอยู่ในกรุงเทพ ทำงานทำการต่อจากนั้นมาอีกนับสิบปี กระทั่งคุณยายวงอายุขัยล่วง 90 ปี ทว่า ด้วยการปฏิบัติธรรมหรือเหตุปัจจัยหลายอย่างที่งดงามมากมายในชีวิตของคุณยายหรืออย่างไรก็สุดจะทราบ คุณยายวงท่านมีสภาพเหมือนต้นไม้ที่ค่อยๆแห้งและยืนต้นตายไป ราวกับระวังไม่ให้ล้มทรุด กระทบแมกไม้ใบหญ้าใดๆรอบข้าง แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต คุณยายดับขันธ์ไปด้วยความสงบ
ก่อนคุณยายสิ้นไปไม่กี่ปี วันหนึ่ง อาว์ผมซึ่งบวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดเขาวังราชบุรีนั้นด้วย ก็บอกกล่าวให้ผมได้ทราบถึงความเป็นไปของคุณยาย และบอกว่า คุณยายวงถามถึงผม ซึ่งนั่นเป็นเวลาผ่านไปกว่าสิบปีแล้ว ผมตระหนักรู้ถึงการให้น้ำใจและขวัญชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่ผมของคุณยาย ผมรู้
วิถีคุณยายเป็นผู้ผ่านทาง ผ่านมาเพื่อสร้างปัจจัยการเข้าถึงธรรม แล้วก็ผ่านไป ความละวางและเปล่าว่างขนาดนั้น จะมีสิ่งใดให้สัมผัสถึงกันได้อีกนอกจากให้การรำลึกถึงด้วยดวงจิตสุดท้าย นับว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินสำหรับผม
ยามใดที่ผมกราบรำลึกถึงคุณยายวง รวมไปจนถึงวิถีแห่งศรัทธาของคุณยาย ก็มักจะได้รำลึกถึงคุณยายด้วยความทึ่งและศรัทธาต่อความเป็นผู้มีใจสว่างในโลกมืด ตลอดชีวิตในบั้นปลายของคุณยาย....ยายวงผู้น่าทึ่ง.
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
(1) ตามพระธรรมวินัย พระภิกษุจะไม่สามารถรับไหว้อุบาสก อุบาสิกา และฆราวาส การแสดงอาการแห่งความเคารพต่อคุณยายวงของหลวงพ่ออย่างงดงามดังกล่าวนี้ จึงเป็นทั้งการสามารถเอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย และมีความงดงามต่อคารวธรรมที่แสดงต่อองค์ธรรมในตัวผู้อยู่ในเพศฆราวาส อีกทั้งบอกถึงความแยบคายลึกซึ้งและธรรมอันสูงส่งของหลวงพ่อ ในการน้อมลงให้แก่ธรรมะและความดีงามที่สะท้อนอยู่ในตัวบุคคล
เป็นเรื่องเล่าทรงพลัง..
เป็นความทรงจำทรงคุณค่า..
เป็นชีวิตอันควรแก่การเอาเป็นเยี่ยงอย่าง..
อ่านแล้วสะเทือนไปถึงหัวใจ..
ขอกราบคารวะคุณยายวงจรดผืนดินด้วยค่ะ
(ไม่มีภาพดอกลั่นทม จึงขอใช้ภาพทุ่งดอกไม้สีเหลืองอมส้มกราบคารวะคุณยายวงแทนค่ะ)
สวัสดีค่ะอ.วิรัตน์
ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ ทำให้ระลึกถึงคุณแม่ของตัวเองเช่นกันค่ะ....
เป็นที่น่าสังเกตคือ...ยิ่งสูงอายุจะยิ่งไม่อยากทำตัวให้เป็นภาระกับคนอื่น การให้ความช่วยเหลือของลูกหลานจึงต้องระแวดระวัง ใส่ใจ และมีความละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
ในช่วงวัยหนึ่ง ทุกคนต้องเดินไปถึงจุดนั้นเช่นเดียวกัน วัยสูงอายุ วัยที่ร่างกาย สังขารถดถอย โรคภัยคุกคาม ... (หรือใครจะเถียงว่าไม่จริง) เพียงแต่ใครจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้พร้อมมากกว่ากันเท่านั้น
ชื่นชมอาจารย์ค่ะ ... น้ำใจที่อาจารย์ให้แก่คุณยายวง ทำให้ท่านยังระลึก ถามไถ่ถึงอาจารย์ แม้ในยามใกล้ลาสังขาร....
ขอกราบคุณยายด้วยความเคารพและชื่นชม ... ผุ้แม้อยู่ในโลกมืด หากใจสว่าง และเป็นแสงส่องปัญญาให้คนรุ่นหลังเช่นเราค่ะ
พูดอย่างไม่กลัวบาปก็คือ อยากคายทิ้ง แต่ก็ทำไม่ได้ เลยนั่งเคี้ยวและทำกรรมฐานไปในตัว เคี้ยวจนได้รสหวานและรู้สึกว่ามันเป็นแกงคั่วไปในที่สุด คุณยายวงดีใจมาก และมักทำแกงคั่งปลาทูยอดมะขามอ่อนเผื่อผมไปด้วยเสมอ มีผมคนเดียวเท่านั้นที่กินกับข้าวของคุณยายได้
คุณยายได้สอน กรรมฐานหมวด อาหาเรปฏิกูลสัญญา ไว้ให้นะครับ :)
อ่านเรื่องนี้ อย่าง ทึ่งจริงๆค่ะ คุณยาย เป็นบุคคลที่พิเศษจริงๆค่ะ
อ่านว่าอย่างไรเนี่ยเจ้าโก๊ะจิจัง ให้ความรู้อาจารย์หน่อย
สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์
เจริญพรโยมอาจารย์วิรัตน์อาจารย์ณัฐพัชร์และท่านผู้อ่านทุกท่าน
เห็นภาพนี้แล้วทำให้คิดถึงยาย(แม่เฒ่า)แม่เฒ่าใส่บาตรทุกเช้าเป็นกิจวัตรประจำวันพวกเราลูกหลานชอบกินข้าวที่เหลือจากใส่บาตรแล้วอร่อยดีมีรสเค็ม ๆ
ก็รู้สึกสุขใจดีที่ได้เห็นคุณยายวงในวันแม่นี้ต้องขออนุโมทนาขอบคุณอาจารย์ณัฐพัชร์ที่ช่วยมีความสุขและให้ได้คิดถึงใครได้อีกหลายคนในวันนี้
วัดเขาวังผ่านบ่อยแต่ไม่ได้ขึ้นไปถึงที่วัดเลยสักที แต่มีพระรุ่นน้องที่รู้จักกันท่านมีบุคลิกเป็นพระกรรมฐานทราบข่าวว่าท่านได้เปรียญ ๙ แล้วขอนุโมทนาด้วย
วันนี้วันแม่ขอรำลึกพระคุณแม่แทนท่านผู้อ่านทุกท่านด้วยบทกลอนบทหนึ่งมาฝาก
แม่ โดย ศ.สียวน
แม่มีท้องต้องลำบากไปฝากท้อง โตก็ต้องฝากโรงเรียนเพียรศึกษา
พอจบเรียนเพียรฝากงานมีหน้าตา แม่ชราขอฝากไข้ไม่ใจมาร
แม่มีแต่ให้ไม่คิดรับ แม่ให้ทรัพย์ให้ชีวิตให้อาหาร
ยามเมื่อแม่แก่เฒ่าชรากาล ไม่อ้างงานทิ้งท่านเหงาเปล่าเปลี่ยวใจ.
ขอเจริญพร
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)
กราบนมัสการ พระคุณเจ้าพระมหาแล ขำสุข(อาสโย) และอรุณสวัสดิ์อาจารย์ ดร.วิรัตน์ค่ะ
สวัสดีครับ ทุกๆท่าน แม้ล่วงเลยมานานนับสิบๆปี ผมยังหวลระลึกกลิ่นดอกลั่นทมที่ร่วงหล่น และโรยรา ... แทบตลอดทางลาดขึ้นวัด จำไม่ผิดมีสองทาง แถมมีระเบียงแนวรั้วทำนองนั้น เก่าคร่ำมีทั้งหญ้ามอส เฟิร์นขึ้นเกาะเป็นหย่อมๆ ทางเดินเป็นแผ่นหินตัด ... ผมชอบวิ่งนำหน้าคุณแม่ไปไกลๆ แล้ววิ่งไหลลงมาแบบไวๆแล้วมาเบรคกึกๆหน้าคุณแม่ ... ที่บ้านแวะไปวัดเขาวังอยู่บ่อย จนรู้สึกคุ้นๆ วิ่งเล่นจนไม่หลง ... เรามีญาติผู้ใหญ่ท่านปวารณาตนเป็นอุบาสก อุบาสิกา พำนักที่เรือนไม้สีเทา ข้างๆเขา มองออกไปเป็นวิวเมืองราชบุรี ... เดินย้อนไปอีกทิศ น่าจะเป็นด้านถนนเลี่ยงเมืองปัจจุบัน ไม่แน่ใจนัก จะผ่านที่พักของแม่ชี เป็นอาคารตึกชั้นเดียวน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวัง หมาเยอะมากเห่าโบ๊งเบ๊ง แม่ชีต้องถือไม้ออกมาไล่เยิ้วๆ วิ่งกระเจิง ... ทุกครั้งที่ขึ้นมาที่นี่เราต้องแวะมาทุกครั้งเพื่อไปกราบไหว้กระดูกบรรพบุรุษที่ขึ้นมาสร้างบ้านหลังเล็กๆพอตัว เพื่อปฎิบัติธรรมที่นี่ ... จำได้ว่าครั้งขึ้นมาเผาศพคุณก๋งคุณยายที่นี่ยังทำเป็นเมรุลอยสวยงาม วัดนี้เพิ่งจะมีเมรุเผาศพแบบเตาเผาเมื่อไม่นาน .... เมื่อต้นเดือนผมได้มาราชบุรี เพื่อมาเผาศพญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่วัดสัตนาถปริวาส ผ่านหน้าวัดเขาวังดูแปลกตาไปมากแทบไม่เหลือเค้าเดิมตามที่กล่าวมาแต่ต้น ... ก็ต้องทำใจ ไม่มีสิ่งใดมายั้งได้ ทุกอย่างล้วนอนิจจังครับทุกท่าน ... สวัสดี
จดจำและถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างมากมายอย่างนี้ ต้องนับว่าเป็นคนรุ่นหลานที่ใกล้ชิดและผูกพันกับวัดเขาวังมายาวนานนะครับ ยิ่งพูดถึงตั้งแต่ยุคมีหญ้ามอสและเฟิร์นเกาะตามทางเดินที่เป็นแผ่นหินน่ะครับ
ดีใจจังเลยครับ กลุ่มศิษย์วัดเขาวังและกลุ่มชาวบ้านที่เป็นกลุ่มศรัทธาของวัดเขาวังที่อยู่แถวเจ็ดเสมียนนั้นมีเยอะครับ มีความเป็นส่วนหนึ่งของวัดเขาวังอย่างหนักแน่นและยาวนานครับ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปทำกิจกรรมที่สวนศิลป์ ลูกศิษย์ของภัทราวดี ศรีไครรัตน์ที่เจ็ดเสมียนด้วยครับ เป็นค่ายศิลปะเพื่อประเมินและติดตามผลเด็กๆหลังการผ่าตัดปากแหว่งเพดานโหว่ แวะไปชมได้ครับ มีความสุขนะครับ
ไม่ทราบว่าท่านทราบหรือยังว่าหลวงพ่อพระราชวรเมธี (ยุ้ย อุปสนฺโต)ท่านมรณภาพแล้วเมื่อวันที่7 ธ.ค. 52
ตอนนี้มีทางวัดมีอีเมลสำหรับแลกเปลี่ยนข่าวสารต่างๆแล้ว [email protected]
สวัสดีครับ
จาก เด็กวัดเขาวัง(เหมือนกัน)
ก็เพิ่งทราบข่าว รู้จักท่านผ่านผลงานต่าง ๆ แต่ท่านไม่รู้จักเรา รู้จักกับลูกศิษย์ของท่านที่วัดเขาวัง
ก็นับว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรทางพระศาสนาที่สำคัญรูปหนึ่งทั้งระดับสังฆมณฑลและจังหวัดราชบุรี
ขอบคุณเด็กวัดเขาวังที่แจ้งข่าวนี้ด้วย
ขอบคุณคุณเด็กวัดครับที่นำมาบอกกล่าวกันไว้ในนี้อีก ผมได้ทราบแล้วครับ ทางวัด คณะสงฆ์ ญาติโยม และศิษยานุศิษย์จะตั้งศพเพื่อบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา ๑๐๐ วัน ที่วัดเขาวังราชบุรีครับ
เป็นลูกศิษย์แห่งสำนักวัดเขาวังเหมือนกันค่ะ เริ่มเรียนธรรมศึกษาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนได้ธรรมศึกษาตรี ปัจจุบันอายุใกล้ 40 แล้ว ใครพูดถึงวัดเขาวังอดไม่ได้ที่จะต้องมีส่วนร่วมด้วย บรรยากาศที่อาจารย์บรรยายทำให้หวนระลึกถึง
ต้นแก้วที่อาจารย์พูดถึงซึ่งอยู่บริเวณอุโบสถ และต้นลั่นทมตอนนี้ก็ยังคงอยู่ส่งกลิ่นหอมระเรื่อไปทั่วบริเวณ จะขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเก็บรักษาไว้ให้ค่ะ
พูดถึงยายวงดิฉันคงไม่ทันเห็นท่าน หรืออาจจะเคยเห็นแต่ก็ไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่สิ่งที่อาจารย์ได้บรรยายถึงสภาพของวัดเขาวังทำให้ดิฉันอยากกลับไปในช่วงเวลานั้นมาก มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกถึงแม้ว่าจะถูกบังคับจากแม่ให้ขึ้นไปเรียนธรรมศึกษาก็ตาม ซึ่งในช่วงที่เรียนใช้ยานพาหนะโดยจักรยาน เวลาขึ้นต้องจูงขึ้นไปบนเขาพร้อมกับเพื่อนๆคนละคัน เวลาลงไม่ต้องพูดถึง เคยมีเพื่อนคนหนึ่งเบรคแตกวิ่งผ่านถนนข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม (บ้านครูสาหร่าย) โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีรถสวนมา ตอนนั้นมีพระอาจารย์หลายรูปสอน และสอนเฉพาะครึ่งวันเช้าของวันอาทิตย์ ซึ่งสมัยนั้นเรียกว่าโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ หลังเลิกเรียนแม่ชีก็จะหิ้วขนมพร้อมกับปิ่นโตหลายเถามาให้เด็กนักเรียนโดยมีแกนนำคือแม่ชีฉวีวรรณ คำศรีจันทร์ (นามสกุลเหมือนอาจารย์เลย)
ถึงแม้ว่าวัดเขาวังจะเปลี่ยนแปลงไปมากด้วยสังคมเมืองที่แวดล้อม หรือเพราะความเป็นอารามหลวง มันก็ไม่ทำให้ความทรงจำเก่าๆของดิฉันเปลี่ยนแปลงไปเลย ครูบาอาจารย์ที่เคยอบรมสั่งสอนก็ยังเหมือนเดิม
สวัสดีครับคุณดอกแก้ว
เด็กวัดปี2517 ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ของวัดอย่างมาก และก็เป็นธรรมดาของสรรพสิ่งมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วัดเขาวังได้ให้บทเรียนประสบการณ์ชีวิตมากมาย ได้เห็นข้อความต่างๆให้รู้สึกตื้นตันใจ เคยได้ยินได้ฟัง หลวงปู่หุ่น พูดบ่อยๆ เรื่อง กบและแมลงผี้งกับเกษรดอกบัว กับเรื่องทัพพีตักแกง ตอนนั้นฟังแล้วก็รู้สึกธรรมดา ๆ ตอนนี้รู้สึกไม่ธรรมดา มีญาติท่านหนึ่งเคยมีคำพูดสั้นๆว่า"หาอะไรน่ะ" บางทีเราก็หาทางเดินชีวิตอย่างสับสน มาเห็นข้อความตรงนี้และหลายๆแห่ง ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆหลายอย่าง บางครั้ง เห็นท้ายรถบางคันติดสติ๊กเกอร์ว่า"อย่าตามมากูหลง" กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอย่างไร ก็จะสู้กับธรรมชาติของร่างกายแทบไม่ไหวแล้ว " หาอะไรอยู่น่ะ" ดีใจนะที่ หลายๆคนไม่หลงทาง เลยส่งข้อความมาร่วมเป็นกำลังใจ..............................................................................อย่าตามมา...........................................
สวัสดีครับพี่สุทัศน์ : ผมเดาไว้ก่อนว่าเป็นพี่สุทัศน์พี่ชายผม เลยขอยกเป็นพี่ไปก่อนก็แล้วกันนะครับ
ผมก็ดีใจเหมือนกันที่ในบันทึกคุยถึงเรื่องราวของคุณยายวงนี้ นอกจากเป็นการได้แก่ตัวเองของผมที่ได้รำลึกและถ่ายทอดความดีงามของผู้คนที่ไม่ได้มีตัวตนอะไรเลยในสังคม นอกจากคุณความดีและบุญกุศล เก็บไว้ให้ผู้คนที่สนใจได้เข้ามาอ่านและมีเวลาครุ่นคิดอยู่กับตนเอง แล้วนำสิ่งดีๆที่ได้ออกไปใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ก็ทำให้ข้อเขียนในบันทึกนี้เป็นแหล่งที่ทำให้ลูกศิษย์ลูกหาของวัดเขาวังราชบุรี รวมไปจนถึงผู้สนใจในการศึกษาปฏิบัติธรรม ได้เข้ามาพูดคุย สื่อสาร และแลกเปลี่ยนทรรศนะต่างๆด้วยกัน เรียกว่าได้ทำประโยชน์ในหลายสถานไปด้วยเลย
ขณะเดียวกัน ก็เป็นเรื่องที่ทำให้มีหัวข้อที่ผู้มีความรู้ มีบทบาทในการทำงานต่อวงการต่างๆในสังคม และมีทรรศนะอันลึกซึ้งได้เข้ามาคุยเชิงสะท้อนทรรศนะต่อสิ่งต่างๆให้ได้ติดตามคิดใคร่ครวญ ซึ่งจัดว่าเป็นการพัฒนาตนเองไปด้วยอย่างดียิ่ง ......
คุณใบไม้ย้อนแสง เธอเป็นคนทำงานแบบ Freelance ที่ทำงานเป็นมือวิชาการและสื่อเชิงสารคดีแนวทางเลือกเพื่อการพัฒนา ผมเคยสัมผัสการทำงานของเธออยู่หลายครั้ง เลยได้เห็นความเป็นมืออาชีพและความเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำงานแนวอุดมคติ มุ่งแสวงหา ค้นพบ แล้วก็ร่วมส่งเสริมโดยช่วยสื่อเป็นแรงขยายผลสิ่งดีๆเล็กๆน้อยๆ เพื่อให้สังคมวงกว้างได้เรียนรู้ เก็บเกี่ยวเป็นแรงบันดาลใจ ได้เห็นทางเลือกอันหลากหลายออกจากการทำตามๆกัน เพิ่มขึ้นของสังคม
คุณคนไม่มีราก : ผมจินตนาการเอาว่าเป็นนักวิจัยและนักวิชาการพัฒนารุ่นใหม่เช่นกัน ดูเหมือนจะเป็นมือทำงานด้านการศึกษาของคณะทำงานในแนวปฏิรูปของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาแห่งชาติ อ่านจากตัวหนังสือแล้ว เรื่องราวและทรรศนะที่สะท้อนอยู่ในงานเขียนก็บอกให้รู้ว่าไม่เพียงเป็นนักวิชาการที่ดีเท่านั้น เธอมีภาษาธรรมและถ่ายทอดอารมณ์แห่งการเจริญสติภาวนาลงในตัวหนังสือได้ด้วย
คุณกวิน : เป็นนักวิชาการศึกษาอยู่ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นคนรุ่นใหม่อีกคนหนึ่ง ทว่า ทรรศนะในการคุย วิธีคุย และข้อมูลการอ้างอิงที่บางส่วนมาจากการอ่านนั้น ผมต้องเรียกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่แก่กร้าในการศึกษาค้นคว้ามาก เป็นนักอ่าน รอบด้าน รอบรู้ ฉลาดในวิธีคิด และขบเรื่องธรรมะที่ให้วิถีการใช้ปัญญาดีมาก ในฐานะเป็นคนอ่านหนังสือด้วยนั้น ผมมองว่าคุณกวินเป็นคนอ่านหนังสือแตกและเขียนหนังสือเพื่อสร้างความรู้ขึ้นใหม่จากข้อมูลและสารสนเทศที่มีอยู่เดิมเป็นมากๆ
หนูโก๊ะจิจัง : เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มาจากลูกหลานชนบท ทว่า นอกจากเรียนเก่งมากแล้วก็ใส่ใจต่อการเรียนรู้และสืบทอดมรดกทางสังคม วัฒนธรรม และภูมิปัญญาต่างๆของสังคมไทย โดยเฉพาะศิลปะการแสดงของท้องถิ่นสุพรรณบุรี เช่น เพลงอีแซว จึงเป็นลูกศิษย์ที่เป็นความภูมิใจของคุณครูของเธอที่ได้อบรมสั่งสอนในหลายช่วงชั้นแก่เธอ มีผลงานเป็นที่รู้จักแพร่หลายพอสมควรในแวดวงที่สนใจ ทั้งจากทางสื่อมวลชนและจากเวทีการแสดง เวทีประชุมวิชาการทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ปัจจุบันดูเหมือนว่าจะเป็นนักศึกษาคณะอักษรศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตทับแก้ว จังหวัดนครปฐม และยังคงเป็นนักกิจกรรม นำเสนอและถ่ายทอดสิ่งที่สะท้อนอยู่ในความสามารถพิเศษของเธออย่างเอาจริงเอาจัง
คุณศศินันท์ : คงจะเป็นแพทย์และนักสาธารณสุข หรือนักวิจัยและคนทำงานสื่อสารทางด้านสาธารณสุข แต่มักติดตามความเคลื่อนไหวทางสังคมแล้วก็มีความรู้ ข้อมูล และทรรศนะรอบด้านต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทางสุขภาพทั้งของไทยและของต่างประเทศ มาพูดคุยถ่ายทอดให้ผู้สนใจได้ติดตามอ่านอยู่เสมอด้วย คนทำงานที่เชื่อมทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับนโยบายเข้ากับการทำงานสื่อสารและปฏิสัมพันธ์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมอย่างที่เห็นจากแนวทางของคุณศศินันทน์นี้ มีอยู่เป็นจำนวนน้อยในสังคมไทย
ท่านพระอาจารย์มหาแล ขำสุข(อาสโย) : พื้นเพท่านเป็นคนหนองบัวและเป็นผู้จุดประกายให้ผมเขียนบันทึกเปิดเวทีคนหนองบัวและลานปัญญาคนหนองบัวกับท่าน กระทั่งได้ทำสิ่งต่างๆมากมายผ่านเวทีคนหนองบัวร่วมกับท่านและคนหนองบัว กับเครือข่ายคนทำงานในพื้นที่ต่างๆ หลายอย่างด้วยกัน ท่านรู้จักวัดเขาวังราชบุรีและพระราชวรเมธี อีกทั้งรอบรู้เรื่องราวทางสังคมและในวงการพระศาสนา โดยเฉพาะใส่ใจต่อบทบาทของพระและวัดต่อการพัฒนาคนและการพัฒนาชุมชนในแนวทางที่ไม่จำกัดอยู่แต่กิจกรรมทางประเพณีทางศาสนา เวลาท่านคุยนั้น ผมมักสัมผัสได้ถึงความเป็นครูของพระกับความเป็นพระนักการศึกษาและพระนักพัฒนา
อาจารย์ณัฐรพัชร์ : เป็นนักวิจัย นักวิชาการ วิทยากรและอาจารย์พิเศษของหลายแห่ง เป็นคนรุ่นใหม่แต่มีประสบการณ์รอบด้าน เป็นเครือข่ายคนทำงานอาสาสมัครด้านเอดส์ในยุคแรกเริ่มที่ทำงานทั้งในชุมชนชนบทและในกลุ่มผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมของกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล ยิ่งไปกว่านั้น เธอเป็นคนราชบุรี เป็นลูกนายทหารและคนในครอบครัวญาติพี่น้องของท่านขุนช่วงสุวนิช ซึ่งเป็นกลุ่มศรัทธาที่อุปถัมภ์พระศาสนาในจังหวัดราชบุรี รวมทั้งวัดเขาวังราชบุรีและโรงเรียนวัดเขาวังราชบุรี(แสง ช่วงสุวนิช) เป็นคนมีฝีมือหลายด้านในการทำงานเชิงสังคมและทำงานชุมชน แล้วก็พูดสำนวนฝรั่งได้ว่า เธอ ครอบครัว และวงสังคมของเธอนั้น เป็น Somebody หรือเป็นคนมีตัวตน มีตำแหน่งแหล่งที่ทางสังคมมากอย่างยิ่งของราชบุรี(อันที่จริงของสังคมไทยด้วย) เรียกว่าหากจะเป็นคนกร่าง อวดตน และติดความเป็นตัวกูของกูแล้ว เธอสามารถทำได้และเป็นของจริง แต่กลับดำเนินชีวิตในวิถีที่เรียบง่าย นอบน้อมต่อผู้อื่น จนเหมือนกับเป็นคนที่ไม่มีอะไร เธอจึงอาจไม่ได้พูดภาษาธรรมะ เพราะธาตุของเธอมันเป็นสิ่งนั้นเลย ตามแหล่งต่างๆของวัดเขาวังราชบุรีและโรงเรียนวัดเขาวังราชบุรี(แสง ช่วงสุวนิช) มักมีจารึกชื่อกับตระกูลญาติพี่น้องของเธอว่าเป็นผู้อุทิศให้แก่สาธารณะ เช่น อาคารเรียนปริยัติ ศาสนสถาน โต๊ะ ที่นั่ง เสนาสนะ ศาศนวัตถุ เครื่องใช้สอยและปัจจัยเพื่อการอยู่ปฏิบัติศึกษาในวัดของผู้คน จึงเป็นหนึ่งของกลุ่มผู้ศรัทธาปสาทะที่อยู่ใกล้วัดเขาวังราชบุรีสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน
เรื่องของคุณยายวงเป็นเหตุให้ทุกท่านเหล่านี้ได้มาคุยกัน อีกทั้งเป็นการถ่ายทอดสิ่งต่างๆต่อเติมไว้ในนี้ให้ผู้อื่นที่ได้เข้ามาอ่านทีหลังยิ่งได้สิ่งต่างๆเพิ่มมากขึ้นไปอีก เหล่านี้ ย่อมนับว่าเป็นการกราบคารวะคุณความดีของคุณยายและเป็นการน้อมคารวะต่อพระคุณครูบาอาจารย์แห่งวัดเขาวังราชบุรี เหมือนดังเป็นก้อนดินและปุ๋ยที่ช่วยบำรุงอยู่โดยรอบรากฝอย ร่วมเกื้อหนุนส่งเสริมให้สิ่งที่ดีๆในสังคมได้เจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นเหมือนกัน
(ทุกท่านที่ได้กล่าวถึงนี้ ผมไม่รู้จักโดยตรงเลยว่าเป็นใครและทำอะไรอยู่ที่ไหน ได้รู้จักเพียงผ่านผลงานและงานเขียนเท่านั้น ยกเว้นคุณใบไม้ย้อนแสง ซึ่งต่อมาก็ได้มารู้จักและทำงานเกี่ยวข้องกัน และอาจารย์ณัฐพัชร์ ซึ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นคนรู้จักกันอยู่แล้ว)
แล้วก็รวมถึงคุณเด็กวัด คุณรุ่นหลานเจ็ดเสมียน คุณดอกแก้ว และพี่สุทัศน์ด้วย ที่ก็ถือว่าเป็นผู้สนใจในแนวทางนี้และเป็นลูกศิษย์ลูกหาของวัดเขาวังราชบุรี ก็ได้มีแหล่งพูดุคยกันในนี้ อย่างน้อยก็เป็นโอกาสได้หยุดจากสิ่งอื่นแล้วมารำลึกถึงสิ่งดีๆ ได้คิดใคร่ครวญหาความแยบคายยิ่งๆขึ้นต่อชีวิต ให้บังเกิดความดีและความงดงามขึ้นภายในตนเอง อย่างน้อยก็ได้เป็นพลังความดีและได้กำลังใจ ไปทำการงานและดำเนินชีวิต ให้ความงดงามและสิ่งดีในใจได้เป็นเพื่อน หนุนเสริมพลังชีวิตให้ประสบความสำเร็จและพอได้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่ตนเองสนใจเพิ่มขึ้นมาอีกช่องทางหนึ่งผ่านการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในนี้นะครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์
ดอกโบตั๋น หรือ หมู่ตาน (peony) ชาวจีนส่วนใหญ่ถือว่า ดอกโบตั๋นมีความหมายเป็นตัวแทนของความมั่งมีศรีสุข ความร่ำรวย ความโชคดี จึงขอมอบดอกโบตั๋นดอกนี้ให้แด่ครอบครัวคำศรีจันทร์ค่ะ
Happy New Year สวัสดีปีใหม่ค่า~ ซินเจียยู่อี๋ ซินนี่ฮั้วไช่นะคะ
-Nam-
สวัสดีปีใหม่ครับ ครับอาจารย์ ดร.วิรัตน์ เมื่อวานก่อนกวินโทรไปที่ สถาบันฯ เพราะนึกถึงหนังสือที่อาจารย์ส่งมาให้กวิน และนึกถึงคุณ ณัฐพัชร์ ที่ช่วยเป็นบรรณาธิการ ที่นึกถึงเพราะที่ศูนย์แพทย์ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ มีกิจกรรมประชุมจริยธรรมทางการแพทย์ มา สองปีแล้ว แต่ปีนี้กวินเพิ่งมาช่วยอาจารย์หมอประสานเรื่องกิจกรรมการประชุม และอาจารย์หมอให้ นศพ เขียนรายงานเหตุการณ์สำคัญ (critical incident report) กวินและอาจารย์หมอเลยคิดอยากจะรวมเล่มผลงาน เพื่อเอาไว้แจกให้ นศพ ปีหกที่จะจบและเอาไว้ให้ผู้ที่ทำงานด้านนี้ได้อ่าน รายงานก็จะเน้นเหตการความประทับใจ หรือสถานการณ์บีบคั้นทางอารมณ์ รักชอบชิงชัง อะไรทำนองนี้น่ะครับ ตอนนี้อาจารย์หมอกำลัง อ่านรายงาน นศพ อยู่ว่าภาพรวมเป็นอย่างไรบ้าง กิจกรรมนี้ก็เป็น กิจกรรมที่ดีครับ นศพ จะหา case มานั่งคุยกัน นศพ ที่เข้าประชุมก็คือ นศพ ปี 4-6 บางกลุ่มก็ไม่ได้เข้าเพราะติดเรียน ติดอยู่เวร แต่ส่วนใหญ่จะเข้าประชุมทุกวันจันทร์ต้นเดือน ส่วนเนื้อหารายงานก็เขียนจากลายมือ คิดว่าต้องแกะลายมือกันนานหน่อย และมีศัพท์แพทย์ปนเยอะ
ได้ขอเบอร์อาจารย์ ณัฐพัชร์ จากสถาบัน เลยโทรไปปรึกษา เรื่องทำหนังสือ เลยเผลอระบายความเครียดเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไปซะเยอะเลยครับ เกรงใจจัง
ช่วงนี้ก็เล่นการเมืองในที่ทำงาน เหนื่อยเหมือนกัน ครับ มีทั้งคน รักชอบชิงชัง แต่อาศัยศึกษาธรรมอยู่บ้าง เลยยังไหว วันนี้ที่ อุทยานสวรรค์ มีงานกีฬาข้ามปี จัดโดย อบจ กวินไปเดินดูงานมา และมีเชิญพระมาเทศน์ด้วย แต่ก็อดคิดไม่ได้ เพราะ ธรรมมาสน์ ตั้งไว้ข้างล่างเวทีคอนเสิร์ต น่าจะยกไปไว้บนเวทีคอนเสิร์ต ตอนก่อนพระเทศน์ ก็เลยดูเหมือนว่า เรื่อง โลกียบันเทิง อยู่เหนือธรรมะ แต่คิดในแง่ดีก็คือ คนจัดก็ยังแทรกเรื่องธรรมะไว้ในกิจกรรม ปีใหม่ที่กรุ่นกลิ่นไปด้วยเรื่อง การฉลองรื่นเริง พระเทศน์เรื่อง มรณัสติ และความกตัญญู แต่ก็เทศน์แหล่แบบเน้นตลก แบบพระสมัยใหม่ และเน้นรับบริจาคเงินเพื่อสร้างถาวรวัตถุ คนบางคนรวมทั้งกวินเอง ยังเป็นเด็กยุคใหม่ เลยไม่ค่อยคุ้นกะการเทศน์ทรงเครื่อง แบบแหล่ (แอบคิดในใจว่า เหมือนพระมาร้องเพลง คิคิ) แต่ก็คิดว่าเป็นแนวคิดแบบ มหายาน ที่พระจะต้องปรับตัวเข้ากับชุมชนและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ศาสนาดำรงอยู่ได้ ครับ ด้วยความระลึกถึง และสวัสดีปีใหม่นะครับ
สวัสดีค่ะอ.วิรัตน์
มาอ่านที่อาจารย์ได้กรุณาเขียนถึงคนไม่มีราก... ด้วยความขอบพระคุณค่ะ
อาจารย์ถือเป็น "ครู" ท่านหนึ่งซึ่งคนไม่มีรากนับถือค่ะ คนไม่มีรากเป็นผู้น้อยด้อยปัญญาและประสบการณ์ ได้รับคำชื่นชมยกย่องด้วยจิตที่มีเมตตาเช่นอาจารย์แล้ว อดจะปลื้มไม่ได้ค่ะ
น้อมรับและตั้งใจทำหน้าที่ของตนให้ดียิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่กับอาจารย์ด้วยค่ะ
(^___^)
สวัสดีปีใหม่ 2553 ค่ะ อ.วิรัตน์
ขอบคุณค่ะที่กรุณาแจ้งข่าว และทำให้ใบไม้ฯ ได้ติดตามกลับมาอ่านบันทึกนี้อีกครั้ง..
ค่อย ๆ อ่านบันทึกนี้อีกรอบ รวมถึงทุกความคิดเห็นที่ไล่เรียงกันมา..
จากบันทึกความทรงจำอันละเมียดละไม ความรู้สึกละเอียดอ่อนลึกซึ้ง
นำมาสู่การรำลึกความหลังร่วมกันของผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับเขาวัง
และอาจนำไปสู่เครือข่ายจากความทรงจำ ความผูกพัน...และอื่น ๆ
ความจริงที่ใบไม้ฯ ได้พบอาจารย์ที่ G2K เป็นเรื่องบังเอิญ แต่ดูเหมือนได้สื่อสารแลกเปลี่ยนกันอย่างไม่ต้องติดกรอบของการทำงานใด ๆ ได้พบจุดร่วมในความสนใจ ใส่ใจ และุความลุ่มลึกทางความคิดและอารมณ์ความรู้สึก นับเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะที่กรุณาเขียนถึงใบไม้ย้อนแสงด้วยมุมมองที่ให้กำลังใจอย่างยิ่ง ก็พยายามยืนหยัดเดินบนเส้นทางที่ตัวเองเลือกต่อไปค่ะ ใจสั่งมา..เพราะทำแล้วมีความสุข แม้จะตกหลุมพรางความคิดให้ทำงานไม่ทันอยู่เป็นประจำ แหะ ๆ
อาจารย์ได้ทำหน้าที่สื่อสารสร้างความสุขและพลังใจให้แก่ผู้คนเสมอมา..
ขอให้ความสุขและพลังใจที่อาจารย์ส่งออกไป ย้อนคืนกลับมาหาอาจารย์เป็นทบเท่าทวีคุณค่ะ .......^___^........
พระพุทธศาสนานอกจากจะมีหลักธรรมให้เราใช้ในการครองตนครองคนครองงานแล้ว..ในยามที่เราอยู่ตามลำพังแต่เพียงผู้เดียวพระธรรมคำสั่งสอนยังเป็นที่พึ่งทางใจไม่ให้เราเตลิดไปด้วยความคิดจินตนาการด้วยหลักต่างๆที่เหมือนจะรู้ว่ามนุษย์จะมีเวลาที่คิดอยู่ตลอดเวลา แต่คิดอย่างไรจึงจะนำไปสู่การปล่อยวางได้ เมื่อปล่อยวางได้ มีสติ มีปัญญา แสงสว่างใดๆก็สู้แสงสว่างในใจไม่ได้..ดุจดังคุณยายยวงได้ประพฤติปฏิบัติจนเกิดความสว่างเรืองรองจากในตัวสะท้อนออกมาให้ผู้พบเห็นได้รู้สึกและสัมผัสได้ถึงความงดงามดังกล่าว ขออนุโมทนากับคุณยายยวงด้วยค่ะ..ขอบคุฯพี่อาจารย์ดร.วิรัตน์ที่มีความละเอียดอ่อนเก็บความงดงามนั้นมาถ่ายทอดให้ได้ชมกันค่ะ..สวัสดีปีใหม่ ไร้โรคภัยนะคะพี่อาจารย์...
สวัสดี ครับ อาจารย์
เข้ามาหาอาจารย์เป็นท่านแรกของปี 2553
ขอชื่นชมวงเวียนชีวิต... คุณยายวง ผ่านบันทึกของอาจารย์วิรัตน์ นะครับ
โลกมืดที่มีแต่ความสว่างในหัวใจของยาย
...ซึบซับ...สิ่งดีงามของคุณยายและของอาจารย์มาไว้ที่ตัวผมแล้ว ครับ
ชื่นใจ..ในสิ่งที่ผมได้สัมผัสในโลกของผม...
....
กราบสวัสดีปีใหม่ 2553 กับ อาจารย์
รักและเคารพ...อาจารย์ซะแล้ว ครับ
สวัสดีและขอบคุณนะครับครับคุณน้ำ สวัสดีปีใหม่ฝรั่งครอบคลุมไปถึงปีใหม่จีนเลยนะครับ ขอให้ปีใหม่นำมาซึ่งความสุขสมหวัง สุขภาพดี มีจิตใจ สติ และกำลังแห่งปัญญาที่ดี คิดสิ่งใดก็ให้ได้การเรียนรู้ที่ดีจากการได้ปฏิบัติของเราเอง มีความเจริญงอกงามใหม่ๆเกิดขึ้นในชีวิตอยู่เสมอครับ
สวัสดีครับคุณกวิน
กระแสธารของการตื่นรู้ : ผมพอจะเห็นความสร้างสรรค์วิธีเรียนรู้ภายในเพื่อพัฒนาปัจเจกให้หยั่งถึงศักยภาพสูงสุดของตนเอง แล้วก็ได้ถึงธรรม เข้าถึงตัวปัญญาที่กอปรด้วยองค์แห่งธรรมจำเพาะกาล จำเพาะตน ซึ่งจะเกิดการเรียนรู้ที่งดงามอย่างที่สุด อย่างที่คุณกวินได้ถ่ายทอดและบันทึกวิธี Critical incident report ของกลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่อาจารย์แพทย์ได้ลองให้ทำ กิจกรรมอย่างนี้ หากให้ทำระดับกิจกรรมก็จะเป็นวิธีเก็บบันทึกข้อมูล ที่ทำให้การศึกษาและการรายงานมีความรอบด้าน สมบูรณ์มากขึ้น ทว่า หากมีการนำเข้าสู่การเรียนรู้ โน้มนำวิถีและวิธีคิดให้เป็นการภาวนา แล้วสะท้อนออกทางการเขียน ไปด้วย ก็จะเป็นการสะท้อนภาวะการตื่นรู้และถ่ายทอดกระบวนการเรียนรู้ของปัจเจก ที่น่าสนใจมากที่สุดอีกวิธีหนึ่งนะครับ วิธีอย่างนี้คนทำงานทางศิลปะ หรือคนฝึกภาวนา ก็คงจะคุ้นเคยและคุยแล้วก็จะเข้าใจได้ง่าย แต่ไม่รู้ว่าจะดึงให้เข้ากับแนวคิดและทฤษฎีการเรียนรู้แนวไหน จึงจะไปกันได้ดีที่สุด
หลังจากเราทำกิจกรรมหรือมีประสบการณ์ใดๆซึ่งรวมทั้งประสบการณ์ที่เกิดจากกระบวนการภายในจิตใจด้วย แล้วให้โอกาสตนเองได้ละวางความคิดนึก พร้อมกับใช้ความรู้สึก สัมผัสกับสรรพสิ่ง ทั้งภาวะภายในตนเองและโลกรอบข้างด้วยความตื่นตัว ระลึกรู้ แล้วให้เราเป็นเครื่องมือถ่ายทอดภาวะดังกล่าวออกมาผ่านการเขียน วาดรูป พูดสะท้อนจิตใจ ซึ่งงานที่ทำด้วยภาวะดังกล่าวนี้ จะเป็นงานที่ไม่ได้ผ่านตัวความคิด ทว่า จะเป็นกระแสธรรมที่ไหลผ่านความเป็นพุทธะในตัวปัจเจก หรือภาพสะท้อนความเป็นปัจจุบันขณะของสิ่งนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากจิตใจสู่จิตใจ
แนวการทำกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะนี้ หากเข้าใจหลักคิด นำการปฏิบัติ และจัดกระบวนการให้เหมาะสม ก็จะเป็นผลดีทั้งในแง่กระบวนการเรียนรู้และในแง่การบันทึกรายงาน ในแง่การเรียนรู้ วิธีอย่างนี้เป็น ๑ ในวิธีโยนิโสมนสิการที่เรียกว่า วิภัชชวาทธรรม คือ เป็นการพูดและแสดงการถ่ายทอดถ้อยคำออกมาให้สัมผัสได้ในโลกภายนอก ทว่า พลังที่ส่งแรงสั่นสะเทือนนั้นมุ่งจัดระเบียบและสะท้อนความแยบคายของภาวะภายในตัวคน ทำให้ผู้พูดเกิดการเรียนรู้และพัฒนาระบบคิดที่แยบคายจากภายใน ในกรณีที่เป็นการเขียนถ่ายทอด ก็มุ่งทำให้ผู้เรียนได้ใช้การเขียนเป็นอริยาบทของการภาวนาและการเจริญสติ ได้อยู่กับตนเอง ไม่เพียงนำเอาประสบการณ์ที่เกิดจากการปฏิบัติกลับมาตกผลึกและคิดใคร่ครวญ ทว่า นำเอาภาวะความเป็นทั้งหมดแห่งตนมารับรู้ให้ทั่วพร้อม ซึ่งย่อมมีความบูรณาการทั้งประสบการณ์เก่าและประสบการณ์ใหม่ แล้วก็ถ่ายทอดสิ่งที่หยั่งเห็นและได้สัมผัสอย่างปลอดโปร่งในกระแสธารของความตื่นรู้ความเป็นปัจจุบันขณะ ผู้เรียนที่สามารถเข้าไปอยู่ในภาวะดังกล่าวนี้ได้ ก็ย่อมได้การเรียนรู้จำเพาะตนอย่างลึกซึ้งและรอบด้านที่สุด
ในแง่การบันทึกและรายการการศึกษา ก็จะเป็นการบันทึกรายงานประสบการณ์ของปัจเจก ซึ่งจะทำให้ได้กรณีศึกษาและประเด็นการเรียนรู้ที่กอปรด้วยความรู้เชิงบริบท รวมทั้งความรู้จากการพินิจพิเคราะห์อย่างใคร่ครวญ ซึ่งสะท้อนการใช้ความลึกซึ้งของตัวบุคคลเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์วิจัยระดับการสะท้อนการหยั่งรู้และการเห็น ซึ่งคล้ายกับเป็นวิธีสร้างความรู้โดยการวิเคราะห์และตีความ (Interpretation) แต่จะสะท้อนความลึกซึ้งได้ดีกว่า การค้นพบมุมมองใหม่ๆและการได้ความรู้และความบันดาลใจใหม่ๆ บางทีก็อาจจะมาจากวิธีการอย่างนี้ ครั้งหนึ่งผมได้เห็นวารสารงานวิจัยของประเทศญี่ปุ่นและได้เรียนรู้จากศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยโตเกียว ก็ได้รู้ว่า เขาทำวานสารเพื่อเป็นวิทีรายงานและบันทึกงานเขียนในลักษณะนี้ เหมือนกับเป็นคลังความรู้และงานวิจัยอีกแนวหนึ่งเลยทีเดียว
การสร้างทุนทางสังคม : การเริ่มต้นปีใหม่โดยการทำความคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่ๆ ถือว่าเป็นความงอกงามของชีวิตมากเลยนะครับ นี่ผ่านปีใหม่ไปหลายวันแล้ว ผมยังไม่ได้เพื่อนใหม่ๆสักคนหนึ่งเหมือนคุณกวินเลย แต่ก็มีเพื่อเก่าๆแก่ๆกลับมาทักทายและได้รำลึกถึงกัน เลยรู้สึกว่าระหว่างยังไม่ได้เพื่อนใหม่ๆในปีนี้เลยนั้น ก็ต้องขอให้เพื่อนๆและคนรอบข้างได้เหมือนเดิม ยืนยาวเพิ่มขึ้นอีกปีหนึ่งก็แล้วกันเลยนะนี่
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ :
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ ครับคุณครูคิม ขอให้มีความสุข มีกำลังใจ ได้เห็นความงอกงามของลูกศิษย์ ได้มีกำลังความคิดเพื่อทำและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ทุกหนแห่งได้เพื่อนและได้แรงบันดาลใจ ทำให้ทุกวันนำความงอกงามของชีวิตและพลังการสร้างสรรค์อย่างไม่รู้หมดสิ้น มาให้นะครับ
สวัสดีปีใหม่ครับคุณคนไม่มีราก ขอให้ประสบสิ่งที่ดีงามและได้ทำสิ่งดีๆมากที่สุดอีกปีหนึ่งครับ
สวัสดีครับคุณใบไม้ย้อนแสง
ประมาณกลางเดือนกุมภา.๕๓ น้องๆและเพื่อนๆของใบไม้ย้อนแสง จะชวนคุณใบไม้ย้อนแสง ให้แวะไปร่วมเวทีนั่งคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณืกันเนื่องในวันปิดนิทรรศนการเวที ศิลปะและสื่อสานสุขภาวะชีวเกษม ที่ร้านหนังสือเบิกม่าน หน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา หากพอจัดจังวะว่างได้ ไปกินข้าวและนั่งคุยกันนะครับ
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ ครับ น้องคุณครูอ้อยเล็ก การดำเนินชีวิตและวิถีปฏิบัติของคุณยายวงนี่ ไร้ความเป็นตัวตนและให้แรงบันดาลใจผู้คนที่มีชีวิตธรมดาๆดีครับ เลยนำมาถ่ายทอดและแบ่งปันกันไว้
สวัสดีครับคุณแสงแห่งความดี คุณแสงแห่งความดีเป็นผู้เรียนรู้อยู่เสมออยู่แล้วครับ แล้วก็เป็นผู้มีความนอบน้อม เหมือนการงอกงามและเติบโตของรวงข้าวเลยครับ ผมก็ได้ปัญญาและเป็นนักเรียนของคุณแสงแห่งความดีอยู่มากมายหลายอย่างครับ
มาช้ายังดีกว่าไม่มานะคะ
ปกติแล้วไม่ถนัดเข้า go to know หรือแม้แต่ OK nation เพราะมัวแต่โลดแล่นอยู่บนเว็บนก
พอดีคุยกับน้องเหมียว(เขียนชื่อจริงยากจังค่ะ) เรื่องพาเด็ก ๆ จบใหม่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดเขาวัง
ยัยเหมียวเลยสะกิดให้มารู้จักคุณยายวง
พอรู้จัก(ผ่านตัวอักษร)แล้วก็ให้เกิดความปีติลึก ๆ ในใจ
คุณยายเป็นบุคคลที่งดงามจริง ๆ ค่ะ
แค่เพียงได้อ่าน ยังเกิดความสุขมากมาย และได้แง่คิดเยอะแยะเลย
เวลาเราเหลือน้อยลงทุกวันแล้ว คงต้องเร่งมือเร่งเท้าเดินให้ถูกทางให้มากขึ้นแล้วละ
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดีที่นำมาแบ่งปันนะคะ
และขอกราบคุณยายวง งาม ๆ มา ณ บรรทัดนี้ด้วยค่ะ
สวัสดีครับพี่เล็ก
สวัสดีคะ อาจารย์วิรัตน์
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
สวัสดีคะอาจารย์
สวัสดีครบอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์