...สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพามาเที่ยวต่อจากตอนที่แล้วที่ Monaco ครับ...
...วันที่ผมไปก็ได้พาพี่ๆที่เค้ามาจากเมืองไทย ไปเสี่ยงโชคนิดหน่อย ที่ Le casino de Monte Carlo .. ให้ได้ชื่อว่าร่วมกิจกรรมกับเค้า..ให้เป็นไปตามกุศโลบายที่เค้าอุตส่าห์ตั้งคาสิโนขึ้นมา และเป็นการอุดหนุนประเทศที่เสียสละให้เรามาเที่ยวกันด้วย ใจดีมากๆ ...หมดไปเบ็ดเสร็จ 5 ยูโรครับ
เราก็กลับขึ้นรถเพื่อจะไปกันต่ออีกฟากหนึ่งของโมนาโก (หรือ โมนาโค นั่นแหละครับ อันเดียวกัน)...ซึ่งเป็นส่วนที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังของกษัตริย์โมนาโกครับ ขับรถจากตรง Le casino de Monte Carlo เพียงแค่ประมาณ 10 นาที เราก็มาเข้าที่จอดรถที่แสนสะดวกสบายอีกที่หนึ่ง...
เมื่อเราเดินขึ้นมาจากที่จอดรถเราจะเจอ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ le Musée océanographique de Monaco เป็นตึกขนาดใหญ่สวยงาม..แต่อันนี้ผมก็ยังไม่เคยเข้าไปดูเลยครับ..เพราะมาแต่ละครั้งส่วนใหญ่จะค่อนข้างเร่งรีบ คือมาถึงตรงนี้ก็ต้องไปดูพระราชวังใช่มั้ยครับ...พิพิธภัณฑ์จึงถูกผมมองข้ามไปเสมอครับ..แต่คนอื่นต่อแถวเข้าดูกันเต็มเลยครับ ท่าทางน่าสนใจ..ติดเอาไว้ก่อนครับ
ทางเดินมุ่งหน้าไปสู่พระราชวังจะมองเห็นทะเลไปตลอดครับสวยงามทีเดียว...ช่วงหน้าร้อนอย่างนี้ก็จะมีผู้คนมาเล่นเรือกันจำนวนมากครับ
เดินผ่านหน้าพิพิธภัณฑ์มาหน่อยจะเป็นสวนสาธารณะ Le Jardin de Saint Martin ซึ่งมีคนบอกว่ากษัตริย์ Albert มาวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำครับ ซึ่งมีพันธุ์ไม้ต่างๆมากมาย แต่ที่สะดุดตาผม คือ มีหุ่นในอิริยาบทต่างๆ หลายมุมของสวนนี้ด้วย
ส่วนเจ้าสองตัวนี้สงสัยบินเหนื่อยเลยมาแวะพัก
...เดินมาเรื่อยๆ มีจุดชมวิวอยู่ตรงมุมสวนก็แวะไปดู ภาพที่เห็นด้านบนเป็นท่าจอดเรือหรูหรา ที่มีฉากหลังเป็นตึกสีสันสวยงาม ส่วนภาพด้านล่างนี้ เป็นที่เค้าสร้างขึ้นมาเพื่อลดความรุนแรงของคลื่นที่จะเข้าไปที่ท่าเรือน่ะครับ
...เมื่อเดินพ้นสวนมาแล้วจะพบกับ la Cathédrale de Monaco เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1875 ถือเป็นโบสถ์ประจำชาติและประจำของราชวงศ์โมนาโกด้วยครับ...หลุมพระศพของราชวงศ์โมนาโกก็อยู่ที่นี่ครับ รวมถึง Rainier III de Monaco ที่เพิ่งจะสิ้นพระชนม์ไป และ เจ้าหญิงเกรซ Princesse Grace de Monaco ด้วยครับ
ส่วนติดๆกันเป็น le Palais de Justice de Monaco เป็นศาลยุติธรรมเก่าแก่และดูขลังมากเลยครับ
ออกจากโบสถ์มาเราก็เดินผ่านบ้านเรือนที่มีสีสันสวยงาม ออกจะเป็นแนวเหลืองๆ ส้มๆ บางบ้าน มีหน้าต่างที่ประดับด้วยดอกไม้ต้นไม้สวยๆด้วยครับ...
ส่วนอันหลังนี่ไม่ได้ประดับนะครับ เค้าตากผ้าน่ะ ดูเป็นธรรมชาติไปอีกแบบ
เนื่องจากโมนาโกอย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้นจึงมีร้านขายของที่ระลึกจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะออกแนวสีแดงๆ ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ประจำชาติของเขา มีแดงกับขาว
และก็มีร้านอาหารให้เราเลือกรับประทานหลายร้านอยู่เหมือนกัน ราคาก็พอๆกับที่ฝรั่งเศสล่ะครับ (แพงพอๆกัน) ส่วนสองร้านด้านล่างนี้มีเทพนิยายมาเกี่ยวข้องด้วย 1.คือ พิน็อกชิโอ 2. คือ เจ้าหญิงนิทรา น่ารักและแปลกดีเลยเก็บมาฝากกันครับ
ส่วนอันนี้ไปรษณีย์เค้าครับเห็นว่าสวยดีน่ะครับ และติดๆกันนั้นก็เป็นโบสถ์ขนาดเล็กๆอีกแห่งหนึ่งครับ
...เมื่อเดินทะลุมาเรื่อยๆ ก็จะมาเจอเข้ากับ พระราชวัง le Palais Princier de Monaco ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ ที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าที่สร้างโดยชาวเจนัวส์ ประเทศอิตาลี เมื่อปี ค.ศ.1215 เห็นได้จากโดยรอบจะมีป้อมปืนใหญ่พร้อมกระสุนปืน แบบโบราณวางไว้จำนวนมากครับ
Le prince François Grimaldi ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ Grimaldi เริ่มใช้ที่นี่เป็นพระราชวังมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1297 ...ต่อจากนั้นเรื่อยมา สมาชิกของราชวงศ์ Grimaldi แห่งโมนาโกทุกพระองค์ล้วนแล้วแต่เคยประทับอยู่ที่นี่ครับ
ดูจากภายนอกแล้วเป็นพระราชวังที่ขนาดไม่ใหญ่นักนะครับ ด้านในเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าชมได้ด้วยนะครับ ในส่วนที่เปิดให้ชมมีด้วยกัน 15 ห้องครับ หรูหราสมกับเป็นพระราชวังครับผม... แต่ว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพน่ะครับ
ส่วนพ่อหนุ่มนี่เป็นทหารรักษาพระองค์ ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยและคอยไล่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในเขตหวงห้าม...จริงๆเค้าก็อุตส่าห์มีโซ่กั้นไว้แล้วนะ
ส่วนนี่เป็นทิวทัศน์ด้านซ้ายและขวาของพระราชวัง ด้านหนึ่งจะมองเห็นท่าเรือใหญ่ของโมนาโก ทะเล หมู่ตึก และทิวเขา สวยมากครับผม
...อีกด้านมีท่าเรือเหมือนกัน แต่เล็กกว่าหน่อย (แต่รูปนี้ไม่เห็นเรือ) และยังมองเห็นสนามฟุตบอลของ AS Monaco FC ซึ่งผมเคยได้ยินมาว่าเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลที่สวยที่สุดในโลกครับผม ส่วนทีมฟุตบอลเล่นร่วมในลีกของฝรั่งเศสครับ ก็เก่งพอตัวครับผม
ส่วนเจ้าหนูน้อยคนนี้สงสัยชาติที่แล้วเป็นพลปืนใหญ่(แบบสั้น) หญิงแน่ๆ กลับมานั่งประจำปืนอยู่...
ส่วน 2 ภาพนี้ข้างบนเป็นตึกฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังครับ สีสันสวยดีมั้ยครับ ..ด้านล่างเป็นป้ายชื่อถนนครับผม ดูเก่าแก่ดีนะครับ..
ส่วนปีนี้ โมนาโกจัดให้เป็นปีระลึกถึง "เจ้าหญิงเกรซ" แห่งโมนาโก (la princesse Grace de Monaco) หลายๆจุดของเมืองจึงมีป้าย ตามรอยเจ้าหญิงให้เราได้ดูกันด้วยครับ
..ปิดท้ายทริปนี้ ...ระลึกถึงพระองค์กันนะครับ la princesse Grace de Monaco
ประทับใจจริงๆค่ะ
เป็นบุญตา วาสนาที่ได้อ่านค่ะ
ขอบคุณนะคะ ที่นำสิ่งที่ดีมาให้อ่าน มาให้ชม
ตามครูอ้อยมาค่ะ
ชอบ blog นี้
ติดตามอ่านบ่อยๆ
ไม่เคยได้ ment
ขอบคุณความรู้สึกดีๆค่ะ
แวะมาเที่ยวกับคุณ pompier อีกแล้วค่ะ
ประทับใจเหมือนคย
ขอบคุณนะคะ
โอโห อลังการมากเลยตรับ
อยากมีโอกาสได้ไปเที่ยวแบบนี้กับเค้าสักครั้ง
ขอบคุณนะคร้าบ
ขอบคุณครับ คุณทหารอากาศขนาดยักษ์
ใช่แล้วครับผมเคยไปลงไว้บ้างที่ blueplanet ครับ
แต่นานมาแล้วนะ คราวนี้เลยมาชวนเพื่อนๆที่ G2K ไปเที่ยวบ้างครับ
มีอีกหลายเรื่องที่ตั้งใจจะนำมาเล่าสู่ให้กันฟังครับ
ขอบคุณที่เข้าไปเที่ยวกับนาย Pompier ที่ Bloggang ด้วยนะครับ...
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่รักการท่องเที่ยวครับผม
สวัสดีครับคุณ เกศนี บุณยวัฒนางกุล
สวัสดีค่ะ
ขอตามติดไปเที่ยวด้วยคนนะคะ
ภาพสวย ดนตรีเพราะ....
ขอบคุณค่ะ...^_^...
สวัสดีครับ คุณnaree suwan
ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะครับ
ตามมาชม และฟังเพลงเพราะๆ ค่ะ
โมนาโก...มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิดไว้เลยค่ะ
สุดยอดความสวย และสุดยอดแห่งความสุขที่มีโอกาสพบ ขอบคุณมากค่ะ