ความรู้เกี่ยวกับ Blog


ความหมายที่อ้างอิงจาก www.webopedia.com เขียนไว้ว่า

Blog (n.) Short for Web log, a blog is a Web page that serves as a publicly accessible personal journal for an individual. Typically updated daily, blogs often reflect the personality of the author.

แปลได้ว่า : Blog ย่อมาจาก "Weblog" โดยตัดตัว "We" ด้านหน้าออกไป และหมายถึงหน้าเว็บที่ใครๆก็เข้าไปอ่านเรื่องที่คนเขียนเรื่องต่างๆเอาไว้ได้ของแต่ละคน โดยมากก็จะอัพเดตกันได้ทุกวัน และ blog มักจะสะท้อนบุคลิกส่วนตัวของเจ้าของ blog

ผู้คิดค้น

คำว่า "Weblog" ถูกใช้เป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี 1997. ต่อมามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมาเรียกย่อเหลือแต่"blog" แทนในเดือนเมษายนปีคศ. 1999 และจนมาถึงวันที่ 13 มีนาคม คศ.2003 ทาง Oxford English Dictionary จึงได้บรรจุคำว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ

รูปแบบ

รูปแบบของ blog นั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่เป็นหัวข้อลิงค์ง่ายๆไปจนถึงการรวมเรื่องที่มีการให้คนอื่นที่มาดู blog เขียนคอมเม้นท์ไว้ได้ หรือโหวตให้คะแนนได้ blog มักจะลงวันที่และเวลาที่เขียนไว้ด้วย และรายการที่โพสล่าสุดมักจะอยู่ข้างบน เนื่องจากลิงค์เป็นเรื่องสำคัญมากของ blog โดยมาก blog ต่างๆจึงต้องทำลิงค์ให้ไปอ่านเรื่องเก่าๆได้ง่ายและชื่อเว็บที่เรียกเข้า blog แต่ละคนก็จะเขียนแบบง่ายๆ

 

แนวคิดการบริหาร : Blog สื่อใหม่ที่น่าจับตา

โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์

14 มีนาคม 2548 18:36 น.

         
       Blog คืออะไร? ผู้รู้หลายๆ ท่านมักจะชอบเปรียบเปรยว่า Blog เป็นเหมือนกับสมุดบันทึกหรือไดอารี่ที่เราเขียนเป็นประจำ เพียงแต่สมุดบันทึกดังกล่าวแทนที่จะเขียนบนกระดาษเรากลับเขียนลงบนโลกออนไลน์ ที่คนทั่วโลกเขาสามารถอ่านกันได้ พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นตอบกลับมาได้
       
        เรื่องที่เราเขียนบน Blog อาจจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากจะเขียนไม่ว่าจะเป็นการพร่ำพรรณนาถึงแสงแดด สายลม และความรัก หรือ การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เราเจอรอบๆ ตัว หรือ แม้กระทั่งการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ ฯลฯ
       
        ชื่อของ Blog นั้นมาจากคำว่า Weblog แต่เรียกให้สั้นเข้าก็เลยตัด We ออกเหลือเพียงแค่ Blog เท่านั้น และทาง Oxford English Dictionary ก็ได้บรรจุคำๆ นี้ลงในพจนานุกรมของตัวเองแล้ว Blog ทำให้ทุกคนสามารถกลายเป็นนักเขียนได้อย่างรวดเร็วและสะดวกที่สุด ตอนนี้ประมาณกันว่ามีจำนวนผู้ที่เขียน Blog เป็นประจำมากกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก
       
        ถึงแม้อินเตอร์เนตจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในเรื่องของการสื่อสารข้อมูลข่าวสารต่างๆ มานานนับสิบกว่าปีแล้ว แต่ลองสังเกตดูว่าข่าวที่สื่อออกไปผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้นก็ยังเป็นข่าวเดิมๆ ที่ได้มีการสื่อผ่านทางช่องทางอื่นอยู่แล้ว ไม่ต้องมองอื่นไกล เว็บข่าวหลายๆ แห่งของเมืองไทยก็นำเนื้อหามาจากหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ โดยดัดแปลงเข้าสื่ออินเตอร์เนตเท่านั้นเอง
       
        แต่ในโลกของ Blog หรือที่เขาเรียกกันว่า Blogosphere นั้น โลกของข้อมูลข่าวสารที่เขียนนั้นไม่ได้ถูกควบคุมและผู้เขียนเป็นผู้เลือกสิ่งที่จะเขียน ผลก็คือ Blog หลายๆ แห่งทั่วโลกกำลังกลายเป็นสื่อแห่งใหม่ที่กำลังส่งผลและมีอิทธิพลต่อความคิด วิถีชีวิต หรือพฤติกรรมในการซื้อของ ของคนนับล้านทั่วโลก ซึ่งสุดท้ายองค์กรธุรกิจก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวต่อกระแสความตื่นตัวของ Blog อย่างไรก็ดี ซึ่งในตอนนี้องค์กรยักษ์ใหญ่หลายๆ แห่งก็เริ่มที่จะตระหนักและปรับตัวให้ทันตามกระแส Blog กันมากขึ้น
       
        ดูตัวอย่างที่ส่งผลกระทบในด้านลบต่อองค์กรธุรกิจบ้าง เมื่อปลายปีที่แล้วมีคนเขียน Blog เกี่ยวกับปัญหาของที่ล็อคกุญแจจักรยานยี่ห้อ Kryptonite (เป็นรูปตัวยู เอาไว้ล็อคจักรยานกับราวเหล็กกันขโมย) ว่าที่ล็อคยี่ห้อนี้สามารถแงะออกมาได้ด้วยเพียงแค่ปากกาลูกลื่น ซึ่งข่าวก็กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก มี Blog บางแห่งที่มีวิดีโอสาธิตให้ดูด้วย
       
        ในตอนแรกบริษัท Kryptonite ก็เพียงออกมาแก้ข่าวว่าไม่เป็นความจริงและสัญญาว่าในรุ่นต่อไปจะแข็งแรงยิ่งขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ข่าวสงบลง ทุกวันก็จะมีการเขียน Blog ใหม่ๆ ถึงที่ล็อคกุญแจยี่ห้อดังกล่าว จนท้ายที่สุดเพียงแค่สิบวันจากที่มี Blog แรก ทางบริษัทตัดสินใจที่จะส่งที่ล็อคกุญแจอันใหม่ไปให้ผู้ใช้ทั้งหมด 100,000 อัน ทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินทั้งหมด 10 ล้านเหรียญ (เป็นบริษัทที่มีรายได้ 25 ล้านเหรียญต่อปี) 10 วัน 10 ล้านเหรียญ
       
        ในขณะเดียวกันก็มีบางบริษัทเช่นมาสด้าที่พยายามจะใช้ประโยชน์จาก Blog เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น โดยเขียน Blog ของตัวเองขึ้นมา (ใช้ชื่อสมมติ) และใน Blog ดังกล่าวก็มีแต่วิดีโอโฆษณารถของมาสด้า ซึ่งผลก็คือผู้ที่เข้ามาดูไม่ถูกหลอก และมาสด้าก็ถูกวิจารณ์ไปจนต้องปิด Blog ของตัวเองลงภายในสามวัน
       
        แต่ก็ใช่ว่า Blog จะส่งผลในทางลบต่อองค์กรธุรกิจ ส่งผลในทางบวกก็มี เช่นกรณีของ Shayne McQuade ผู้ประกอบการที่คิดเป้สะพายหลัง ที่มีแผงพลังงานรับพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อนำมาใช้ในการชาร์จพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งเรามักจะพกติดกระเป๋า เช่นโทรศัพท์มือถือ หรือ PDA ต่างๆ ซึ่ง McQuade ก็ได้ทำการออกแบบ ผลิตทุกอย่างจนเรียบร้อย เหลือเพียงแค่การทำการตลาด ซึ่ง McQuade ก็ได้ขอให้เพื่อนของเขาที่มี Blog ของตัวเอง ช่วยพูดถึงสินค้าของเขาให้หน่อย ปรากฏว่าจาก Blog เล็กๆ ภายในไม่กี่ชั่วโมงก็ได้มี Blog ขนาดใหญ่ที่พาดพิงถึง และสุดท้ายยอดสั่งซื้อก็เข้ามาอย่างทะลักทลาย
       
        ในปัจจุบันอาจจะถือว่าวิวัฒนาการและความนิยมของ Blog ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่จากผู้เชี่ยวชาญหลายๆ สำนักต่างมองตรงกันว่า Blog จะเป็นความตื่นตัวครั้งใหม่ในวงการ ซึ่งองค์กรธุรกิจทุกแห่งจะต้องรู้จักที่จะปรับตัวและใช้ประโยชน์จาก Blog ให้เป็น มีการเตือนกันไว้ว่านักการตลาดจะต้องรู้จักที่จะบริหารจัดการกับ Blog ด้วยวิธีการที่แตกต่างจากสื่อธรรมดาทั่วๆ ไป เนื่องจาก Blog ไม่ได้เป็นเพียงที่ๆ จะโฆษณาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ๆ คนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย
       
        ผู้อ่านที่อยากจะรู้จักและเข้าใจ Blog ให้มากขึ้นลอง
       เริ่มต้นที่ Blogger.com ดูก็ได้ เป็นของ Google หรือ มีหลายเว็บที่ได้รับการจัดลำดับให้อยู่ในพวกยอดนิยมเช่น www.weblog.ro หรือ www.slashdot.org หรือในเมืองไทยที่ตอนนี้เป็นแหล่งรวม Blog ใหญ่ๆ ก็มีที่เว็บของผู้จัดการ (weblog.manager.co.th) หรือถ้าผู้อ่านยังมีใจวัยรุ่นหน่อยก็ลองไปดูที่ www.kapook.com ก็ได้

คำสำคัญ (Tags): #blog#web blog#weblog
หมายเลขบันทึก: 219008เขียนเมื่อ 27 ตุลาคม 2008 09:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่านได้ความรู้ขอบคุณมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท