โชคร้าย แต่ก็ยังมีโอกาสดีสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวทุกข์ทรมาน เพราะต้องรักษาต่อเนื่องไปตลอดชีวิต หลายครอบครัวต้องล้มละลายจากการที่ต้องนำทรัพย์สินเงินทองมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา กระทั่งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2550 ให้บรรจุสิทธิประโยชน์บริการทดแทนไตสำหรับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีความครอบคลุม คือ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 สำหรับ 1).การผ่าตัดปลูกถ่ายไต(Kidney Transplantation หรือ KT) ในกรณีที่สามารถหาไตบริจาคได้ รวมทั้งรับยากดภูมิคุ้มกันต่อเนื่องตลอดชีวิต2).การทดแทนไตด้วยวิธีล้างไตผ่านทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง (Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis หรือ CAPD)ทั้งผู้ป่วยรายเก่า และผู้ป่วยรายใหม่3).ผู้ป่วยรายเก่าที่กำลังฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม(Hemodialysis หรือ HD) อยู่ถ้าจะใช้วิธีเดิมไม่เปลี่ยนเป็นการล้างไตผ่านทางช่องท้องจะต้องร่วมจ่ายประมาณหนึ่งในสามส่วนของค่าฟอกเลือด4).สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ที่จะใช้วิธีฟอกเลือดต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
ทั้งนี้ เนื่องจากอยู่ในระยะเริ่มต้นยังไม่ครอบคลุมทุกหน่วยบริการ (กย.51) มีหน่วยบริการเข้าร่วมโครงการ 83 แห่ง และในเดือนตุลาคม 2551 นี้จะขยายให้ครอบ 100 แห่ง ซึ่งจะครอบคลุมทุกจังหวัด ทั่วประเทศ สามารถสอบถามรายชื่อหน่วยบริการได้ที่ สายด่วนบัตรทอง โทร.1330 ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 เป็นต้นมา จะได้รับบริการ
(1).ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่กำลังฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2551 (ผู้ป่วยรายเก่า) ถ้าใช้วิธีฟอกเลือดเช่นเดิมไม่เปลี่ยนเป็น CAPD จะได้รับความคุ้มครอง โดยร่วมจ่ายไม่เกิน 500 บาท รวมถึงค่ายาเพิ่มเม็ดเลือดด้วย
(2).ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ป่วยหลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2551 (ผู้ป่วยรายใหม่) ที่ต้องฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม โดยมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่กำหนดไว้ ผู้ป่วยไม่ต้องจ่าย โดยสปสช.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้หน่วยบริการครั้งละ 1,500 บาท
(3).ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ป่วยหลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2551 (ผู้ป่วยรายใหม่) ที่ต้องการฟอกเลือด โดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่กำหนด จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
ขั้นตอนการเข้ารับบริการ
ก. สำหรับผู้ป่วยที่มีสิทธิบัตรทอง ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายและรับบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2551 และต้องการรับบริการฟอกเลือดต่อไป โดยไม่เปลี่ยนเป็นการล้างไตทางช่องท้อง มีขั้นตอนการรับบริการ ดังนี้
1.ตรวจสอบสิทธิ ณ หน่วยบริการประจำว่าเป็นผู้มีสิทธิบัตรทอง
2.สอบถามหน่วยบริการที่ฟอกเลือดอยู่ ถึงการเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อของสปสช
3.หากหน่วยบริการที่ฟอกเลือดอยู่ เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเพื่อการฟอกเลือด ให้ยืนยันการรับบริการ และติดต่อที่หน่วยบริการตามสิทธิเพื่อให้รับทราบด้วย โดยแสดงหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรทอง
4.กรณีที่หน่วยบริการที่ฟอกเลือดอยู่ ไม่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเพื่อการฟอกเลือด ให้ติดต่อหน่วยบริการประจำตามสิทธิ หรือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสาขาเขตเพชรบุรี หรือ สายด่วนบัตรทอง โทร.1330
ข. สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ที่มีสิทธิบัตรทอง ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และต้องรับบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม โดยมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่กำหนดไว้ (เพราะไม่สามารถรับบริการล้างไตทางช่องท้องได้) มีขั้นตอนการรับบริการ ดังนี้
1.หน่วยบริการที่ให้บริการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง แจ้งผู้ป่วย และตรวจสอบความเป็นผู้มีสิทธิบัตรทอง
2.หน่วยบริการที่รักษาส่งรายชื่อผู้ป่วยไตวายเรื้อรังพร้อมข้อบ่งชี้ที่ทำให้ไม่สามารถรับบริการล้างไตทางช่องท้องให้คณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณา
3.เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยในระบบ
4.ผู้ป่วยฟอกเลือดอย่างต่อเนื่องที่หน่วยบริการ ตามที่คณะกรรมการพิจารณา
ค. สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ที่มีสิทธิบัตรทอง ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และรับบริการทดแทนไตด้วยการล้างไตทางช่องท้อง ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ สายด่วนบัตรทอง โทร.1330 (ตลอด 24 ชม.) หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี โทร 032-425100,032-425284 (ในวันและเวลาทำการ)
.............................................................................................................
อ่ะ ใครจะไตวาย เข้ามาเลยครับ อิอิ
ขอบคุณ มีสิ่งดีดีมาบอกกัน